- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 18 June 2018 19:32
- Hits: 934
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
เน้นสะสมหุ้นDomestic Play
Smart Pick
สะสมCPF
ราคาปิด25.00บาท
ราคาเหมาะสม30.50บาท
ราคาหุ้นมีSentimentบวกจากสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ เราคาดCPFได้ประโยชน์ต่อโอกาสการส่งออกเนื้อหมูไก่ ไปยังจีนมากขึ้น หลังจีนขึ้นกำแพงภาษีส่วนนี้กับสหรัฐฯ
เราคาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน1Q61และเริ่มฟื้นตัวQoQใน2Q61และชัดเจนใน2H61จากราคาเนื้อสัตว์ในประเทศที่ปรับขึ้น อีกทั้งเงินบาทที่อ่อนค่าช่วยหนุนอัตรากำไรให้เร่งตัวขึ้น
เก็งกำไรADVANC
ราคาปิด190.50บาท
คาเหมาะสม250.00บาท
เราเชื่อว่าราคาหุ้นตอบรับเชิงบวกต่อเนื่อง หลังไม่มีเอกชนสนใจเข้าร่วมประมูลคลื่น1800 MHzอาจส่งผลให้ภาครัฐฯ กลับมาผ่อนปรนการแบ่งจ่ายค่าคลื่น900MHzเพื่อจูงใจให้เข้าประมูลคลื่น1800MHzอีกครั้ง
แนวโน้มกำไร2Q61เราคาดเติบโตYoYและต่อเนื่องทุกไตรมาสที่เหลือของปี ขณะที่Downside Riskจำกัด หลังราคาลงมาแล้ว19บาท หลังร่างการประมูลประกาศในราชกิจจาฯ
เก็งกำไรSTEC
ราคาปิด22.40บาท
ราคาเหมาะสม26.00บาท
กลุ่มรับเหมาก่อสร้างมีปัจจัยบวกรออยู่ คือ การเปิดขายซองTORประมูลรถไฟความเร็วสูง3สนามบิน ในวันที่18มิ.ย. -9ก.ค. วงเงิน2แสนล้านบาท ส่วนโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน และโครงการแหลมฉบังเฟส3ขายซองเดือนส.ค.นี้
แนวโน้มผลประกอบการ2Q61เราคาดคาดดีขึ้นต่อเนื่องQoQจากการรับรู้รายได้โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และมีBacklogในมือสูงถึง1.2แสนล้านบาท
เก็งกำไรAOT
ราคาปิด67.25บาท
แนวต้านทางเทคนิค69.00-70.00บาท
สัญญาณทางเทคนิคราคาหุ้นมีโอกาสไต่ระดับขึ้นทดสอบ69.00-70.00บาท แนวรับ66.75บาท และStop lossหากต่ำกว่า66.00บาท
คงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว และคาดว่าจะได้ประโยชน์จากการเกิดSector Rotationจากความกังวลต่อTrade Warระหว่างจีนและสหรัฐฯ และราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงเพื่อรอดูการประชุมOPECในวันศุกร์นี้
Pair Trade : N.A.
กลยุทธ์วันนี้
เรามองว่าปัจจัยต่างประเทศยังมีความไม่แน่นอนสูง จาก (1)ประเด็นสงครามการค้าเมื่อสหรัฐฯ ประกาศตั้งกำแพงภาษีนำเข้าอัตรา25%สินค้าจากจีนมูลค่ารวมกว่า3.4หมื่นล้านเหรียญฯ มีผลวันที่6ก.ค. ด้านจีนตอบโต้ด้วยการกำหนดอัตราภาษี25%สำหรับสินค้าเกษตร,ยานยนต์,ประมง เช่นกัน และ (2)ราคาน้ำมันดิบNMYEXปรับฐานลง2.7%จากความกังวลต่อการประชุมOPECในวันศุกร์นี้ เมื่อสมาชิกเสียงแตก หลังซาอุฯและรัสเซียพยายามเพิ่มกำลังการผลิต แต่ประเทศอื่นสนับสนุนให้ตรึงเพดานกำลังการผลิตต่อไป
อีกทั้งแรงขายจากต่างชาติที่หนาแน่นผิดปกติตลอด3สัปดาห์ที่ผ่านมา สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับดัชนีMSCIในวันที่31พ.ค.และดัชนีFTSEในวันที่15มิ.ย. และเงินทุนต่างชาติที่ไหลออกจากตลาดเอเชียเกิดใหม่เพื่อปิดความเสี่ยงจากทิศทางค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า แต่หากกลับมาพิจารณาในแง่ของปัจจัยพื้นฐาน ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเงินการคลัง การเมือง และกำไรของบจ.ตลาดหุ้นไทยยังคงแข็งแกร่ง ทำให้เรามองว่าSET INDEXที่ต่ำกว่า1,700จุดเป็นแนวสะสมหุ้นหลักสำหรับนักลงทุนระยะ6-12เดือนข้างหน้า
สำหับกลยุทธ์ช่วงนี้ เรายังคงเน้นกลุ่มDomestic Playบนประเด็นการลงทุนหลัก ได้แก่ (1)หุ้นปันผลเด่นงวด1H61 (Dividend Plays)ได้แก่LH/ KKP/ TTW/ QH/ INTUCHและ (2)เก็งกำไรหุ้นที่อาจเป้นเป้าหมายการทำWindow Dressingอย่างAOT/ ADVANC/ BJC/ CPN/ CPALLหรือ (3)เก็งกำไรหุ้นส่งออกได้Sentimentเชิงบวกจากเงินบาทอ่อนค่าแตะ32.6บาท/เหรียญฯ ได้แก่CPF/ SAPPEเป็นต้น
HOT Topic
1.ไร้ผู้สมัครประมูลคลื่น1800MHZใครได้ ใครเสีย?
