- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 21 June 2018 17:55
- Hits: 3348
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมาตลาดหุ้นเกิด Technical rebound นำโดยแรงซื้อในกลุ่มพลังงานอย่าง PTT, PTTEP, BANPU และหุ้นใหญ่อย่าง SCC, KBANK กลุ่มปิโตรอย่าง PTTGC, IVL และหุ้นรถไฟฟ้า BTS, BEM เกิดแรงซื้อคืนอีกครั้ง ในขณะที่หุ้นเข้าตลาดใหม่อย่าง DOD ปรับขึ้นเด่นกว่า 58% ณ.สิ้นวัน SET ปิดตลาดที่ 1,664 จุด (+24.7จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 6.0 หมื่นล้านบาท (มี Biglot BEM 130 ล้านหุ้น ราคา 7.65 บาท/หุ้น)ลดลงเมื่อเทียบกับวานก่อนหน้าที่ 8.4 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 3,633 ล้านบาท (นักลงทุนสถาบันกลับมาซื้อสุทธิ 2,434 ล้านบาท) แต่กลับมาเปิดสถานะ Long SET50 index future ที่ 16,063 สัญญา
Investment theme
ปัจจัยต่างประเทศยังมองเป็นความเสี่ยง เก็งกำไรได้เพียงบางกลุ่ม : นับตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนจนถึงปัจจุบันตลาดหุ้นผันผวนสูง โดยเฉพาะภายหลังจากถ้อยคำแถลงของคุณ Powell (นักวิเคราะห์ปรับเพิ่มโอกาสการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง 2 ในปีนี้) ฝั่งตลาดเกิดใหม่เอเชียเผชิญกับแรงขาย ผสมกับปัจจัยกดดันเรื่อง Tradewar ที่ดูเหมือนจะเพิ่มความรุนแรงขึ้น กลับมาที่ประเทศไทยเราพบว่า MTD นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยสูงกว่า 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐซึ่งสูงกว่าภูมิภาค (อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, เวียดนาม เฉลี่ยที่ 520 ล้านเหรียญ) เป็นเหตุให้ SET ปรับตัวลงสูงกว่า 3.6% เมื่อเทียบกับภูมิภาคที่ 1.7% จนทำให้ส่วนต่างอัตราผลตอบแทน Earning yield gap ระหว่างตลาดหุ้นและพันธบัตร กลับขึ้นมายืนในจุดสูงสุดในรอบ 10 เดือนอีกครั้งที่บริเวณ 4.1% ทำให้ในระยะสั้นเรามองว่า SET อาจเกิด Technical rebound แต่จะมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยต่างประเทศอย่างผลการประชุม OPEC ในสุดสัปดาห์นี้และโอกาสของการเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ก่อนมีผลจริงในเดือนก.ค.
Investment Theme: เราประเมินแนวรับบริเวณ 1,620 จุด ปัจจุบันตลาดหุ้นเริ่มเข้าสู่สภาวะ Risk Off จากประเด็นสงครามการค้าที่เริ่มรุนแรงขึ้น ซึ่งยังไม่สามารถประเมินผลกระทบอย่างชัดเจนเนื่องจากมาตรการดังกล่าวที่มีผลจริงในวันที่ 6 ก.ค.นี้ สำหรับนักลงทุนระยะยาว คงคำแนะนำ Wait&See เพื่อรอความชัดเจน ในขณะที่หุ้นยังอยู่ในพอร์ตอย่างกลุ่ม Domestic ได้แก่กลุ่มรถไฟฟ้า BTS, BEM กลุ่มอสังหา GOLD, LH เรามองว่ายังถือต่อได้
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – กนง.เห็นชอบคงดอกเบี้ย 1.50% ตามตลาดคาด โดย 5 ใน 6 เห็นชอบ ในขณะที่กรรมการอีกหนึ่งท่านลาประชุม พร้อมปรับคาดการณ์การลงทุนภาคเอกชนเพิ่มเป็น 3.7% (จากเดิม 3.0%) /นายกประยุทธ์เดินทางพบ May ผู้นำอังกฤษ
Stock pick : N/A
Trading idea – สำหรับนักลงทุนระยะสั้น เรามองกรอบการเก็งกำไรบริเวณ 1,620-1,680 จุด แนะเก็งกำไร CPF คาดผลประกอบการพลิกจากขาดทุนมาเป็นกำไรใน 2Q61 เนื่องจากเข้าสู่ไฮซีซั่นของการส่งออก และราคาหมูเฉลี่ยในไทยฟื้นตัวราว 29% QoQ มาที่ 60 บาท/กก. ราคาหมูในเวียดนามฟื้นตัว 30% QoQ และกว่า 70% YoY มาที่ 40,000 VND/กก. / ทยอยสะสม IVL บริเวณแนวรับ 53.0 บาท
Technical View
เกิดแรง Technical Rebound ที่บริเวณแนวรับ 1630 : กราฟรายสัปดาห์(รูปเล็ก)ราคาปรับตัวลงถึงแนวรับสำคัญของกรอบ Uptrend Channel พร้อม Modified Stochastic ที่เข้าเขต Oversold ทำให้วันนี้ราคาไม่สร้าง Low ใหม่และเริ่มดีดตัวกลับ แต่เนื่องจากแนวโน้มระยะยาวที่ยังเป็นขาลง จึงมองว่าระยะสั้นเป็นเพียงการเกิด Technical Rebound ฉะนั้นจังหวะ Rebound ระหว่างวันยังมองเป็นโอกาสขายเพื่อลดพอร์ตตามแนวต้าน
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: แนะนำ Trade ในกรอบ 1650-1680 จังหวะ Rebound มองเป็นโอกาสขายลดพอร์ต 2) ไม่มีหุ้น: หากชอบความเสี่ยง แนะนำ Trade ในกรอบ 1650-1680 เน้นรอซื้อที่แนวรับ
แนวรับ : 1655, 1650 แนวต้าน : 1675, 1680
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: จับตาปัญหา Trade war, การประชุม OPEC 22 มิ.ย.
ปัจจัยในประเทศ: -
หุ้นเทคนิค:
PTTEP (B 127.00-128.00, Tp 132.00 // 135.00, Cut 125.00)
BDMS (B 25.00, Tp 27.00, Cut 24.70)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO10324