เน้นสะสมหุ้นขนาดใหญ่ที่ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง แต่ Valuation ลงมาต่ำเกินไป

 

  ราคาปิด 24.70 บาท

  ราคาเหมาะสม 30.50 บาท

          เรามองว่า CPF ได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินบาท และคาดว่ากำไรปกติ 2Q61 จะฟื้นตัว QoQ และเร่งตัวขึ้นใน 2H61 จากราคาหมูและราคาไก่ในประเทศที่เริ่มขยับขึ้น 

          ราคา ณ ปัจจุบันมี Valuation น่าสนใจ ที่ระดับ -0.5SD จึงเชื่อว่ามี Downside Risk จำกัด และราคาต่ำกว่ามูลค่าเงินลงทุนใน CPALL เทียบเท่าต่อหุ้น CPF ที่ 27.00 บาท

 

  ราคาปิด 70.50 บาท

  ราคาเหมาะสม 86.50 บาท

          เราคาดกำไรปกติ 2Q61 เติบโต QoQ และ YoY เด่นจากการรับรู้รายได้โครงการคอนโดมิเนียม และ 3Q61 รายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้น YoY จากการเปิดพื้นที่ห้าง CTW เต็มรูปแบบ

          ราคา ณ ปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ -1SD EV/EBITDA เชื่อว่ามี Downside Risk จำกัด และบน Theme การลงทุน แบบ Bottom Fishing ขณะที่ NVDR ซื้อสุทธิสูงสุดเป็นอันดับ 1 วานนี้เป็น Sentiment บวก

 

  ราคาปิด 56.00 บาท

  ราคาเหมาะสม 84.00 บาท

          การเข้าซื้อกิจการโรงงาน PET ในอียิปต์ กำลังการผลิต 5.4 แสนตันต่อปี เป็นบวกต่อกำไรปี 2561 และ 2562 ราว 200-400 ล้านบาท ทำให้เราปรับประมาณการกำไรปกติขึ้นเล็กน้อยเป็น 2.3 หมื่นล้านบาทใน 2561 เติบโต +40.4% YoY

          แนวโน้มกำไรปกติ 2Q61 มีโอกาสทำระดับสูงสุดใหม่เป็นไตรมาสที่ 2 จาก Spread ของทุกผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น ส่วน 3Q61 มีกำลังผลิตใหม่ของโรงงาน Ethylene Cracker ในสหรัฐฯ

 

  ราคาปิด 83.75 บาท

  แนวต้านทางเทคนิค 86.00 บาท 

          สัญญาณทางเทคนิคราคาหุ้นมีโอกาสขึ้นทดสอบ 86.00 บาท แนวรับ 83.25 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 82.50 บาท 

          เราคาดกลุ่มพลังงานจะ Outperform ตลาดได้อีกครั้ง หลังรู้ผลการประชุม OPEC วันที่ 22 มิ.ย. โดยตลาดคาดว่าจะมีการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีกราว 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน หากออกมาใกล้คาด เชื่อว่าจะไม่เป็นปัจจัยลบต่อราคาน้ำมันดิบ

 

Pair Trade  :  N.A.

 

          SET INDEX วานนี้กลับมาปิดยืนเหนือ 1660 จุดได้อย่างแข็งแกร่ง จากการฟื้นตัวของกลุ่มหลักอย่างกลุ่มพลังงาน /ปิโตรเคมี/ โรงพยาบาล / สื่อสาร แม้ว่ามูลค่าการซื้อขายจะไม่หนาแน่น แต่ช่วยให้จิตวิทยาการลงทุนโดยรวมดีขึ้นกว่าในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมา ทั้งนี้ ณ ระดับปิด 1664 จุด คิดเป็น PER61 ที่ 15.18x ใกล้เคียง ค่าเฉลี่ย 5 ปีของ 1Yr Forward PER ที่ 15.12x แต่หากพิจารณา Valuation ของหุ้นหลักหลายๆ หลักทรัพย์ พบว่ามี Valuation ที่อยู่ในโซนซื้อ อย่าง CPF / CPN / IRPC/ BDMS/ BCH/ STANLY/ CPN/ ORI/ MINT/ IRPC/ PTTGC เป็นต้น ซึ่งหากเราต้องการ Bottom Fishing บนบรรยากาศการลงทุนที่นิ่งขึ้นก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ 

          ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานด้านศรษฐกิจไทยช่วยยืนยันการฟื้นตัวของ SET INDEX ในระยะยาว ล่าสุดธปท. ปรับเพิ่มประมาณการ GDP ไทยปี 2561 จาก 4.1% เป็น 4.4% สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2555 โดยปรับเพิ่มสมมติฐานการส่งออก/ การบริโภคภาคเอกชน/ การลงทุนภาคเอกชน (ดูบทวิเคราะห์ Economic Report เช้านี้)

