- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 23 May 2018 18:50
- Hits: 938
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ภาพตลาดและแนวโน้ม
ย่อซื้อ (ต่อ) อย่าเพิ่งถอดใจ
วันนี้คาดตลาดหุ้นไทยยังพักลงต่อเพื่อรอดูความชัดเจนการเมืองในประเทศ...รอ "ผลวินิจฉัย พรป.ของ ศาล รธน." และ รายงานการประชุมเฟด ส่วนการชุมนุมในประเทศเมื่อวานยุติลงเร็วไม่มีเหตุเหนือความคาดหมาย
ระยะสัปดาห์ คาดจุดเปลี่ยนตลาดสัปดาห์นี้ จะมาจาก ความมั่นใจทางการเมืองในประเทศ หลังคำวินิจฉัยศาล รธน.ออกมาในวันที่ 23 พค.นี้ โดยเราเชื่อว่า 1) กรณี พรป.สว.และ สส.ไม่ขัด รธน.ตลาดหุ้นจะขึ้นรับข่าวทันที 2) กรณี กม.บางมาตรา ขัด รธน. คาดหุ้นลงไม่ลึก เพราะจะเป็นประเด็นเล็กๆที่ใช้เวลาแก้ไขไม่นาน และไม่ส่งผลให้การเลือกตั้งล่าช้ามากนัก กลยุทธ์แนะนำ สะสมหุ้น (เน้น หุ้นพลังงาน Upstream และ หุ้นที่กำไรไม่ได้เปลี่ยน แต่ราคาลงแรงตลอดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา) คาด แนวรับ 1,740+/- ให้น้ำหนักไม่หลุด ต่อให้คำวินิจฉัย จะออกมาในรูปแบบใดก็ตาม และ ตลาดจะเล่นกลับไปแถว 1,800 จุด
What to watch
(+) พาณิชย์เผยตัวเลขส่งออก เดือน เมย. +12.34% y-y โดยในช่วง 4 เดือน แรกส่งออก +11.53% เกินดุลการค้า US$673.3 ล้าน
สินค้าส่งออกเติบโตดีทั้งสินค้าอุตสาหกรรม และสินค้าเกษตร สำหรับสินค้าอุตสาหกรรมที่เติบโตแรงสุด คือ ยานยนต์และชิ้นส่วนฯ +17% จากเดือนก่อน +4.9% ขณะที่สินค้าเกษตรมาแรง ได้แก่ ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป +12.4% y-y จากเดือน มีค.+8.4% (แนะนำ AH, GFPT CPF)
(+) เย็นเมื่อวานนี้ กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ยุติการชุมนุม...แกนนำทั้ง 5 คน ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ
(+) ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่าง พ.ร.ป.ส.ว.วันนี้ "มีชัย" ชี้ใช้เวลาปรับแก้ไม่เกิน 3 สัปดาห์หากศาลตีตกทั้งฉบับ (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ) ส่วน พรป.เลือกตั้ง ส.ส. สื่อบางสำนักระบุว่าจะมีการวินิจฉัยพร้อมกันวันนี้ (ที่มา โพสต์ ทูเดย์, ไทยโพสต์)
(+/-) สัปดาห์หน้า MSCI Re balances คาดแรงขายปรับน้ำหนักตลาดหุ้นไทย ของ นักลงทุนต่างชาติ น่าจะเริ่มน้อยลง (โดยเฉพาะเมื่อวานผ่านพ้นสัปดาห์หน้าไป) หลังเฟสแรกของการ เพิ่มหุ้น จีน ตลาด A Share จบ (ส่วนเฟส 2 มีอีกรอบเดือน สค.) / คาดแรงขายต่างชาติไม่ได้มีผลต่อหุ้นไทยมากนักตลอดปีกว่าที่ผ่านมา ดังนั้นถ้าแรงขายฝรั่งจบลงในรอบนี้ คาดหุ้นไทยจะกลับมาขึ้นต่อได้ ดูความสัมพันธ์ระหว่างหุ้นไทยกับแรงขายต่างชาติใน Figure 1
หุ้นแนะนำวันนี้
AH CPF GFPT เป็นกลุ่มสินค้าส่งออกที่เติบโตแรง และเห็นสัญญาณการปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในเดือนนี้
SEAFCO ดูรายงานวันนี้ เล่นตามรับเหมาใหญ่
