- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 22 May 2018 16:58
- Hits: 2450
บล.เอเซียพลัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์การลงทุน
GDP Growth 1Q61 สูงถึง 4.8%yoy ดีกว่าคาด และสอดคล้องกำไรตลาดที่ดีกว่าคาดเช่นกัน แรงหนุนจากกำลังซื้อในประเทศที่ฟื้นตัว และภาคส่งออกที่ดีขึ้น แต่คาดการเติบโตจะค่อยๆ ชะลอตัวในไตรมาสที่เหลือของปีนี้ ขณะที่ระยะสั้นถูกกดดันจากปัญหาการเมืองในประเทศ และ Fund Flow ไหลออก ทำให้ SET Index จะติดแนวต้าน 1775 จุด กลยุทธ์ให้น้ำหนักลงทุนมาหุ้น laggards กลุ่มรับเหมาฯ(CK, ITD, SEAFCO) คาดจะเริ่มเห็นการประมูลงานภาครัฐ โดยเฉพาะทางด่วนดาวคะนอง-พระราม 3 เลือก CK(FV@B34) และ ITD([email protected]) เป็น Top picks
ย้อนรอยหุ้นไทยวานนี้ …..กลุ่มแบงก์-รับเหมาฯ กลับมานำตลาด
วานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยแก่วงตัวขึ้นตลอดทั้งวัน และปิดตลาดในแดนบวกที่ระดับ 1,768.31 จุด เพิ่มขึ้น 14.14 จุด (+0.81%) แต่มูลค่าการซื้อขายเพียง 4.7 หมื่นล้านบาท โดยการปรับขึ้นของหุ้นขนาดใหญ่เกือบทุกกลุ่ม รับข่าวสภาพัฒน์รายงาน GDP Growth งวด 1Q61 เติบโต 4.8% สูงสุด 20 ไตรมาส นำโดยกลุ่มรับเหมาฯ บวก 2.98% คือ UNIQ +4.4%, STEC 4.4% ITD 3.68% และ CK (+3.24%) ตามด้วยหุ้นธนาคารพาณิชย์ บวก 2.17% นำโดย TMB 6%, KTB 2.9%, BBL 2.65% และ KBANK 2.38% และหุ้นน้ำมัน เฉพาะ PTTEP บวก 2.75% ตามการขยับขึ้นของราคาน้ำมันดิบดูไบที่ยังทำสถิติสูงต่อเนื่อง
คาด SET Index ยังคงฟื้นตัวได้ไม่ไกล และยังติดแนวต้าน 1775 จุด โดยการขึ้นยังขึ้นกับหุ้นรายกลุ่มที่มีปัจจัยหนุน เช่น กลุ่มรับเหมา หลังจากมีความชัดเจนว่าจะเห็นการประมูลทางด่วนดาวคะนอง แต่ยังไม่น่าจะมีแรงหนุนหุ้นแบงก์ได้เต็มที่
GDP Growth 1Q61 ดีกว่าคาด สอดคล้องกำไรตลาด
GDP Growth งวด 1Q61 สูงถึง 4.8%yoy ดีกว่าตลาดคาด และดีขึ้นอย่างมากเทียบกับ 4% งวด 4Q60 เป็นผลจากการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทุกตัว โดยเฉพาะการบริโภคในประเทศ(C) เติบโต 3.6% จาก 3.4% ในงวด 4Q60 เป็นผลจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมส่วนใหญ่คือ โรงแรมท่องเที่ยว, ขนส่ง, สื่อสาร, ค้าปลีกและบริการสุขภาพ ซึ่งสอดคล้องกับกำไรตลาดที่ทำได้ดีกว่าคาด เพราะได้ผ่านช่วงของการเศร้าโศกในปี 2561 และคาดยังขยายตัวต่อเนื่องในงวด 2Q61 หลังรัฐมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ 3.5% นับจาก 1 เม.ย. 2561 และรายได้เกษตรกรดีขึ้นตามราคาสินค้าเกษตร
ตามมาด้วย การลงทุนเอกชนเติบโต 3.1%จาก 2.4%ใน 4Q60 ผลจากเอกชนลงทุนก่อสร้างที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 4.1%, โรงงาน 3.4% รวมถึงลงทุนในเครื่องจักรเพื่อผลิตและส่งออก อาทิ เครื่องกำเนิดไฟ, หม้อแปลง,มอเตอร์ และมีแนวโน้มขยายตัวต่อไตรมาสถัดไป หลังจาก พรบ.EEC ฉบับสุดท้ายได้ประกาศบังคับใช้ไปเมื่อ 15 พ.ค. และสัญญาณฟื้นตัวจากยอดขอ BOI งวด 1Q61 เพิ่มขึ้น 247%yoy คิด 28.5% ของเป้า BOI ขณะที่การลงทุนภาครัฐพลิกจากติดลบกลับมาโตอีกครั้งที่ 4.0% แต่เป็นผลจากการลงทุนในรัฐวิสาหกิจ 16.5% อาทิ การนำเข้าเครื่องบินของ การบินไทย และการก่อสร้าง อาทิ โครงการเคหะแห่งชาติ และโครงการของการไฟฟ้าและประปา
