- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 12 June 2018 17:38
- Hits: 3606
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
What’s in store ?
ภาพตลาดและแนวโน้ม โดยคุณวิกิจ ถิรวรรณรัตน์
เมื่อวาน ตลาดหุ้นไทย อยู่ในโหมด รอคอยพัฒนาการ ในหลายๆประเด็นที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ ทั้ง การค้า จีน-สหรัฐฯ, ผลประชุม FED ECB BOJ ต่อนโยบาย QE คาดวันนี้ ตลาดมีลุ้นดีดตัวไม่ไกล...
หุ้นแนะนำวันนี้
BCP RS
วิเคราะห์ทางเทคนิค โดยคุณธนรัตน์ อิศรกุล
Downside risk... ดัชนีตลาดหุ้นไทยโมเมนตัมเริ่มชะลอตัวไม่ผ่านเส้นกลาง Bollinger band 1750 จุด กรณีปรับลงแนวรับจะอยู่บริเวณใด…
รายงานวันนี้ โดยนักวิเคราะห์ทางด้านพื้นฐาน
RS (BUY) - 5 Reasons Why
ORI (BUY) - Aggressive recurring business plan
SEAFCO (BUY) - Key takeaways from Opportunity Day
Food (NEUTRAL) - Livestock: Entering domestic livestock low season
Refining & Chemical (NEUTRAL) - GRM slipped further; chemical spreads mostly expanded
Quantitative Strategy - เลือกเล่นเป็นรายตัว
Flow Tracker - ดัชนี Volume Flow อยู่ใกล้ระดับ Oversold
ปฏิทินหุ้น
ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ
Derivative Warrants
ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ
สรุปผลตอบแทนหลักทรัพย์
Tactical Port โดยคุณวิกิจ ถิรวรรณรัตน์
Model Port โดยคุณปรเมศ ทองบัว
Technical Port โดยคุณธนรัตน์ อิศรกุล
Quantitative Port โดยคุณชาญณรงค์ มีชัยเจริญยิ่ง
ภาพตลาดและแนวโน้ม
SET…wait and see mode (2)
เมื่อวาน ตลาดหุ้นไทย อยู่ในโหมด รอคอย...พัฒนาการ ในหลายๆประเด็นที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ ทั้ง การค้า จีน-สหรัฐฯ, ผลประชุม FED ECB BOJ ต่อนโยบาย QE ที่ส่วนใหญ่ได้ปรับลดลงมาในระดับหนึ่งแล้ว...ตลาดจะรอดูสัญญาณเพื่อประเมิน แนวทางรับมือความผันผวนของตลาดหุ้นและพันธบัตร ในครึ่งปีหลัง ซึ่งเราคาดว่าถ้อยแถลงหลังการประชุม ธนาคารกลางสำคัญๆ น่าจะพอเรียกความเชื่อมั่นในตลาดให้กลับมาได้
กลยุทธ์ ยังคงคาดเมื่อผ่านช่วงนี้ไปได้ หุ้นไทยที่ Sideway down มานานนับจาก Peak เมื่อเดือน กพ. และหมุนหุ้นเล่นมาตลอดแบบไร้ทิศทาง (ขึ้นแล้วกลับลงมาที่เดิม) น่าจะเริ่มเห็นการปรับขึ้นกลับไปดีเหมือนช่วงครึ่งปีที่แล้วได้...
