- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 21 May 2018 16:50
- Hits: 731
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
เลือกเก็งกำไรเฉพาะตัว
Smart Pick
สะสม TRUE
ราคาปิด 7.20 บาท
ราคาเหมาะสม 8.35 บาท
เราคาดว่าราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวกต่อเนื่อง หลังวันศุกร์ที่ผ่านมาประกาศไม่เข้าร่วมประมูลคลื่น 1800MHz เนื่องจากมีคลื่นในมือ 55MHz เพียงพอที่จะให้บริการ ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ของเรา
แนวโน้มกำไรสุทธิ 2Q61 เติบโตเด่น จากแรงหนุนของกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน DIF สูงถึง 2.5 หมื่นล้านบาท และมีลุ้นที่กำไรปกติจะพลิกเป็นบวกใน 2H61 จากส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
เก็งกำไร LH
ราคาปิด 11.20 บาท
ราคาเหมาะสม 11.80 บาท
เราคาดว่าราคาหุ้นจะ Outperform ได้ หลังถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนี MSCI Thailand ซึ่งปรับน้ำหนักดัชนีในวันที่ 31 พ.ค. ส่งผลให้กองทุนต่างชาติที่ลงทุนโดยใช้ดัชนี MSCI เป็น Benchmark ต้องเข้าซื้อหุ้น LH เข้าสู่พอร์ตลงทุน
เราคาดกำไรสุทธิ 2Q61 ดีต่อเนื่อง จากการบันทึกกำไรพิเศษ 949 บาท จากการขาย Service Apartment ในสหรัฐฯ ส่งผลให้จ่ายเงินปันผลได้ในระดับสูงต่อเนื่อง ให้ Yield สูงถึง 7% ต่อปี
สะสม TTW
ราคาปิด 12.20 บาท
ราคาเหมาะสม 15.30 บาท
TTW มีปัจจัยบวกจากคาดการณ์โอกาสถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนี SET100 ประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือน มิ.ย. และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.2561
ยอดจำหน่ายน้ำในเดือน เม.ย. +9.6% YoY สะท้อนให้เห็นถึงงบ 2Q61 คาดเติบโตต่อเนื่อง และกำลังการผลิตใหม่จำนวน 4 แสนลบ.ม. เริ่มรับรู้ในปีนี้เพียงพอรองรับการเติบโตได้อีก 3-5 ปีข้างหน้า คาดกำไรปี 2561 เติบโต +12% YoY เป็น 2.97 พันล้านบาท และให้ Yield ดีราว 6% ต่อปี
เก็งกำไร CPALL
ราคาปิด 81.50 บาท
แนวต้านทางเทคนิค 83.00-83.50 บาท
สัญญาณทางเทคนิคราคาหุ้นมีโอกาสไต่ระดับขึ้นทดสอบ 83.00-83.50 บาท แนวรับ 81.00 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 80.20 บาท
เราประเมิน SSSG ใน 2Q61 ดีต่อเนื่อง QoQ และคาดว่าจะได้ อานิสงค์จากการเข้าสู่เทศกาลบอลโลกในช่วงกลางเดือน มิ.ย. ช่วยหนุนการเติบโตของยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภค
Pair Trade : n.a
กลยุทธ์วันนี้
เรากลับมาให้น้ำหนักกับปัจจัยภายในประเทศมากกว่าปัจจัยต่างประเทศในสัปดาห์นี้ และมีโอกาสทำให้ SET INDEX ผันผวนมากกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคโดยรวม เริ่มจากการรายงาน GDP 1Q61 ของไทย (เวลาประมาณ 9.30 น.วันนี้) ตลาดคาด + 4%YoY หากออกมาใกล้เคียงคาดหรือดีกว่าคาดย่อมเป็นบวกต่อกลุ่ม Domestic อย่างธนาคาร/ ค้าปลีก/ อสังหาฯ/ สื่อ-สิ่งพิมพ์/ ยานยนต์ แต่หากไม่ย่อมสร้างแรงกดดันเชิงลบทันทีเช่นกัน