และสุดท้ายการส่งออกในรูปดอลลาร์เติบโต 10.5% ชะลอตัวจาก 12% ใน 4Q60 แต่น่าจะมีแนวโน้มดีขึ้นใน 2Q61 ตามฤดูกาลการส่งออก แม้ยังมีการตอบโต้จะขึ้นภาษีระหว่างจีน-สหรัฐ แต่ได้เลื่อนการใช้ออกไปชั่วคราว บวกกับค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าในช่วงที่เหลือของปีนี้ (อ่อนค่าแล้ว 3.4% นับจากกลางเดือน เม.ย. โดยรวม ASPS อยู่ในช่วงทบทวนประมาณการ ติดตามอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมฉบับเต็ม Economic Outlook เร็ว ๆ นี้
Fund Flow ไหลออกจากหุ้นในภูมิภาค เป็นวันที่ 5
วานนี้ต่างชาติยังขายสุทธิหุ้นในภูมิภาคต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ด้วยมูลค่า 165 ล้านเหรียญ และเป็นการขายสุทธิเกือบทุกประเทศ ยกเว้นไต้หวันที่ถูกซื้อสุทธิ 87 ล้านเหรียญ (ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2) ส่วนตลาดหุ้นที่เหลืออีก 4 แห่งถูกขายสุทธิ คือ เกาหลีใต้ขายสุทธิ 117 ล้านเหรียญ (หลังจากซื้อสุทธิเพียงวันเดียว) ตามมาด้วยอินโดนีเซีย 56 ล้านเหรียญ (ขายสุทธิติดต่อกันนานถึง 20 วัน), ฟิลิปปินส์ 11 ล้านเหรียญ (ขายสุทธิเป็นวันที่ 4) และไทยที่ต่างชาติขายสุทธิอีก 68 ล้านเหรียญ หรือ 2.20 พันล้านบาท (ขายสุทธิเป็นวันที่ 4) ต่างกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิสูงถึง 4.63 พันล้านบาท
นอกจากนี้การที่ Bond Yield 10 ปี สหรัฐ ยังยืนเหนือระดับ 3% หนุนให้ Fund Flow มีโอกาสไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคอยู่ ขณะเดียวกัน Bond Yield 10 ปี ของไทยพุ่งตามสหรัฐฯ มาอยู่ที่ 2.84% (สูงสุดในรอบ 1 ปี 2 เดือน) อย่างไรก็ตามผลตอบแทนที่ยังน้อยกว่าสหรัฐฯ เป็นการตอกย้ำว่า Fund Flow มีโอกาสไหลออกไปสู่ผลตอบแทนที่ดีกว่า กดดันค่าเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าต่อ
อิงหุ้นที่เติบโตจากในประเทศ เทน้ำหนักไปหุ้นรับเหมาฯ
การปรับขึ้นของตลาดหุ้นไทยวานนี้ เป็นการตอบรับเชิงบวกต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยใน 1Q61 ที่ออกมาดีกว่าคาดดังกล่าวข้างต้น แต่นับว่าสอดคล้องกับภาพรวมของผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน 1Q61 ที่ออกมาเติบโตดีกว่าคาด กล่าวคือ ทำกำไรสุทธิรวมกันได้กว่า 2.85 แสนล้านบาท (เพิ่มขึ้นถึง 11.3%qoq และลดลงเล็กน้อย 1.6%yoy) และน่าจะเป็นไตรมาสที่มีผลกำไรดีที่สุด อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลประกอบการ 2Q61 อาจอ่อนตัวลงตามที่ได้เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากหลายกลุ่มฯ เข้าสู่ช่วง low season อาทิ กลุ่มรับเหมาฯ-วัสดุก่อสร้าง, ท่องเที่ยว-โรงแรม-สายการบิน กลุ่มที่มีการแข่งขันที่รุนแรงอย่างกลุ่มค้าปลีก รวมทั้งกลุ่มมีปัจจัยกดดันเฉพาะตัว เช่นกลุ่ม ธ.พ. จึงอาจสะท้อนไปยังเศรษฐกิจไทยใน 2Q61 ได้ว่ามีโอกาสเติบโตในอัตราที่ชะลอลง