CK เราปรับเพิ่มราคาเปาหมาย (ดูรายงานวันนี้) SGP ก๊าซหุงต้มพุ่งเป็นประวัติการณ์ ถัง 15 กก. ขึ้นพรวด 42 บ./ถัง เป็น 395 บ./ถัง (จาก 353 บ.) / สต็อกก๊าซหุงต้มของ
SGP ที่ใช้สำหรับขายในประเทศ ซึ่งมีอยู่จำนวนมากที่จะได้ประโยชน์จากการปรับราคาขายแบบรวดเร็วในคราวนี้ (ด้วยสต็อกจำนวนมากเป็นต้นทุนต่ำรอระบายในราคาขายที่ขึ้นเร็วมากในรอบนี้)
รายงานวันนี้
SEAFCO : Time to jump
แนะนำ ซื้อ SEAFCO คาดจะโดดเด่นที่สุดในธุรกิจรับเหมางานรากฐาน โดย SEAFCO มี Backlog รองรับรายได้ยาวไปถึงกลางปีหน้า และกำไรจะเริ่มเติบโตโดดเด่นตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เพราะงานขนาดใหญ่หลายงานได้เริ่มก่อสร้างแล้ว ขณะที่กำไรมีโอกาสดีกว่าคาดจากมาร์จิ้นที่สูงกว่าคาด ซึ่งบริษัทได้แสดงให้เห็นมาร์จิ้นที่สูงแล้วในไตรมาสก่อน และปัจจัยหนุนภาพอุตสาหกรรมมาจากการประมูลภาครัฐที่ใกล้ความจริงเข้าไปทุกที โดยเฉพาะโครงการทางด่วนและรถไฟฟา ซึ่ง CK มีโอกาสที่จะได้เป็นผู้รับเหมาหลัก และ SEAFCO รับงานรากฐานจาก CK ตลอดมา ราคาเป้าหมาย 10.40 บาท
CK : Taking off
จากการประชุมนักวิเคราะห์ ... การประมูลงานภาครัฐจะกลับมาเร็วๆนี้ โดย TOR ของทางด่วนพระราม3 มูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาท น่าจะออกมา ปลาย พ.ค. - ต้น มิ.ย. ตามด้วยมอเตอร์เวย์ 2 สาย มูลค่า 1.3 หมื่นล้านบาท และยังมี MRT สายสีม่วง มูลค่า 1.01 แสนล้านบาท เป็นต้น คาดจะเป็นปัจจัยหนุนหุ้นรับเหมาฯ คาดราคาหุ้นจะ re-rating ขึ้นไปเทรดกรอบด้านบนได้ เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 29.50 บาท แนะนำ ซื้อ
IVL : The global PET giant keeps growing!
จากการประชุมกับผู้บริหาร นักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มของบริษัท ทั้งภาพอุตสาหกรรม polyester chain และภาพของบริษัท ตลาด polyester chain ตึงตัวมากขึ้นใน 2Q18 ซึ่งปกติเป็นช่วงที่ demand สูงสุดอยู่แล้ว หนุนให้ส่วนต่างกำไร และปริมาณขายเพิ่มขึ้น นอกจากนี้แผนโครงการของบริษัทจะมีกำลังการผลิตที่จะเริ่มผลิตได้เพิ่มขึ้นตลอดช่วง 2018-19 คาดหนุนให้ EBITDA เติบโตถึง 45% และบริษัทยังศึกษาการลงทุนเพิ่มเติมซึ่งเรายังไม่รวมในประมาณการ แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 71 บาท
THG : FY18 profit forecast cut & rating downgrade to HOLD
เราปรับกำไรปี 2018 ลง 6% เป็น 620 ล้านบาท เพราะการลงทุนที่หนัก และยอดจองอสังหาฯ Jin Wellbeing ที่มาช้ากว่าคาด นอกจากนี้ เราคาดการลงทุนใหม่จะเป็นปัจจัยกดดันกำไรในระยะสั้น ซึ่งบริษัทมีหลายโครงการในแผน เช่น โรงพยาบาลที่พม่า, ศูนย์ฟืนฟูฯที่ธนบุรี, โรงพยาบาลที่จีน เป็นต้น เราปรับคำแนะนำลงเป็น ถือ และปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 39 บาท
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
ตารางประชุม นักวิเคราะห์ /Opportunity day
21 พ.ค. GPSC TVO STANLY HUMAN SAWAD (Analyst Meeting) / JWD SSP TASCO ASP MC NVD CENTEL (Opp day)
