- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 10 September 2014 17:12
- Hits: 2091
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : SMA5วัน 1,579 / 10วัน 1,574
Technical : แนวรับ 1,579** / 1,574 แนวต้าน 1,595 / 1,601**
หุ้นแนะนำพิเศษ : PTT แนวรับ 342 / 338 แนวต้าน 350 / 356
หุ้นเด่นรายวัน : ADVANC TOG TICON
วันอังคารตลาดหุ้นไทยปิดลบ ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,583.18 จุด ลดลง 1.59 จุด(-0.10%) มูลค่าการซื้อขาย 56,254.41 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิอีก 1,064.07 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,553-1,601 แรงขายทำกำไรระยะสั้นจากความกังวลเกี่ยวกับระดับP/Eของตลาดที่อยู่ในระดับสูงยังคงปกคลุมตลาด ส่งผลให้มีโอกาสปรับตัวลงทดสอบแนวรับเส้นค่าเฉลี่ยอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ตลาดยังคงคาดหวังต่อแผนกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐทำให้เกิดแรงซื้อเล่นรอบเมื่อปรับตัว ในขณะที่ SET50 ระดับดัชนียืน 1,050-1,054 ได้มั่นคงเป็นการต่อยอดขาขึ้นและแกว่งตัวUptrendคงเดิม แนวต้านต่อไป 1,061 / 1,072 GFV14 เก็งกำไรในกรอบ 19,120-19,480 GFZ14 เก็งกำไรในกรอบ 19,180-19,540
กลยุทธ์ การปรับตัวยังคงเกิดขึ้นในลักษณะของการเล่นรอบเมื่อปรับตัว แนวรับสำคัญ 1,579-1,574 เป็นจุดรับที่สำคัญ ไม่ควรปิดต่ำกว่าลงมา กลุ่มธนาคารปรับตัวลงระยะสั้นเป็นจังหวะในการเข้าซื้อ KBANK TMB BBLSCB กลุ่มพลังงาน PTT SGP ซื้อระยะสั้น PTTEP, PTTGC ปรับตัวตั้งรับ กลุ่มนิคมฯ ROJNA AMATA HEMRAJ หุ้นรายหลักทรัพย์ KTP RCI DRT BJC QTC SAPPE BEC ระยะกลาง ถือ / รอขายบางส่วน 1,601
หุ้นแนะนำพิเศษ
PTT (ปิด 348 ซื้อเป้าปี 57: 375 บาท) ได้ Sentiment เชิงบวกจากข่าว ปลัดกระทรวงพลังงานเตรียมนำเรื่องปรับขึ้นราคา LPG และ NGV เสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) และคณะรัฐมนตรี ซึ่งหากท้ายที่สุดค.ร.ม.มีมติอนุมัติให้ปรับขึ้นราคาทั้ง LPG และ NGV จะทำให้ PTT มีภาระขาดทุนจากธุรกิจ NGV ลดลงจากปัจจุบันที่ขาดทุนอยู่แล้วประมาณ 5,000 ล้านบาทต่อไตรมาส ด้านผลประกอบการโดยรวมเรายังมองแนวโน้มครึ่งปีหลังยังขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยมีกำไรสุทธิที่สูงขึ้นของ PTTEP เป็นตัวหนุนหลัก โดยทั้งปีเรายังคงประมาณการณ์กำไรสุทธิปีนี้ตามเดิมโดยคาดกำไรสุทธิปีนี้ประมาณ 107,200 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 13%yoy
หุ้นเด่นรายวัน
ADVANC (ราคาปิด 207 ซื้อ เป้า consensus 260) บอร์ดไฟเขียวงบลงทุน 4.6 พันล้านบาท ลุยธุรกิจ Fixed Broadband เพื่อรองรับความต้องการใช้เน็ตต่อครัวเรือนที่พุ่งขึ้น 6.8 ล้านครัวเรือน ด้วยศักยภาพโครงข่ายที่ครอบคลุมของค่ายทำให้มั่นใจว่าจะได้ฐานลูกค้าปีแรก 8 หมื่นราย จับตาครึ่งปีหลัง กำไรเด่น ส่วน Fixed Broadband ดันฐานแกร่ง (ที่มา : ทันหุ้น)