จากนี้ ปัจจัยที่ต้องให้น้ำหนัก มี 4 ประเด็น คือ
1) การเมือง โดยเฉพาะประเด็นของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ อันจะส่งผลไปยังกรอบระยะเวลาการเลือกตั้ง หากออกมาในเชิงบวก เชื่อว่า การเลือกตั้งมีโอกาสเกิดได้ไม่เกิน เดือน พ.ค. 2562 (เลื่อนจากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ในช่วงเดือน ก.พ. 62) ซึ่งตลาดฯ น่าจะตอบรับในเชิงบวก แต่หากออกมาในทางตรงข้ามและทำให้กำหนดการเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไป ตลาดฯ มีโอกาสปรับฐานแรง
2) การลงทุนภาครัฐที่ล่าช้าเนื่องจากตั้งแต่ต้นปียังไม่มีความคืบหน้าโครงการประมูลขนาดใหญ่ออกมา เริ่มเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้น หลังจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้ประกาศร่าง TOR งานก่อสร้างทางด่วนดาวคะนอง-พระราม3 คาดจะเปิดขายซองประกวดราคาได้ต้นเดือน มิ.ย. 61 และกำหนดวันเสนอราคาด้วยวิธี E-Bidding ช่วงต้นเดือน ก.ค 61 น่าจะเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโครงการอื่นๆ ที่จะทยอยตามมา
3) นโยบายการเงินของไทย ที่ยังคงดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไป เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของไทยยังอยู่ในระดับต่ำ และเศรษฐกิจยังฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป สวนทางกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยโลกและภูมิภาคที่เป็นขาขึ้น ซึ่งจะกดดันให้เงินบาทอ่อนค่า ยังหนุน Fund Flow ไหลออกต่อเนื่อง
4) Expected P/E ไทยก็อยู่ใกล้เคียงกับภูมิภาค และยังสูงกว่าจีนอยู่มาก ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนอยู่ในกรอบจำกัด
กลยุทธ์การลงทุนให้หุ้นมายังหุ้นที่อิงการเติบโตในประเทศ โดยเฉพาะหุ้นรับเหมาก่อสร้างที่ยัง laggards และ ราคาหุ้นยังมี upside สูง นำโดย CK, ITD, SEAFCO เป็นต้น
นักวิเคราะห์:
ภรณี ทองเย็น เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004146
เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
พบชัย ภัทราวิชญ์ เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 052647
ภราดร เตียรณปราโมทย์ เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 087636
โยธิน ภูคงนิล ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เชิงปริมาณ
วรรณพฤกษ์ โกมลวิทยาธร ผู้ช่วยนักเศรษฐศาสตร์
OO9096
ภรณี ทองเย็น เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004146
เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
พบชัย ภัทราวิชญ์ เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 052647
ภราดร เตียรณปราโมทย์ เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 087636
โยธิน ภูคงนิล ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เชิงปริมาณ
วรรณพฤกษ์ โกมลวิทยาธร ผู้ช่วยนักเศรษฐศาสตร์
OO9096