- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 24 May 2018 17:32
- Hits: 666
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Laggard Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัวในแดนลบตลอดวันฉุดโดย PTT และ PTTEP รวมถึงจับตาดูประเด็นที่มาของ ส.ว. ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าไม่ขัด ทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วงท้ายตลาดและลดกรอบการลบลง ค่าเงินบาทยังอ่อนค่าสอดคล้องกับนักลงทุนต่างชาติที่ยังคงขายสุทธิหนักต่อเนื่องในตลาดหุ้นอีก 4.9 พันลบ. (และ Short ใน Index Futures 1.2 หมื่นสัญญา) ขณะที่สถาบันในประเทศเริ่มพลิกมาขายสุทธิเช่นกัน 1.8 พันลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะยังแกว่งตัว Sideways แม้รายงานการประชุม Fed จะช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยลงบ้าง แต่ยังคงมีประเด็นกดดันเรื่องการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ รวมถึงการพบผู้นำเกาหลีเหนือว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังต้องติดตามวันที่ 30 พ.ค. ประเด็นกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. จึงยังเชื่อว่ากรอบการบวกของตลาดยังคงจำกัด โดยหุ้นที่ยัง Laggard น่าจะเคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาด
กลยุทธ์ : แนะซื้ออ่อนตัวหุ้นที่ Laggard // ลดพอร์ตบางส่วนในจังหวะปรับขึ้นแรง
หุ้นเด่นเดือน พ.ค. : BEM, CHG, EA, SC, THANI
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$26ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไทย US$155ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$223ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค รายงานการประชุม Fed ระบุว่าคณะกรรมการมีความเห็นตรงกันว่าอัตราดอกเบี้ยควรปรับขึ้นอีกในเร็วๆนี้
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> CPN <<
แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 93 บาท
กำไร 1Q18 สะท้อนความแข็งแกร่งในทุกธุรกิจ ทั้งศูนย์การค้า คอนโดฯ โรงแรม และอาหาร รวมถึงการควบคุมที่ทำได้มีประสิทธิภาพ หนุน Gross Margin และ EBITDA Margin สูงถึง 50.2% และ 59.1% ซึ่งโมเมนตัมนี้จะต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี คาดกำไรสุทธิปี 2018 ที่ 1.2 หมื่นลบ. +22% Y-Y
แผนเติบโตระยะยาวน่าสนใจ ล่าสุดตั้งเป้าลงทุน 1 แสนลบ. ใน 5 ปี โดยจะพัฒนาคอนโดฯปีละ 3 แห่ง และ Mix used ปีละ 2 แห่ง ซึ่งจะเพิ่มพื้นที่เช่าจากปัจจุบันอีก 1.4 เท่าตัวในปี 2022
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) กม. ที่มา ส.ว. ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ โดย พ.ร.ป. ประกอบการเลือกตั้งว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. เป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ขณะที่ กม. ลูกเลือกตั้ง ส.ส. ใน 2 ประเด็นที่อาจขัดแย้งรัฐธรรมนูญจะพิจารณาในวันที่ 30 พ.ค. 18 ทำให้ Upside การฟื้นของ SET ยังจำกัด จนกว่าจะมีความชัดเจน แต่ไม่ว่าผลที่ออกมาจะขัดหรือไม่ขัด เรายังเชื่อว่าจะกระทบ SET เพียงระยะสั้น และมองเป็นโอกาสซื้อ โดยเฉพาะ Domestic Play เช่น ค้าปลีก (CPALL) ท่องเที่ยว (ERW) โรงพยาบาล (BDMS CHG) ยานยนต์ (PCSGH SAT) และอสังหาฯ (ORI SC) ตามการฟื้นตัวที๋โดดเด่นของเศรษฐกิจในประเทศ
(+) กลุ่มทีมีดิจิตอล วานนี้ คสช.ออกคำสั่ง ม.44 ช่วยผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล ให้พักชำระหนี้ไม่เกิน 3 ปี ลดค่าเช่าโครงข่าย 50% 2 ปี เป็นไปตามที่กสทช. เคยเสนอก่อนหน้านี้ เป็นบวกต่อสภาพคล่องของผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลทุกราย แต่ไม่มีผลต่อโครงสร้างอุตสาหกรรม เนื่องจากปัจจุบันการแข่งขันสูงอยู่แล้ว เราเคยประเมินว่า BEC ได้ประโยชน์มากสุด เนื่องจากถือใบอนุญาตทีวีดิจิตอล 3 ใบ (HD, SD, Family) เป็น Upside ต่อคาดการณ์กำไรปี 2018 ประมาณ 20% ตามด้วย RS WORK และ MCOT มี Upside ต่อประมาณการ 1-3% ราคาเป้าหมายสำหรับ BEC จะเพิ่มเป็น 12 บาท จากเดิม 10.50 บาท, MCOT เพิ่ม 0.14 บาท จากเดิม 8.50, RS เพิ่ม 0.80 บาท จากเดิม 32, และ WORK จะเพิ่ม 2 บาท (กำลังทบทวนราคาเป้าหมาย) Top-Pick ในกลุ่ม ยังคงเป็น RS (18TP32) ส่วน BEC และ WORK ถือ