22 พ.ค. RATCH THG CK TTA / TU ILINK FVC PTG BAFS TTA TOG
23 พ.ค. BCPG VGI HANA DDD / ASIAN PTTEP PTTGC TOP GPSC GGC FSMART
24 พ.ค. PLANB / CHO JUBILE RICHY UV PCSGH THCOM APCO
25 พ.ค. BGRIM THAI AOT TFG BJC CBG ASAP BCPG
(+) ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างพ.ร.ป.ส.ว.วันนี้ "มีชัย" ชี้ใช้เวลาปรับแก้ไม่เกิน 3 สัปดาห์หากศาลตีตกทั้งฉบับ (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ) ส่วน พรป.เลือกตั้ง ส.ส. สื่อบางสำนักระบุว่าจะมีการวินิจฉัยพร้อมกันวันนี้ (ที่มา โพสต์ ทูเดย์, ไทยโพสต์)
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว.ในวันนี้ (23 พ.ค.)ว่า หากศาลบอกว่า เป็นบทบัญญัติที่ขัดรัฐธรรมนูญก็ต้องบอกว่าเป็นสาระสำคัญของกฎหมายที่จะทำให้ตกทั้งฉบับหรือไม่ หากไม่ใช่ก็ตัดเฉพาะมาตรานั้นออก และใช้กฎหมายได้ แต่หากบอกว่าขัดในสาระสำคัญจะทำให้ร่างพ.ร.ป.นั้นตกไป ต้องนำกลับมายกร่างใหม่ แต่คิดว่าในการทำใหม่นั้นกรธ.คงจะใช้เวลาประชุมเพียงครั้งเดียว แก้เพียง 2-3 มาตรา สามารถส่งให้สนช.พิจารณา ซึ่งอาจจะใช้กรรมาธิการเต็มสภา 3 วาระรวดได้ ดังนั้นหากเร่งพิจารณาก็สามารถดำเนินการได้ภายใน 3 สัปดาห์ ทั้งนี้ยอมรับว่าหากศาลวินิจฉัยว่า บทบัญญัติในร่างพ.ร.ป.ส.ว. ขัดรัฐธรรมนูญก็จะมีปัญหาเนื่องจากจะกระทบทั้งบทเฉพาะกาลและเนื้อหา (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
OO9163
ย่อซื้อ (ต่อ) อย่าเพิ่งถอดใจ
วันนี้คาดตลาดหุ้นไทยยังพักลงต่อเพื่อรอดูความชัดเจนการเมืองในประเทศ...รอ "ผลวินิจฉัย พรป.ของ ศาล รธน." และ รายงานการประชุมเฟด ส่วนการชุมนุมในประเทศเมื่อวานยุติลงเร็วไม่มีเหตุเหนือความคาดหมาย
ระยะสัปดาห์ คาดจุดเปลี่ยนตลาดสัปดาห์นี้ จะมาจาก ความมั่นใจทางการเมืองในประเทศ หลังคำวินิจฉัยศาล รธน.ออกมาในวันที่ 23 พค.นี้ โดยเราเชื่อว่า 1) กรณี พรป.สว.และ สส.ไม่ขัด รธน.ตลาดหุ้นจะขึ้นรับข่าวทันที 2) กรณี กม.บางมาตรา ขัด รธน. คาดหุ้นลงไม่ลึก เพราะจะเป็นประเด็นเล็กๆที่ใช้เวลาแก้ไขไม่นาน และไม่ส่งผลให้การเลือกตั้งล่าช้ามากนัก กลยุทธ์แนะนำ สะสมหุ้น (เน้น หุ้นพลังงาน Upstream และ หุ้นที่กำไรไม่ได้เปลี่ยน แต่ราคาลงแรงตลอดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา) คาด แนวรับ 1,740+/- ให้น้ำหนักไม่หลุด ต่อให้คำวินิจฉัย จะออกมาในรูปแบบใดก็ตาม และ ตลาดจะเล่นกลับไปแถว 1,800 จุด
What to watch
(+) พาณิชย์เผยตัวเลขส่งออก เดือน เมย. +12.34% y-y โดยในช่วง 4 เดือน แรกส่งออก +11.53% เกินดุลการค้า US$673.3 ล้าน
สินค้าส่งออกเติบโตดีทั้งสินค้าอุตสาหกรรม และสินค้าเกษตร สำหรับสินค้าอุตสาหกรรมที่เติบโตแรงสุด คือ ยานยนต์และชิ้นส่วนฯ +17% จากเดือนก่อน +4.9% ขณะที่สินค้าเกษตรมาแรง ได้แก่ ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป +12.4% y-y จากเดือน มีค.+8.4% (แนะนำ AH, GFPT CPF)