วันนี้คาดตลาดมีลุ้นดีดตัวไม่ไกล กรอบระยะสัปดาห์ยังใช้ได้อยู่ 1,710-1,745 จุด
What to watch:
(+) MS คาดผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ 12-13 มิย. (รู้ผล 14 มิย.) รอบนี้ "เฟด" จะขยับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็น 1.75-2% โดยมีโอกาสที่ แนวโน้มดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีจาก Dot plot จะผ่อนคลายมากกว่าเดิม และ MS คงคาด US Bond yield 10 ปี จะไม่กลับขึ้นไปเกินกว่า 3.25% ซึ่งถ้าเป็นตามสมมุติฐานของ MS เราเชื่อว่าหุ้นไทยน่าจะทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง
(*) การประชุมธนาคารกลางยุโรป 14 มิย. เตรียมลดมาตรการ QE
(+) คาดภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ นายกฯจะยื่นทูลเกล้า กม.ลูก เลือกตั้ง 2 ฉบับ พร้อมทั้งจะนัดหารือพรรคการเมือง เพื่อปลดล็อคกิจกรรมทางการเมืองเป็นรายกรณีไป
(*) การเคลื่อนไหวของสหรัฐฯต่อมาตรการภาษีที่จะกำหนดกำแพงภาษีกับสินค้าจีน วงเงิน US$5 หมื่นล้าน โดยคาดสหรัฐจะแถลงรายชื่อสินค้า 15 มิย. นี้
หุ้นแนะนำวันนี้
BCP หุ้นติดโผ Under value stock ด้วย PE 2018 8x Dividend yield 5% ช่วงนี้ราคาน้ำมันดิบโดนปัจจัยกดดัน ผลประชุม OPEC 22-23 มิย. ว่าด้วยการเพิ่มกำลังการผลิตให้กลับมาตามโควต้า คาดค่าการตลาด และ ค่าการกลั่น จะกลับมาดีขึ้น
RS ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกนัดแรก 14 มิย. คนนั่งเฝาหน้าจอทีวีมีโอกาสหมุนช่องดูรายการอื่นขั้นเวลาโฆษณา (ดูรายงานวันนี้)
รายงานวันนี้
RS: 5 Reasons Why
เรามองว่าราคา RS ที่ปรับตัวลงมาแรงตั้งแต่ช่วงต้นปีเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ ราคาเปาหมาย 35.25 บาท ด้วย 5 เหตุผลหลัก
1) กำไรที่คาดเติบโตแข็งแกร่งทั้งใน 2Q18 และ 2H18
2) อัพไซด์ต่อประมาณการกำไรเปิดกว้างจากโอกาสการเติบโตของธุรกิจ MPC ที่ยังมีอีกมาก
3) ได้รับผลกระทบจำกัดจากประเด็น อย. และสภาวะอุตสาหกรรมดิจิตอลทีวี
4) Valuation ค่อนข้างน่าสนใจ เทรดอยู่ในระดับต่ำกว่าทั้งกลุ่มสื่อและกลุ่มเครื่องสำอางค์ แม้ว่ามีการเติบโตของกำไรที่ดีกว่า
FOOD (Livestock): Entering domestic livestock low season
ราคาหมูในเวียดนามปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องใน มิ.ย. จากอุปทานที่ลดลง ซึ่งจะหนุนธุรกิจของ CPF ใน 2Q18 เรามองว่าเทรนด์น่าจะฟนตัวต่อเนื่องใน 2H18 แต่ยังมีความเสี่ยงการค้าชายแดนกับจีน อย่างไรก็ตามปัจจัยด้านฤดูกาล (ฝนตก) ในประเทศ รวมถึงราคาวัตถุดิบที่ยืนในระดับสูง จะยังคงกดดันอัตรากำไรของธุรกิจปศุสัตว์ในประเทศใน 2H18 อย่างไรก็ตามราคาหมูในเวียดนามที่ปรับตัวขึ้นจะเป็นปัจจัยให้เข้าเก็งกำไร CPF ได้ในระยะสั้น
ORI: Aggressive recurring business plan
เรายังคง Bullish ในตัว ORI ซึ่งเมื่อวานนี้บริษัทเปิดแผน One Origin บริษัทในเครือที่จะทำธุรกิจที่สร้าง recurring income เช่น โรงแรม ออฟฟิสและค้าปลีก และธุรกิจอาหาร โดยคุณ กมลวรรณ วิปุลากร (CEO One Origin) เป็นผู้แถลงแผนธุรกิจ...
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อภาพธุรกิจในระยะยาวที่มีธุรกิจ recurring income เข้ามาช่วยหนุนผลประกอบการ และยังมีโอกาสในการรับรู้กำไรจากการขายสินทรัพย์เข้า REIT อย่างไรก็ดีเรามองว่ายังเป็นภาพระยะยาวเกินไปที่ตลาดจะให้มูลค่าในราคาหุ้น ดังนั้นเรามองว่าราคาหุ้นจะปรับตัวสะท้อนแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังที่จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวนมาก ประกอบกับกำไรที่จะก้าวกระโดดจากการโอน Park24 เฟส 2 จะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้น ยังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเปาหมาย 27 บาท
