- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 21 June 2018 18:15
- Hits: 3136
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Stay in Domestic and Defensive//Accumulate on Dip
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index รีบาวด์ได้แรงกว่าที่เราคาดหลังจากที่ปรับตัวลงติดต่อกัน 5 วันก่อนหน้า โดยสามารถปิดบวกได้เกือบ 25 จุด แรงซื้อกลับส่วนใหญ่ค่อนข้างกระจายตัวในทุกกลุ่มโดยเฉพาะพลังงานและปิโตรเคมี นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่องอีก 3.6 พันลบ. (แต่ Long ใน Index Futures หนาแน่นเป็นวันที่ 2 อีก 1.6 หมื่นสัญญา) ส่วนสถาบันในประเทศและรายย่อยซื้อสุทธิกลุ่มละ 2.4 พันลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways หลังจากที่รีบาวด์ได้ค่อนข้างแรงวานนี้ แม้ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นคาดว่ายังช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานได้ แต่เรายังมองกรอบการบวกของดัชนียังไม่กว้างนักเนื่องจากประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนยังต้องติดตามพัฒนาการของข่าวอย่างต่อเนื่อง เราจึงยังแนะนำให้เน้นพักเงินหรือทยอยสะสมในหุ้น Domestic และ Defensive จาก Valuation ของตลาดที่เริ่มน่าสนใจ ประกอบกับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศระยะกลาง-ยาวที่ยังดูดี (ล่าสุดธปท.ปรับคาดการณ์ GDP ขึ้น) จึงเน้นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศและการลงทุนภาครัฐเป็นหลัก
กลยุทธ์ : พักเงินในหุ้น Domestic และ Defensive//Accumulate on Dip
หุ้นเด่นเดือนมิ.ย. : BGRIM, GLOBAL, MTC, PCSGH, TVO
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$318ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$284ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$111ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$242ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคจากความกังวลสงครามการค้า
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> CPALL <<
แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 98 บาท
ธุรกิจ 7-11 ยังแข็งแกร่ง SSSG ใน 2Q18 โตต่อเนื่องแม้เป็นฤดูฝน เพราะกำลังซื้อฟื้นตัวและยังได้อานิสงส์จากการปรับขึ้นราคาบุหรี่ ซึ่งโมเมนตัมนี้จะเร่งขึ้นอีกใน 2H18 ที่มักจัดโปรโมชั่นใหญ่ของปี
เป็นหุ้นใหญ่ที่ราคาฟื้นกลับช้า โดยวานนี้ที่ SET ขึ้น 1.5% แต่ CPALL ขึ้นแค่ 0.3% ขณะที่ ต่างชาติเริ่มหยุดขาย หลังจากยอดถือครองหุ้นลดเหลือ 35% ต่ำสุดในรอบ 1 ปี ส่วนยอด Short Sales ก็เริ่มกลับเข้าสู่ระดับปกติด้วยเช่นกัน
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) ราคาน้ำมันดิบเริ่มปรับตัวขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นเกือบ 2% อยู่ที่ $66.22/บาร์เรล จากรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ลดลง 5.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ 3.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นผลจากโครงสร้างตลาดน้ำมันในสหรัฐฯที่เป็นปัจจัยเฉพาะตัว ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบ Brent อ่อนตัวเล็กน้อย เพื่อรอดูการประชุมกลุ่มในและนอกโอเปกในวันที่ 22 มิ.ย. 18 โดยตลาดยังคาดว่าจะมีการปรับเพิ่มกำลังการผลิตอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามข้อเสนอของซาอุดิอาระเบียและรัสเซีย