ตามมาด้วย ปัจจัยการเมือง เริ่มจากวันอังคารที่ 22 พ.ค. กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง นัดชุมนุม ถัดมาวันพุธที่ 23 พ.ค. ศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยที่มาของ ส.ว. และนัดอภิปรายร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งผลของการตีความอาจชี้นำไปสู่กรอบเวลาของการเลือกตั้งในปีหน้า
อย่างไรก็ดี เรามองว่ากลุ่มสื่อสารจะช่วยประคองภาพรวมของตลาดหุ้นไทยได้ หลัง TRUE แสดงจุดยืนไม่เข้าประมูลคลื่น 1800MHz สำหรับ ADVANC/DTAC มีเวลาแสดงจุดยืนถึงวันที่ 15 มิ.ย. ตามเกณฑ์ของกสทช.รวมถึงกลุ่มอสังหาฯ ที่ผลการดำเนินงานใน 1Q61 อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ขณะที่ Valuation ถูกพร้อมผลตอบแทนจากเงินปันผลที่เด่น เช่น LH / QH / SPALI / ORI/ LPN / PSH เป็นต้น
เราคาด SET INDEX กรอบแกว่ง 1745-1760 จุด กลยุทธ์คง "เก็งกำไรรอบสั้น" (1) กลุ่มสื่อสาร ที่มี Sentiment ดีขึ้น (TRUE) (2) หุ้นได้รับคัดเลือกเข้าดัชนี MSCI รอบเดือน พ.ค. (LH) (3) หุ้นที่มีโอกาสถูกเพิ่มเข้าดัชนี SET50-SET100 (KTC/ TTW) ซึ่งจะประกาศรายชื่ออย่างเป็นทางการช่วงกลางเดือน มิ.ย.
HOT Topic
1. กลุ่มสื่อสารจะช่วยหนุนตลาด หลัง TRUE ประกาศไม่เข้าประมูลคลื่น 1800MHz
2. สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ เริ่มคลายตัวลง
3. ติดตามตัวเลข GDP 1Q61 ของไทยเช้านี้ คาด +4.0% YoY
4. ประเด็นสำคัญสัปดาห์นี้อยู่ที่ช่วงกลางสัปดาห์ คือ ติดตามการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญประเด็นร่างพ.ร.ป.ที่มาของส.ว. และการอภิปรายร่างพ.ร.ป. ที่มาของส.ส.
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX มีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มสื่อสาร หลัง TRUE ส่งสัญญาณไม่เข้าร่วมประมูลในช่วงบ่าย หนุนดัชนี้ขึ้นมาปิดที่ 1754.17 จุด เพิ่มขึ้น 2.97 จุด โดยหุ้นที่ปรับตัวขึ้นเด่น ได้แก่ TRUE (+5.88%), BDMS (+2.94%), ADVANC (+1.86%) และ DTAC (+6.78%) มีผลต่อดัชนีราว +4.2 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 6 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 2 อีกราว 5.8 พันล้านบาท รวม 2 วันขายสุทธิสะสมกว่า 7.1 พันล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิหนาแน่นราว 3.3 พันล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิเป็นวันที่ 2 ราว 6.6 พันสัญญา รวม 2 วัน มีสถานะ Long สุทธิสะสมกว่า 9.1 พันสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Short สุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อีกราว 446 สัญญา รวม 2 วันมีสถานะ Short สุทธิสะสมทั้งสิ้น 1.4 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิราว 3 หมื่นสัญญา ขณะที่สถาบันในประเทศและบัญชีบล. มีสถานะ Short สุทธิราว 1.6 พันสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหนาแน่นราว 8.2 พันล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
1. รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เผยว่า สามารถบรรลุข้อตกลงด้านเศรษฐกิจและการค้ากับประเทศจีน โดยทั้งสองประเทศตกลงที่จะระงับสงครามทางการค้าชั่วคราว