Quick Take
SEAFCO: Key takeaways from Opportunity Day
What's new? เราเข้าร่วมงาน Opportunity Day เช้านี้ ข้อมูลจากที่ประชุมยืนยันมุมมองเชิงบวกที่เรามีต่อบริษัท
Highlights:
SEAFCO เพิ่งได้รับงาน One Bangkok Phase4 มูลค่า 600 กว่าล้านบาทเพิ่มเข้ามา ทำให้ปัจจุบันบริษัทมี Backlog กว่า 4 พันล้านบาท
รายได้ 2Q18 จะเติบโตแรง QoQ เนื่องจากมีการดำเนินงานในโครงการ One Bangkok ที่มีในมือเดิมอย่างเต็มที่ รวมถึงทำงานภาครัฐอื่นๆ เช่น รถไฟฟาสายสีส้ม รถไฟฟาสายสีชมพู
Utilization rate ในด้านของแรงงานและอุปกรณ์เสริมอยู่ที่ 100% เต็ม แต่ยังมีเครื่องจักรขนาดเล็กและกลางว่างอยู่ประมาณ 20 ตัวเนื่องจากงานที่ดำเนินอยู่เป็นงานขนาดใหญ่ ทั้งนี้หากบริษัทมีแรงงานเพิ่มเข้ามาจะรับงานขนาดเล็กและกลางเพิ่มเติม
รายได้ปี 2018 มีโอกาสสูงกว่าเปาที่ผู้บริหารวางไว้ที่ 2.4 พันล้านบาท (เติบโต 25% YoY)
Action: จากใน 1Q18 ที่บริษัทมีมาร์จิ้นสูงถึง 21.9% และแนวโน้มรายได้ที่สดใส รวมถึงงานประมูลโครงการภาครัฐขนาดใหญ่ที่ชัดเจนขึ้น ทำให้ภาพอุตสาหกรรมรับเหมาฯ ดูชัดเจนขึ้น เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" SEAFCO ราคาเปาหมาย 10.40 บาท
Quantitative Strategy: เลือกเล่นเป็นรายตัว
ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในลักษณะไร้ทิศทาง ช่วงการสร้างฐานของตลาดอาจใช้เวลานานกว่าที่เราได้คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตามเราคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะยืนเหนือระดับ 1670 จุดได้ในเดือนมิถุนายนและน่าจะดีดตัวได้อย่างแข็งแกร่งในเดือนกรกฏาคม สำหรับ ณ เวลานี้เราแนะนำให้ใช้กลยุทธ์เน้นเลือกหุ้นรายตัว (Selective Buy) มากกว่าที่จะกังวลเกี่ยวกับภาวะตลาด
หุ้นที่เพิ่มเข้าพอร์ต: BBL, COM7, COL
Flow Tracker: ดัชนี Volume Flow อยู่ใกล้ระดับ Oversold
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 217 ล้านเหรียญสหรัฐฯในสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามดัชนี Volume Flow ของตลาดหุ้นไทยอยู่ในระดับใกล้ Oversold ชี้ว่าดาวน์ไซด์ของตลาดหุ้นไทยมีจำกัด จากดัชนี Volume Flow ของหุ้นกลุ่มต่างๆ เราเห็นกระแสเงินลงทุนจากต่างชาติไหลเข้าในหุ้นกลุ่ม ICT/สื่อสาร ของทั้งตลาดหุ้นไทย เกาหลีใต้ และไต้หวัน
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
(+) BGRIM GLOW GULF กกพ." ถก 5 ก.ค. เคาะค่าไฟฟางวดใหม่ (ก.ย.-ธ.ค.) แย้มยังมีเงินบริหารอีก 6,000 ล้านบาท ส่งสัญญาณอาจตรึงค่าไฟได้ แต่ขอให้ทำใจต้นปีหน้าค่าไฟขาขึ้นแน่นอน หลังน้ำมันพุ่ง (ที่มา ผู้จัดการ)
(+) กลุ่มทีวีดิจิตอล (คนนั่งเฝาหน้าจอ มีโอกาสหมุนช่องดูรายการอื่นขั้นเวลาโฆษณา) เคาะแล้วคิวยิงสดทีวี 3 ช่องศึกบอลโลก 64 แมตช์ 'บิ๊กปอม' ยันไร้ปัญหา 'ทรูโฟร์ยู-อมรินทร์ฯ-ช่อง 5' ดีเดย์พิธีเปิด-คู่แรกรัสเซีย-ซาอุฯ (ที่มติชน)
(+) PLANB เวิร์คพอยท์ร่วมทุนบีเอ็นเคตั้งบริษัท บีเอ็นเค โปรดักชั่น ทำรายการทีวีและออนไลน์ นายสุรการ ศิริโมทย์ ประธาน เจ้าหน้าที่ฝายบริหารการเงิน บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ (WORK) เปิดเผยว่า บริษัทร่วมลงทุนจัดตั้งบริษัทใหม่ ชื่อ บริษัท บีเอ็นเค โปรดักชั่น ทุนจดทะเบียน 4 ล้านบาท โดยถือหุ้น 4 หมื่นหุ้น หรือ 50% บริษัท บีเอ็นเค48 ออฟฟิศ ถือหุ้น 49.99% และนายจิรัฐ บวรวัฒนะ ถือหุ้น 0.01% เพื่อประกอบธุรกิจผลิตรายการโทรทัศน์ ออกอากาศทางโทรทัศน์และออนไลน์ และจัดงานกิจกรรมการตลาดและคอนเสิร์ต (ที่มา โพสต์ทูเดย์)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
OO9961