- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 11 June 2018 22:56
- Hits: 1076
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
เน้นสะสมหุ้น Domestic Play ต่อเนื่อง
Smart Pick
สะสม LH
ราคาปิด 11.30 บาท
ราคาเหมาะสม 11.80 บาท
เราคาดกำไรสุทธิ 2Q61 เติบโต QoQ จากกำไรพิเศษราว 950 ล้านบาท ผ่านการขาย Service Apartment ที่สหรัฐฯ และผลตอบแทนจากเงินปันผลงวด 1H61 หุ้นละ 0.44 บาท คิดเป็น Dividend Yield 3.9%
เราคงมุมมองบวกต่อผลประกอบการปี 2561 โดยวางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ถึง 3.6 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว YoY และคาดกำไรปกติปี 2561 เติบโตถึง +21% YoY เป็น 10,463 ล้านบาท
สะสม SAT
ราคาปิด 23.20 บาท
ราคาเหมาะสม 27.50 บาท
เราคงมุมมองเชิงบวกหลังประชุม Opportunity Day คาดกำไรปกติ 3 ไตรมาสที่เหลือของปี 2561 จะเติบโต YoY ทุกไตรมาส จากอุตฯ รถยนต์ในประเทศที่ฟื้นตัว และคำสั่งซื้อใหม่จาก GHN มูลค่า 300 ล้านบาทซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ใน 2H61
เราคาดกำไรปกติปี 2561 เติบโต +24.6% YoY เป็น 874 ล้านบาท และราคา ณ ปัจจุบันซื้อขาย PER2561 ราว 11.3 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 12 เท่า และ Dividend Yield 4.2%
สะสม CPALL
ราคาปิด 79.25 บาท
ราคาเหมาะสม 103.00 บาท
เราคาดหุ้นในกลุ่มค้าปลีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งร้านสะดวกซื้อเช่น 7-11 จะได้ Sentiment บวกจากการเข้าสู่เทศกาลบอลโลกตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย. - 15 ก.ค.
โดยแนวโน้ม SSSG เราคาดเป็นบวกต่อเนื่อง และคาดกำไรปกติปี 2561 เติบโต +17% YoY เป็น 23,101 ล้านบาท ราคาหุ้นที่อ่อนตัวลงตามภาวะตลาดเป็นโอกาสในการเข้าสะสม
เก็งกำไร CPF
ราคาปิด 25.75 บาท
แนวต้านทางเทคนิค 27.00 บาท
ทางเทคนิคราคาหุ้นมีโอกาสไต่ระดับขึ้นทดสอบ 27.00 บาท แนวรับ 25.50 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 24.75 บาท
เราคาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน 1Q61 และทยอยฟื้นตัวตั้งแต่ 2Q61 จากราคาเนื้อสัตว์ในประเทศที่เริ่มปรับตัวขึ้น ขณะที่ Downside Risk จำกัด ราคา ณ ปัจจุบันซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าเงินลงทุนใน CPALL ที่คิดเป็นต่อหุ้น CPF ราว 27.50 บาท
Pair Trade : N.A.
