- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 05 June 2018 19:48
- Hits: 3196
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selections >> BTS, QH, SYNEX
Stock S R Comment
BTS 9.75 10.00 New Growth คุยพันธมิตรชิงรถไฟเชื่อมต่อ 3 สนามบิน
QH 3.30 3.44 ลดค่าใช้จ่าย เพิ่ม GP หนุนอัตราการทำกำไรแกร่ง
SYNEX 14.80 15.60 ยอดขายหัวเหว่ยมาแรง โตกว่า 100% เพิ่ทฐาน Market Share
FTSE, IMF report, MINT
FTSE : ตลท. และ FTSE Russell ประกาศผลการทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ชุดใหม่ที่จะใช้ในการคำนวณ FTSE SET Index Series มีผลตั้งแต่ช่วงปิดตลาดวันที่ 15 มิถุนายน 2561 เป็นต้นไป ดังนี้
1) หุ้นที่ถูกนำเข้าสู่ดัชนี FTSE SET Large Cap: ไม่มี
2) หุ้นที่ถูกถอดออกจากดัชนี FTSE SET Large Cap: ไม่มี
3) หุ้นที่ถูกนำเข้าสู่ดัชนี FTSE SET Mid Cap ได้แก่ GULF, MBK, THG, GOLD
4) หุ้นที่ถูกถอดออกจากดัชนี FTSE SET Mid Cap ได้แก่ GL, THCOM, CCET, SAMART, ICHI, TTCL, TTCL-W
มุมมองของเรา: อาจเป็นปัจจัยเชิง Sentiment ระยะสั้นต่อตัวหุ้นที่เกี่ยวข้อง โดยหากพิจารณาในกลุ่มของ SET Mid Cap เรามองตัวที่น่าสนใจสำหรับการซื้อเก็งกำไร ได้แก่ GULF เนื่องจากติดรายชื่อถูกนำเข้าดัชนี FTSE All-World Mid cap ก่อนหน้านี้ และ MBK เนื่องจากเป็นตัวที่เราคาดว่าจะถูกนำเข้าสู่ดัชนี SET100 ในรอบถัดไป ซึ่งตลท.เตรียมจะประกาศรายชื่อในช่วงกลางเดือนนี้
IMF: IMF เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยรอบล่าสุด มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
1) คาดว่าโมเมนตัมของการเติบโตทางเศรษฐกิจจะดำเนินต่อไปในปี 2018 และ 2019 สนับสนุนโดยภาคการส่งออกที่ยังคงแข็งแกร่ง
2) คาดการฟื้นตัวของการลงทุนภาครัฐจะส่งผลบวกทางอ้อมมายังการลงทุนภาคเอกชน (Crowding in)
3) ดุลบัญชีเดินสะพัดมีโอกาสที่จะเกินดุลลดลงในระยะกลาง เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศปรับตัวดีขึ้น
4) คาดการณ์เงินเฟ้อจะปรับตัวอยู่ภายใต้กรอบ 2.5% ซึ่งเป็นกรอบกลางในการดำเนินนโยบายของธปท.
5) Downside risk ต่อระบบเศรษฐกิจไทยได้แก่ ปัจจัยภายนอกเช่นมาตรการกีดกันการค้า และปัจจัยเชิงโครงสร้างภายใน ในทางกลับกัน Upside risk ที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ การฟื้นตัวดีกว่าคาดของการลงทุนในประเทศ
มุมมองของเราต่อรายงานของ IMF :
1) เราเห็นด้วยว่าการปรับตัวของเงินเฟ้อในช่วงถัดไปจะยังอยู่ภายใต้กรอบ 2.5% ด้วยเหตุนี้ จึงคาดว่ากนง.จะคงดอกเบี้ยที่ระดับ 1.5% ไปตลอดทั้งปีนี้ ดังนั้นเราจึงไม่แนะนำให้ลงทุนในกลุ่มธนาคารฯตามธีมการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้แต่อย่างใด
2) เราเห็นด้วยว่าการลงทุนในประเทศจะเป็น Upside risk ต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงถัดไป ซึ่งเราเห็นสัญญาณชี้นำที่ดีเบื้องต้นแล้ว อาทิเช่น ยอดนำเข้าสินค้าทุน ดัชนีการลงทุนภาคเอกชน และการขอรับการส่งเสริมการลงทุน แนะนำ CK เป็น Top pick ประจำธีมนี้ต่อไป
3) ประเมินว่าการฟื้นตัวของภาคการบริโภคยังคงเป็นแบบกระจุกตัวและไม่ทั่วถึง คาดปัจจัยหนี้ครัวเรือนที่สูงจะยังคงเป็นปัจจัยกดดันกลุ่มฐานราก ซึ่งจำเป็นที่จะต้องระวังสำหรับการลงทุนในกลุ่มค้าปลีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทที่มี Exposure กับกลุ่มฐานรากในระดับที่ค่อนข้างมาก
MINT: William Heinecke ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ว่า หาก MINT เข้าถือ NH Hotel Group SA ผ่านสัดส่วนที่ HNA Group ถืออยู่ราว 30% ก็ไม่มีแผนที่จะ Delist หุ้นออกจากตลาดแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นคาดว่าคงจะไม่ได้มีผู้ถือหุ้นเดิมที่ต้องการ Tender หุ้นคืนมากนัก นอกจากนั้น บริษัทยังไม่มีแผนการเพิ่มทุนแต่อย่างใด คาดว่าปัจจัยดังกล่าวจะช่วยสร้าง Sentiment เชิงบวกต่อนักลงทุนในตลาดได้บ้าง เรายังคงแนะนำ "ซื้อ" MINT ในเชิงพื้นฐานที่ราคาเป้าหมาย 48 บาท
กลยุทธ์การลงทุน : คาดการณ์ปัจจัยต่างประเทศจะยังมีอิทธิพลหลักต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยในเดือนมิถุนายน ซึ่งน่าจะทำให้ SET Index มีความผันผวนต่อไป มองกรอบการแกว่งตัวของดัชนีในเดือนนี้ที่ระดับ 1680-1780 จุด โดยมีกรอบแนวรับที่ 1700 และ 1680 จุด ส่วนกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1750 และ 1770 จุด แนะนำถือหุ้นในพอร์ตและรอเพิ่มน้ำหนักหากดัชนีอ่อนตัวมาที่ระดับ 1700 จุดหรือใกล้เคียง ทั้งนี้หุ้น Top pick ประจำเดือนของเรา ได้แก่ PTT (ราคาเป้าหมาย 64.30 บาท), IVL (70 บาท), CK (32 บาท) และ MINT (48 บาท)
แนวรับ 1,712 แนวต้าน 1,730
Today's Event :
BCPG XD 0.16 บาท
CTARAF XD 0.10 บาท
KPNPF XD 0.11 บาท
MJLF XD 0.22 บาท
AEC ลูกหุ้นเข้า 3,550 หุ้น
ECF ลูกหุ้นเข้า 37,787,808 หุ้น
SEAFCO ลูกหุ้นเข้า 61,132,412 หุ้น
TCJ ลูกหุ้นเข้า 2,070,262 หุ้น
TIP ลูกหุ้นเข้า 300,000,000 หุ้น
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
OO9644