          อย่างไรก็ดี ความกังวลต่อสงครามการค้า ยังคงกดดันให้กระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายเข้าสู่สินทรัพย์อิงสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ กดดันเงินบาทให้อ่อนค่าสู่ระดับ 32.8 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่กลับเป็นบวกหนุนต่อการเก็งกำไรหุ้นกลุ่มผู้ส่งออกอาหาร-เครื่องดื่ม อย่าง CPF/ SAPPE

          ดังนั้นกลยุทธ์ในช่วงนี้ เราหันกลับมาใช้แนวทาง Bottom Fishing เฟ้นหาหุ้นที่ราคาปรับตัวลงมามากจนทำให้ Valuation น่าสนใจ และ Downside จำกัด ส่วนหุ้น Global Play อาจหาจังหวะเข้าเก็งกำไรรอบสั้นได้เช่นกัน

 

          1. ติดตามตัวเลขส่งออกไทย เดือน พ.ค. คาด +9.9% YoY

          2. ภาพรวมเศรษฐกิจไทย หลังธปท.ปรับเพิ่ม GDP ปี 2561 ขึ้นจาก 4.1% เป็น 4.4% 

          3. คัดสรรหุ้นเด่นในแต่ละกลุ่มแบบ Bottom Fishing มีหุ้นอะไรที่น่าสนใจบ้าง?

          4. น้ำมันดิบ NYMEX กลับมายืนเหนือ US$65.00/barrel อีกครั้ง หลัง EIA รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันลดลงมากคาด คาดกลุ่มพลังงานจะไต่ระดับขึ้นหลังทราบผลการประชุม OPEC ในวันพรุ่งนี้

 

          วานนี้ SET INDEX ฟื้นตัวเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ ด้วยการปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 24.72 จุด มาปิดที่ 1664.26 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 6 หมื่นล้านบาท 

          กระแสเงินทุน : นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 13 อีกราว 3.6 พันล้านบาท รวม 13 วันทำการขายสุทธิทั้งสิ้นกว่า 4.1 หมื่นล้านบาท เพื่อลดความเสี่ยงจากค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง และทำ Arbitrage ด้วยการมีสถานะ Long สุทธิใน SET50 Index Futures ราว 1.6 หมื่นสัญญา เมื่อ S50M18 มี Discount จาก SET50 INDEX อยู่ 2.9 จุด  ขณะที่สถาบันในประเทศ พลิกกลับมาซื้อสุทธิวันแรกในรอบ 3 วันทำการราว 2.4 พันล้านบาท  แต่สถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Short สุทธิหนาแน่นราว 9.8 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิสะสมราว 2 หมื่นสัญญา และสถาบันในประเทศและบัญชีบล. มีสถานะ Long สุทธิสะสมราว 4.5 พันสัญญา 

          ตลาดตราสารหนี้ : นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 6 วันติดต่อกันอีกราว 6.8 พันล้านบาท รวม 6 วันทำการขายสุทธิกว่า 3 หมื่นล้านบาท กดดันค่าเงินบาทให้อ่อนค่าแตะ 32.80 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ

 

 

คณะกรรมาธิการยุโรป ประกาศเริ่มใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯในอัตรา 25% วันศุกร์นี้ มูลค่า 3.24 พันล้านเหรียญฯ และมีแผนจะเรียกเก็บอีก 4.17 พันล้านเหรียญฯ หลังจากนี้

แหล่งข่าวเผยจีนได้ทำการทบทวนข้อจำกัดในการลงทุนจากต่างประเทศฉบับใหม่ และจะเปิดเผยรายละเอียดภายในวันที่ 1 ก.ค. 2561

กนง.มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% ด้วยคะแนนเสียง 5:1 เสียง พร้อมปรับเพิ่มประมาณการ GDP ไทย ปี 2561 ขึ้นเป็น 4.4% จากเดิมคาด 4.1%

กกบ.เลื่อนประชุมเพื่อพิจารณากำหนดการบังคับใช้มาตรฐานบัญชี IFRS9 ออกไปเป็นช่วงวันที่ 15-17 ก.ค. 61

รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เผยเตรียมส่งหนังสือเชิญตัวแทนพรรคการเมือง เพื่อร่วมหารือประเด็นการปลดล็อคการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง

ติดตามการรายงานนำเข้า-ส่งออกไทย ตลาดคาดส่งออก เดือน พ.ค. ขยายตัว 9.9% YoY วันนี้

ติดตามการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) วันนี้

ติดตามการรายงานเงินเฟ้อญี่ปุ่น เดือนพ.ค. ตลาดคาดขยายตัว 0.6% YoY วันที่ 22 มิ.ย.

ติดตามการประชุม OPEC วันที่ 22 - 23 มิ.ย.