(+) เย็นเมื่อวานนี้ กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ยุติการชุมนุม...แกนนำทั้ง 5 คน ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ
(+) ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่าง พ.ร.ป.ส.ว.วันนี้ "มีชัย" ชี้ใช้เวลาปรับแก้ไม่เกิน 3 สัปดาห์หากศาลตีตกทั้งฉบับ (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ) ส่วน พรป.เลือกตั้ง ส.ส. สื่อบางสำนักระบุว่าจะมีการวินิจฉัยพร้อมกันวันนี้ (ที่มา โพสต์ ทูเดย์, ไทยโพสต์)
(+/-) สัปดาห์หน้า MSCI Re balances คาดแรงขายปรับน้ำหนักตลาดหุ้นไทย ของ นักลงทุนต่างชาติ น่าจะเริ่มน้อยลง (โดยเฉพาะเมื่อวานผ่านพ้นสัปดาห์หน้าไป) หลังเฟสแรกของการ เพิ่มหุ้น จีน ตลาด A Share จบ (ส่วนเฟส 2 มีอีกรอบเดือน สค.) / คาดแรงขายต่างชาติไม่ได้มีผลต่อหุ้นไทยมากนักตลอดปีกว่าที่ผ่านมา ดังนั้นถ้าแรงขายฝรั่งจบลงในรอบนี้ คาดหุ้นไทยจะกลับมาขึ้นต่อได้ ดูความสัมพันธ์ระหว่างหุ้นไทยกับแรงขายต่างชาติใน Figure 1
หุ้นแนะนำวันนี้
AH CPF GFPT เป็นกลุ่มสินค้าส่งออกที่เติบโตแรง และเห็นสัญญาณการปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในเดือนนี้
SEAFCO ดูรายงานวันนี้ เล่นตามรับเหมาใหญ่
CK เราปรับเพิ่มราคาเปาหมาย (ดูรายงานวันนี้) SGP ก๊าซหุงต้มพุ่งเป็นประวัติการณ์ ถัง 15 กก. ขึ้นพรวด 42 บ./ถัง เป็น 395 บ./ถัง (จาก 353 บ.) / สต็อกก๊าซหุงต้มของ
SGP ที่ใช้สำหรับขายในประเทศ ซึ่งมีอยู่จำนวนมากที่จะได้ประโยชน์จากการปรับราคาขายแบบรวดเร็วในคราวนี้ (ด้วยสต็อกจำนวนมากเป็นต้นทุนต่ำรอระบายในราคาขายที่ขึ้นเร็วมากในรอบนี้)
รายงานวันนี้
SEAFCO : Time to jump
แนะนำ ซื้อ SEAFCO คาดจะโดดเด่นที่สุดในธุรกิจรับเหมางานรากฐาน โดย SEAFCO มี Backlog รองรับรายได้ยาวไปถึงกลางปีหน้า และกำไรจะเริ่มเติบโตโดดเด่นตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เพราะงานขนาดใหญ่หลายงานได้เริ่มก่อสร้างแล้ว ขณะที่กำไรมีโอกาสดีกว่าคาดจากมาร์จิ้นที่สูงกว่าคาด ซึ่งบริษัทได้แสดงให้เห็นมาร์จิ้นที่สูงแล้วในไตรมาสก่อน และปัจจัยหนุนภาพอุตสาหกรรมมาจากการประมูลภาครัฐที่ใกล้ความจริงเข้าไปทุกที โดยเฉพาะโครงการทางด่วนและรถไฟฟา ซึ่ง CK มีโอกาสที่จะได้เป็นผู้รับเหมาหลัก และ SEAFCO รับงานรากฐานจาก CK ตลอดมา ราคาเป้าหมาย 10.40 บาท
CK : Taking off
จากการประชุมนักวิเคราะห์ ... การประมูลงานภาครัฐจะกลับมาเร็วๆนี้ โดย TOR ของทางด่วนพระราม3 มูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาท น่าจะออกมา ปลาย พ.ค. - ต้น มิ.ย. ตามด้วยมอเตอร์เวย์ 2 สาย มูลค่า 1.3 หมื่นล้านบาท และยังมี MRT สายสีม่วง มูลค่า 1.01 แสนล้านบาท เป็นต้น คาดจะเป็นปัจจัยหนุนหุ้นรับเหมาฯ คาดราคาหุ้นจะ re-rating ขึ้นไปเทรดกรอบด้านบนได้ เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 29.50 บาท แนะนำ ซื้อ
IVL : The global PET giant keeps growing!
