- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 31 May 2018 18:23
- Hits: 772
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET มีความผันผวนสูงมาก โดยในช่วงเช้ามีแรงขายเด่นในหุ้น Bigcap หลายตัวนำโดยกลุ่มพลังงานและอื่นๆ อย่าง SCC, IVL, BDMS, EA, AOT และกลุ่มสินเชื่ออย่าง SAWAD, MTC กลุ่มธนาคาร นำโดย KBANK, SCB, BBL อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายภายหลังศาลรธน.วินิจฉัยร่างพ.ร.ป.ส.ส.ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้เกิด Technical rebound นำโดยแรงซื้อใน PTT, PTTEP, PTTGC ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,725 จุด (-9.4 จุด ) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 7.7 หมื่นล้านบาท (Biglot SCC มูลค่า 1,320 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวานก่อนหน้าที่ 5.0 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 4,384 ล้านบาท และเปิดสถานะ Short SET50 index future ที่ 5,473 สัญญา
Investment theme
การเมืองใน/ต่างประเทศ มีปัจจัยที่ต้องติดตาม : เมื่อวานที่ผ่านมารัฐธรรมนูญวินิจฉัยพ.ร.ป.การเลือกตั้งส.ส.ว่าไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือเป็น Sentiment บวกอ่อนๆ ต่อการลงทุน โดยลำดับถัดไปนายกจะนำร่างทั้ง 2 ฉบับ (ส.ว. และ ส.ส.) ขึ้นทูลเกล้า (กรอบเวลาประมาณ 90 วัน ) ก่อนประกาศในราชกิจจานุเบกษา และพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.จะมีผลบังคับใช้ 90 วันหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตามการผ่านร่างทั้ง 2 ฉบับยังไม่ได้เป็นการยืนยัน 100% ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นตาม Roadmap เนื่องจากยังต้องใช้เวลาในการจัดเตรียมการเลือกตั้งกรอบเวลาประมาณ 150 วัน (ซึ่งหากใช้เต็มกรอบ จะทำให้การเลือกตั้งมีโอกาสเกิดขึ้นในช่วง 2Q62) สำหรับภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นช่วงนี้ ขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่โดยเฉพาะจากต่างประเทศ ที่ล่าสุดถูกกดดดันจากปัญหาการเมืองในยุโรปทั้งอิตาลีและสเปน ซึ่งไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินที่สูงกว่า 130%ของ GDP และอัตราการว่างงานที่สูงกว่า 11%
Investment Theme: แนวรับสำคัญ SET ไม่ควรปิดต่ำกว่าระดับ 1,725 จุด ซึ่งหากปิดต่ำกว่าจะทำให้ภาพการปรับตัวขึ้นของ SET ในระยะกลางเป็นไปได้ยาก แนะ Take profit / Cut loss และกลับมาถือเงินสดเพิ่มขึ้นเป็น 40% (จากปัจจุบันเงินสด 30%) แนะหันลงทุนกลุ่ม Defensive อย่างรถไฟฟ้า (BTS, BEM ) และกลุ่มโรงพยาบาล (BH, BDMS)
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา –สศอ.เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกกรมเดือนเม.ย.เติบโต 4.0% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 / Moody จัดอันดับเศรษฐกิจไทย BBB+ / สหรัฐรายงาน GDP ไตรมาสหนึ่งต่ำกว่าคาดที่ 2.2% / ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้นอีกครั้งที่ 77.5 เหรียญ / Dollar กลับมาอ่อนค่าบริเวณ 94.0
Stock pick : BANPU
BANPU: เก็งกำไรราคาเหมาะสม 25.0 บาท/หุ้น
เป็นหนึ่งในหุ้น Bottom fishing ที่เรามองว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาสหนึ่ง และคาดฟื้นตัวเด่นในไตรมาสสอง จากปริมาณผลิตถ่านหินที่จะเพิ่มขึ้น โดย CEY คาดเพิ่ม 0.9 ล้านตันเป็น 3.5ล้าน และ ITM คาดเพิ่ม 0.8 ล้านเป็น 5.1 ล้านตัน ส่งผลให้ Margin ขยายตัว และ ธุรกิจไฟฟ้า (BPP) คาดขยายตัวตาม Seasonal อีกทั้งเป็นหุ้นที่ได้อานิสงค์บวกจากบาทอ่อน (Fx-gain)
ราคาถ่านหินยืนในระดับสูงสุดของปีที่บริเวณ 109 เหรียญ/ตัน ให้ สนับสนุนจาก Inventory ในจีนที่ต่ำ ในขณะที่ความต้องการยังอยู่ในระดับสูง ถือเป็น Sentiment บวกต่อราคาถ่านต่อการเก็งกำไร Trading range มองกรอบแนวต้านบริเวณ 22.0 และ 22.50 พร้อม Cut loss หากต่ำกว่า 19.70 บาท
Trading idea – ทยอยสะสม BTS ราคาเป้าหมาย 10.50 บาท/ เก็ง กำไร AH เราปรับประมาณการขึ้นเป็น 43.0 บาท/หุ้น
Technical View
Rebound ระยะสั้น เนื่องจากแนวโน้มหลักเป็นขาลง: แรงขายในช่วงแรกของกลุ่มพลังงานทำให้ดัชนีปรับตัวหลุด Low เดิมที่ 1725 แม้ในช่วงบ่ายจะมีแรงซื้อกลับในกลุ่มดังกล่าว แต่ยังไม่สามารถปิดยืนเหนือแนวต้าน 1730 ได้ จากการที่ดัชนีหลุด Low เดิมทำให้ในระยะกลางถึงยาวดัชนีกลับมาเป็นขาลงอีกครั้ง คาดมีโอกาส Sideway Down ลงตามแนวโน้มหลัก ส่วนในระยะสั้นคาดดัชนีอาจมีแรง Rebound แต่คาดบริเวณแนวต้านหลักจะเผชิญแรงขาย จึงยังคงแนะนำให้ทยอยลดพอร์ตเมื่อดัชนี Rebound
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: จังหวะ Rebound มองเป็นโอกาสขาย เพื่อลดพอร์ตการลงทุน เนื่องจากแนวโน้มเป็นขาลง 2) ไม่มีหุ้น: Trading เล่น rebound ในกรอบ 1715-1745 เน้นซื้อแนวรับ-ขายแนวต้าน
แนวรับ : 1720, 1715 แนวต้าน : 1730, 1745
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: 31 พ.ค.สหรัฐรายงาน PCE , จีนรายงาน PMI
ปัจจัยในประเทศ: 1 มิ.ย. รายงานเงินเฟ้อ
หุ้นเทคนิค:
PTT (B 50.00-51.00, Tp 53.00//57.00, Cut 48.50)
PTTGC (B 87.50, Tp 93.00, Cut 86.00)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO9452