TOG (ราคาปิด 5.85 ซื้อเก็งกำไร) เพิ่มเป้ารายได้ปีนี้เป็น 1,900 ล้านบาท หรือโต 17% จากเป้าเดิมคาดโต 9% หลังอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทอ่อนค่าลง การขายโปรดักต์มีมาร์จิ้นสูง ออเดอร์เพิ่มขึ้น ฟุ้งปี 2562 มีรายได้ 2,500 ล้านบาท เดินหน้าขยายตลาดเพิ่ม (ที่มา : ข่าวหุ้น)
TICON(ปิด 17.60 ซื้อเก็งกำไร)ผู้บริหารคาดรายได้และกำไรสุทธิใน 4Q57 จะเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดของปี หลังจากบริษัทเตรียมขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)มูลค่ารวมกว่า 4-5พันล้านบาท (ที่มา:ทันหุ้น)
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* TMI มีผลบังคับใช้ 4 ส.ค. - 12 ก.ย. 57
*ADAM/ SLC / IFEC / AJD มีผลบังคับใช้ 13 ส.ค.-19 ก.ย.57
* TH มีผลบังคับใช้ 4 ส.ค.-26 ก.ย. 57
* AJP/ SOLAR / SUPER /VIH มีผลบังคับใช้ 25 ส.ค.-3 ต.ค.57
* ACD / DIMET / EMC / EVER / GENCO / SST / TAKUNI มีผลบังคับใช้ 1 ก.ย. - 10 ต.ค. 57
* BKD / CSS / SUPER-W1 / TFI มีผลบังคับใช้ 8 ก.ย. - 17 ต.ค. 57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : ลดลง 97.55 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวลดลง 97.55 จุด เพราะได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลาที่เร็วกว่าที่คาดไว้ อีกทั้งยังถูกกดดันจากการลดลงของหุ้นในกลุ่มการเงินหลังมีข่าวว่าเฟดได้ข้อสรุปสุดท้ายเกี่ยวกับกฎระเบียบที่กำหนดให้สถาบันการเงินรายใหญ่ต้องมีสภาพคล่องสำรองมากขึ้นเพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงวิกฤติ ทำให้หุ้นกลุ่มการเงินอาทิ หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลง 2.7% และหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 1.5% โดยปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์ลดลง 97.55 จุด หรือ -0.57% ปิดที่ 17,013.87 จุด ดัชนี NASDAQ ลดลง 40.00 จุด หรือ -0.87% ปิดที่ 4,552.29 จุด ดัชนี S&P500 ลดลง 13.10 จุด หรือ -0.65%ปิดที่ 1,988.44 จุด
ตลาดน้ำมัน NYMEX : เพิ่มขึ้น 0.09 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ เพราะได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวลง1.5 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนักเนื่องจากตลาดยังมีแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่าปริมาณน้ำมันในตลาดโลกจะปรับตัวสูงขึ้น หลังจากบริษัทพลังงานแห่งชาติของลิเบียรายงานว่า ลิเบียกำลังผลิตน้ำมันดิบในปริมาณ 740,000 บาร์รเลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากระดับเฉลี่ยของเดือนก.ค.ที่ 400,000 บาร์เรลต่อวัน ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX เพิ่มขึ้นเพียง 9 เซนต์ ปิดที่ 92.75 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ยังปรับตัวลงต่อเนื่องอีก 1.04 ดอลลาร์ ปิดที่ 99.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
Analyst :
ธวัชชัย 02-6725993 [email protected]
วิลาสินี 02-6725937 [email protected]
อาทิตย์ [email protected]
Assistant : ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์