2.น้ำมันดิบNYMEXเช้านี้ หลุดUS$65.00/barrelเรามองอย่างไรต่อการประชุมOPECในวันศุกร์นี้
3.ประมูลรถไฟฟ้าความเร็วสูง3สนามบิน เริ่มขายซองTORวันนี้
4.จับตาการประชุม กนง. และการพิจารณาเลื่อน…ไม่เลื่อนIFRS 9ในวันพุธนี้
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วันศุกร์ที่ผ่านมาSET INDEXลงไปทำจุดต่ำสุดระหว่างวันที่บริเวณ1695จุด (-14.5จุด) ก่อนมีแรงซื้อหนุนให้ตลาดฟื้นตัวขึ้นมาปิดที่1704.82จุด (-5.04จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว6.9หมื่นล้านบาท โดยมีรายการBig Lotหุ้นPTTและHUMANมูลค่ารวมกว่า2.5พันล้านบาท ด้านกระแสเงินทุนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็น10วันมากถึง7.5พันล้านบาท รวม10วันทำการขายสุทธิสะสมกว่า3.2หมื่นล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิเป็นวันที่16หนาแน่น5.9พันล้านบาท รวม16วันทำการซื้อสุทธิสะสมราว3.1หมื่นล้านบาท ด้านตลาดSET50 Index Futuresนักลงทุนต่างชาติมีสถานะLongสุทธิวันแรกในรอบ3วันทำการราว1.9พันสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะShortสุทธิวันแรกในรอบ3วันทำการราว1.3พันสัญญา ส่งผลให้QTDนักลงทุนต่างชาติมีสถานะShortสุทธิราว7.4พันสัญญา ขณะที่สถาบันในประเทศและบัญชีบล. มีสถานะLongสุทธิราว1.2หมื่นสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่3ราว4.6พันล้านบาท รวม3วันทำการขายสุทธิกว่า7.3พันล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
สหรัฐฯประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเทคโนโลยีจากจีน25%จำนวน818รายการ มูลค่า3.4หมื่นล้านเหรีญฯในวันที่6ก.ค.2561และกำลังพิจารณาเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอีก282รายการ ขณะที่จีนประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ545รายการ มูลค่า3.4หมื่นล้านเหรีญฯในวันที่6ก.ค.2561เช่นกัน
อิหร่าน อิรัก และ เวเนซุเอลา แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับแผนเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย และรัสเซีย
กสทช.เตรียมขอความเห็นจากรัฐบาล กรณีไม่มีผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือรายใด เข้าร่วมประมูลคลื่น1800MHzโดยคาดว่า จะมีแนวทางที่ชัดเจนขึ้นภายในวันที่10ก.ค.นี้
อียูรายงานเงินเฟ้อเดือนพ.ค. ขยายตัว1.9% YoYเท่ากับที่ตลาดคาด
Baker Hughesรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่4ติดต่อกันอีก1แท่น เป็น863แท่นในสัปดาห์ที่ผ่านมา สูงสุดในรอบกว่า3ปี
เริ่มเปิดขายซองTORโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม3สนามบิน วันนี้ (18มิ.ย.)
ติดตามการประชุมกนง. วันที่20มิ.ย.
ติดตามการประชุม กกบ. เพื่อพิจารณาว่าจะเลื่อนใช้มาตรฐานบัญชีIFRS9หรือไม่ ในวันที่20มิ.ย.
ติดตามการประกาศการเก็บภาษีของอียู (EU)ต่อสหรัฐฯ ระหว่างวันที่20 - 22มิ.ย.
ติดตามการประชุมBOEวันที่21มิ.ย.
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อญี่ปุ่น เดือนพ.ค. ตลาดคาดขยายตัว0.6% YoYวันที่22มิ.ย.
ติดตามการประชุมOPECวันที่22 - 23มิ.ย.
ติดตามการรายงานนำเข้า-ส่งออกไทย ตลาดคาดส่งออกขยายตัว10.1% YoY ระหว่างวันที่19 - 24มิ.ย.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO10158