(0) เงินบาทยังมีโอกาสอ่อนค่าได้อีก แรงกดดันมาจากการแข็งค่าของดอลล่าร์สหรัฐฯ ตามแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยปีนี้ต่างชาติขายหุ้นไทยไปแล้ว 1.7 แสนลบ. มากสุดในรอบ 5 ปี ทั้งที่เศรษฐกิจไทยโตดีสุดในช่วงเวลาเดียวกัน และด้วยความที่แรงขายของต่างชาติไม่ได้กระจุกแค่ตลาดหุ้น แต่กระจายไปถึงตลาดตราสารหนี้ โดยเดือนนี้ขายไปแล้ว 1.4 หมื่นลบ. ขณะที่ มาตรการลดขาดดุลการค้าของสหรัฐฯจะหนุน Dollar Index ให้ขึ้นได้อีกในระยะสั้น แนวโน้มเงินบาทจึงยังอ่อนค่า ซึ่งดีต่อผู้ส่งออก แต่ไม่ดีต่อกระแสเงิน ที่เป็นปัจจัยจำกัดการฟื้นของ SET อยู่ในระยะนี้
(+) กนง. คงดอกเบี้ยตามคาดแต่โทนการประชุมเป็นบวก เสียงคงดอกเบี้ยที่ 1.5% เริ่มไม่เป็นเอกฉันท์อีกครั้ง โดยมี 1 ท่านให้ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ส่วนมุมมองเศรษฐกิจ มีการปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปีนี้ขึ้นเป็น 4.4% จาก 4.1% รวมถึงปรับเพิ่มการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน แต่ปรับลดการลงทุนภาครัฐฯลงเล็กน้อย ขณะที่ เงินเฟ้อปีนี้ยังคาดเท่าเดิม 0.7% แต่ปรับปีหน้าขึ้นจาก 0.8% เป็น 0.9% เรามองบวกกับผลประชุมที่ออกมา เพราะอย่างน้อยก็สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวของภาคบริโภค ที่มีสัดส่วนกว่าครึ่งของ GDP กลุ่ม Domestic Play เช่น ค้าปลีก จึงยังน่าสนใจลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้
(0) BAY และ SCB รายงานสินเชื่อเดือนพ.ค. เติบโตสูงที่ +1.8% M-M (+2.5 หมื่นลบ.) และ +0.87% M-M (+1.7 หมื่นลบ.) ตามลำดับ การเติบโตของสินเชื่อส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อในกลุ่มลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ กระจายหลายกลุ่มอุตสาหกรรม และมีทั้งระยะสั้นและระยะยาว ในส่วนของสินเชื่อ SME ยังเห็นการชะลอตัว ส่วนสินเชื่อรายย่อยมีการเติบโตในกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ทำให้สินเชื่อ 5M18 +4%YTD (Console) และ +2.9%YTD ตามลำดับ เราแนะนำ ซื้อเก็งกำไร BAY (ราคาเหมาะสม 44.60 บาท) ส่วน SCB คงคำแนะนำ ถือ (ราคาเหมาะสม 142 บาท)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
21 มิ.ย.- ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลาง (BSP) ประชุม ตลาดคาดขึ้นดอกเบี้ย
22 มิ.ย.- ยูโรโซน: Markit Eurozone Manufacturing PMI (มิ.ย.)
22-23 มิ.ย.- การประชุมกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC
28 มิ.ย.- สหรัฐฯ: 1Q18 GDP ขั้นสุดท้าย ตลาดคาดลดลงเหลือ 2.2% จาก 2.9%
(0) ตลาดสหรัฐปรับตัวผสมผสาน แม้ว่าหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยียังสามารถพยุงตลาดไว้ได้ แต่ปัญหาเรื่องสงครามทางการค้ายังคงกดดันตลาดอย่างต่อเนื่อง
(+) ตลาดยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงรอดูผลการประชุม BOE ในวันนี้
(0) ตลาดเอเชียปรับตัวผสมผสานเช้านี้เช่นกัน แต่ตลาดยังคงรอดูข้อเรียกร้องของรัฐบาลญี่ปุ่น ที่ต้องการให้มีการปรับค่าจ้างขึ้นปีละ 3% เพื่อเพิ่มอัตราเงินเฟ้อ หลังจากญี่ปุ่นประสบปัญหานี้มาอย่างยาวนาน
() ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่บริเวณ 32.80-32.90 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 1.15 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 66.22 ดอลลาร์/บาเรลล์ หลังตัวเลขสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวลงมากกว่าคาดกว่า 4 ล้านบาร์เรล สะท้อนปริมาณความต้องการของโรงกลั่นในสหรัฐเพื่อรองรับ Driving Season
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ลดลง 4.10 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1,274.50 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB : FINNANSIA SYRUS SECURITIES LINE : @fnsyrus
OO10327