กลยุทธ์วันนี้
การประชุมผู้นำ G7 สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นไปอย่างข้างตึงเครียด เพราะสหรัฐฯ ไม่สามารถตกลงร่วมกับประเทศคู่ค้าในกลุ่ม G7 ได้ และประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความไม่พอใจต่อแถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรีของแคนาดา ซึ่งเป็นประเทศเจ้าภาพ ส่งผลให้สงครามการค้ากลับมากดดันบรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง
สัปดาห์นี้มีปัจจัยสำคัญตลอดสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็น การประชุมครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้นำเกาหลีเหนือ วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) ล่าสุดผู้นำของทั้งสองประเทศเดินทางถึงสิงคโปร์แล้ว รวมไปถึง การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีโอกาสส่งสัญญาณเตรียมยกเลิกมาตรการ QE วงเงิน 3 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนซึ่งสิ้นสุดโครงการเดือน ก.ย. รวมถึงการประชุมเฟดวันที่ 12-13 มิ.ย. ต่อทิศทางการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้จะเหลือเพียง 1 หรือ 2 ครั้ง ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางค่าเงินดอลลาร์
ด้วยปัจจัยข้างต้นทำให้เงินลงทุนชะลอตัว และ SET INDEX แกว่งออกข้าง (Sideways) เราประเมินกรอบการเคลื่อนไหววันนี้ 1715-1725 จุด กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ จึงเน้นหนักไปที่การซื้อเก็งกำไรหุ้น Domestic Play ที่มีปัจจัยบวกหนุนเฉพาะตัวในกลุ่มสื่อสาร/ ค้าปลีก/ ยานยนต์ สำหรับนักลงทุนที่รับความผันผวนได้จำกัด เราแนะนำให้เริ่มเข้าสะสมหุ้นปันผลเด่นงวด 1H61 (Dividend Play) ได้แก่ LH/ KKP/ TTW/ QH/ PSH/ INTUCH คาดผลตอบแทนเงินปันผลงวด 1H61 สูงเกิน 2%
HOT Topic
1. สรุปภาพรวมการประชุม G7 ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยรวมออกมาเป็นลบ
2. สัปดาห์แห่งการประชุมธนาคารกลาง ได้แก่ FED, ECB, BOJ เรามีมุมมองอย่างไร
3. คาดกลุ่มค้าปลีกจะฟื้นตัวช่วยหนุนตลาดจากการเข้าสู่เทศกาลบอลโลก
4. ติดตามการประชุมระหว่างผู้นำสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือในวันพรุ่งนี้ที่สิงคโปร์
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX ปรับตัวลงแรงถึง 11.01 จุด ปิดที่ 1722.04 จุด กดดันจากหุ้นขนาดใหญ่ นำโดย PTT (-2.39%), PTTEP (-2.51%), KBANK (-2.51%) และ SCB (-2.16%) กระทบดัชนีราว -7.1 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบางเพียง 4.3 หมื่นล้านบาท ด้านเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 5 อีกราว 3.3 พันล้านบาท รวม 5 วันทำการขายสุทธิสะสมราว 7 พันล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 11 อีกราว 872 ล้านบาท รวม 11 วันทำการซื้อสุทธิสะสมกว่า 1.9 หมื่นล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิวันที่ 2 อีกราว 5.5 พันสัญญา รวม 2 วันทำการมีสถานะ Short สุทธิสะสมราว 6.6 พันสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันอีกราว 2.1 พันสัญญา รวม 2 วันทำการมีสถานะ Long สุทธิสะสมราว 3.8 พันสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 12 อีกราว 540 ล้านบาท รวม 12 วันทำการซื้อสุทธิสะสมกว่า 6.2 หมื่นล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปฏิเสธรับแถลงการณ์การประชุม G7 พร้อมทั้งส่งสัญญาณเตรียมขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตรา 25%
นายกฯ เยอรมันและแคนาดา เตรียมประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เพื่อเป็นมาตรการตอบโต้การเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมของสหรัฐฯ วันที่ 1 ก.ค.61
จีนรายงานเงินเฟ้อเดือน พ.ค. ขยายตัว 1.8%YoY เท่ากับคาดการณ์ของตลาด
Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 1 แท่น เป็น 862 แท่น ทำจุดสูงสุดตั้งแต่เดือน มี.ค. 2558
ติดตามการประชุม ครม.สัญจร ที่จังหวัดพิจิตร และนครสวรรค์ วันที่ 11-12 มิ.ย.
จีนเตรียมใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดของไก่จากบราซิล โดยผู้นำเข้าจะต้องวางมัดจำในอัตราสูงสุดถึง 38.4% ของมูลค่านำเข้า
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน พ.ค. ตลาดคาดขยายตัว 2.7%YoY วันที่ 12 มิ.ย.
ติดตามการประชุมผู้นำระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือ วันที่ 12 มิ.ย.
ติดตามการประชุมเฟด วันที่ 12 - 13 มิ.ย.
ติดตามการประชุม ECB วันที่ 14 มิ.ย.
ติดตามการประชุม BOJ และการรายงานเงินเฟ้อยุโรป วันที่ 15 มิ.ย.
ติดตามการยื่นซองประมูลคลื่น 1800MHz วันที่ 15 มิ.ย.
ติดตามการประกาศหลักทรัพย์เพื่อใช้คำนวณดัชนี SET50-SET100 คาด ตลท.จะประกาศช่วงวันที่ 14-15 มิ.ย.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO9882