จากการประชุมกับผู้บริหาร นักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มของบริษัท ทั้งภาพอุตสาหกรรม polyester chain และภาพของบริษัท ตลาด polyester chain ตึงตัวมากขึ้นใน 2Q18 ซึ่งปกติเป็นช่วงที่ demand สูงสุดอยู่แล้ว หนุนให้ส่วนต่างกำไร และปริมาณขายเพิ่มขึ้น นอกจากนี้แผนโครงการของบริษัทจะมีกำลังการผลิตที่จะเริ่มผลิตได้เพิ่มขึ้นตลอดช่วง 2018-19 คาดหนุนให้ EBITDA เติบโตถึง 45% และบริษัทยังศึกษาการลงทุนเพิ่มเติมซึ่งเรายังไม่รวมในประมาณการ แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 71 บาท
THG : FY18 profit forecast cut & rating downgrade to HOLD
เราปรับกำไรปี 2018 ลง 6% เป็น 620 ล้านบาท เพราะการลงทุนที่หนัก และยอดจองอสังหาฯ Jin Wellbeing ที่มาช้ากว่าคาด นอกจากนี้ เราคาดการลงทุนใหม่จะเป็นปัจจัยกดดันกำไรในระยะสั้น ซึ่งบริษัทมีหลายโครงการในแผน เช่น โรงพยาบาลที่พม่า, ศูนย์ฟืนฟูฯที่ธนบุรี, โรงพยาบาลที่จีน เป็นต้น เราปรับคำแนะนำลงเป็น ถือ และปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 39 บาท
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
ตารางประชุม นักวิเคราะห์ /Opportunity day
21 พ.ค. GPSC TVO STANLY HUMAN SAWAD (Analyst Meeting) / JWD SSP TASCO ASP MC NVD CENTEL (Opp day)
22 พ.ค. RATCH THG CK TTA / TU ILINK FVC PTG BAFS TTA TOG
23 พ.ค. BCPG VGI HANA DDD / ASIAN PTTEP PTTGC TOP GPSC GGC FSMART
24 พ.ค. PLANB / CHO JUBILE RICHY UV PCSGH THCOM APCO
25 พ.ค. BGRIM THAI AOT TFG BJC CBG ASAP BCPG
(+) ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างพ.ร.ป.ส.ว.วันนี้ "มีชัย" ชี้ใช้เวลาปรับแก้ไม่เกิน 3 สัปดาห์หากศาลตีตกทั้งฉบับ (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ) ส่วน พรป.เลือกตั้ง ส.ส. สื่อบางสำนักระบุว่าจะมีการวินิจฉัยพร้อมกันวันนี้ (ที่มา โพสต์ ทูเดย์, ไทยโพสต์)
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว.ในวันนี้ (23 พ.ค.)ว่า หากศาลบอกว่า เป็นบทบัญญัติที่ขัดรัฐธรรมนูญก็ต้องบอกว่าเป็นสาระสำคัญของกฎหมายที่จะทำให้ตกทั้งฉบับหรือไม่ หากไม่ใช่ก็ตัดเฉพาะมาตรานั้นออก และใช้กฎหมายได้ แต่หากบอกว่าขัดในสาระสำคัญจะทำให้ร่างพ.ร.ป.นั้นตกไป ต้องนำกลับมายกร่างใหม่ แต่คิดว่าในการทำใหม่นั้นกรธ.คงจะใช้เวลาประชุมเพียงครั้งเดียว แก้เพียง 2-3 มาตรา สามารถส่งให้สนช.พิจารณา ซึ่งอาจจะใช้กรรมาธิการเต็มสภา 3 วาระรวดได้ ดังนั้นหากเร่งพิจารณาก็สามารถดำเนินการได้ภายใน 3 สัปดาห์ ทั้งนี้ยอมรับว่าหากศาลวินิจฉัยว่า บทบัญญัติในร่างพ.ร.ป.ส.ว. ขัดรัฐธรรมนูญก็จะมีปัญหาเนื่องจากจะกระทบทั้งบทเฉพาะกาลและเนื้อหา (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
OO9163