(+) กลุ่มยานยนต์ ยอดผลิตรถยนต์ เม.ย. 18 อยู่ที่ 134,779 คัน ลดลง 31% M-M ตามฤดูกาล แต่ยังเพิ่มขึ้น Y-Y ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 อีก 12% โดยหลักมาจากยอดขายในประเทศที่เพิ่มขึ้น 44% Y-Y สอดคล้องกับความเชื่อมั่นในการซื้อรถใหม่ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 สะท้อนการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมอย่างชัดเจน แนะนำซื้อ PCSGH ราคาเป้าหมาย 13 บาท เพราะยัง laggard และกำไร 2Q18 จะ outperform กลุ่ม จากการรวมสินทรัพย์ในยุโรป ซึ่งมีมูลค่าต่ำกว่าราคาตลาดอยู่มาก และการผลิตชิ้นส่วน non-auto ที่เพิ่มขึ้น
(0) HANA จากประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ เรายังมองบวกต่อภาพคำสั่งซื้อที่ยังแข็งแกร่งต่อเนื่องทั้งในกลุ่ม PCBA และ IC แต่ยังมีปัจจัยกดดันจากทั้งค่าเงินบาทแข็งค่า และปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบที่ยังมีอยู่ ซึ่งน่าจะคลี่คลายมากขึ้นใน 3Q18 ที่เป็น High Season ของธุรกิจ จากกำไรสุทธิ 1Q18 คิดเป็นสัดส่วน 25% ของประมาณการทั้งปี และสถานการณ์ภาพรวมยังดูสอดคล้องกับประมาณการของเรา ดังนั้นเรายังคาดกำไรสุทธิปี 2018 ไว้ที่ 2.3 พันลบ. ลดลง 20% Y-Y และคงราคาเป้าหมายที่ 43 บาท (อิง PE เดิม 15 เท่า) ยังมี Upside 18.6% และคาด Dividend Yield ปีนี้ 5.5% จึงยังแนะนำซื้อ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
24 พ.ค.- เยอรมัน: 1Q18 GDP
25 พ.ค.- ถ้อยแถลงของประธานเฟด
24-27 พ.ค.- ไทย: Thailand Mobile Expo 2018
29 พ.ค.- สหรัฐฯ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ค.)
30 พ.ค.- ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา กม. ลูก ส.ส.
(+) ตลาดสหรัฐปรับตัวขึ้นหลังรายงาน FED Minutes ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาด รวมไปถึงตัวเลข PMI ภาคการผลิตและการบริการของสหรัฐยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนพ.ค.
(-) ภาพรวมตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงหลังจากตัวเลข PMI ภาคผลิตปรับตัวลดลง รวมไปถึงตัวเลขเงินเฟ้อของอังกฤษที่ออกมาต่ำกว่าคาด
(0) ตลาดเอเชียปรับตัวผสมผสานเช้านี้ แม้ว่า Bond Yield สหรัฐจะปรับตัวลงและรายงาน FED Minutes ยังคงเป็นไปตามที่ตลาดคาด อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ยังกดดันตลาดยังคงเป็นเรื่องความไม่แน่นอนในการพบกันระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ
() ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินบาท ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.10-32.20 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ค. ลดลง 0.36 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 71.84 ดอลลาร์/บาเรลล์ หลังตัวเลขสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นสวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะปรับตัวลง
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 2.40 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1,289.60 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งขึ้น
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB : FINNANSIA SYRUS SECURITIES LINE : @fnsyrus
OO9222
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB : FINNANSIA SYRUS SECURITIES LINE : @fnsyrus
OO9222