2. ซาอุฯเผยกำลังหารือกับผู้ผลิตน้ำมันทั้งในกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC เพื่อรับประกันว่าจะมีปริมาณน้ำมันสำรองเพียงพอต่อความต้องการในขณะที่เศรษฐกิจโลกขยายตัว
3. Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯที่ 844 แท่นไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า หลังจากเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกว่า 6 สัปดาห์
4. TRUE เผยจะไม่เข้าร่วมประมูลคลื่น 1800 MHz ขณะที่ กสทช. จะยังคงจัดประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz ต่อไป แม้จะเหลือผู้เข้าประมูลเพียงรายเดียว
5. กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เตรียมชุมนุม ในวันที่ 22 พ.ค.นี้
6. HREIT ขึ้นเครื่องหมาย XN วันนี้ จ่ายผลตอบแทนในรูปแบบเงินลดทุน 0.189 บาท/หน่วย คิดเป็น Yield 2.5%
7. KCE เริ่มซื้อขายที่พาร์ใหม่ วันนี้ (แตกพาร์จาก 1 บาท เหลือ 0.50 บาท)
8. ติดตามการรายงาน GDP 1Q61 ของไทย ตลาดคาดขยายตัว 4% YoY วันนี้
9. ติดตามการลงมติของศาลรัฐธรรมนูญ ต่อร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. และอภิปราย ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. วันที่ 23 พ.ค.
10. ติดตามการรายงานเงินเฟ้ออังกฤษเดือน เม.ย. ตลาดคาดขยายตัว 2.5% และการรายงานค่า PMI ของสหรัฐฯ และ EU ในวันที่ 23 พ.ค.
11. ติดตามการรายงาน FED Minute ในวันที่ 24 พ.ค.
12. ติดตามการรายงาน GDP 1Q61 ของอังกฤษ ตลาดคาดขยายตัว 1.2% ในวันที่ 25 พ.ค.
13. ติดตามการรายงานนำเข้า-ส่งออกไทย เดือนพ.ค. ตลาดคาดส่งออกขยายตัว 12.7% ในช่วงระหว่างวันที่ 21 - 24 พ.ค.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist 662-009-8059
OO9033
สะสม TRUE
ราคาปิด 7.20 บาท
ราคาเหมาะสม 8.35 บาท
เราคาดว่าราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวกต่อเนื่อง หลังวันศุกร์ที่ผ่านมาประกาศไม่เข้าร่วมประมูลคลื่น 1800MHz เนื่องจากมีคลื่นในมือ 55MHz เพียงพอที่จะให้บริการ ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ของเรา
แนวโน้มกำไรสุทธิ 2Q61 เติบโตเด่น จากแรงหนุนของกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน DIF สูงถึง 2.5 หมื่นล้านบาท และมีลุ้นที่กำไรปกติจะพลิกเป็นบวกใน 2H61 จากส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
เก็งกำไร LH
ราคาปิด 11.20 บาท
ราคาเหมาะสม 11.80 บาท
เราคาดว่าราคาหุ้นจะ Outperform ได้ หลังถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนี MSCI Thailand ซึ่งปรับน้ำหนักดัชนีในวันที่ 31 พ.ค. ส่งผลให้กองทุนต่างชาติที่ลงทุนโดยใช้ดัชนี MSCI เป็น Benchmark ต้องเข้าซื้อหุ้น LH เข้าสู่พอร์ตลงทุน
เราคาดกำไรสุทธิ 2Q61 ดีต่อเนื่อง จากการบันทึกกำไรพิเศษ 949 บาท จากการขาย Service Apartment ในสหรัฐฯ ส่งผลให้จ่ายเงินปันผลได้ในระดับสูงต่อเนื่อง ให้ Yield สูงถึง 7% ต่อปี
สะสม TTW
ราคาปิด 12.20 บาท
ราคาเหมาะสม 15.30 บาท
TTW มีปัจจัยบวกจากคาดการณ์โอกาสถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนี SET100 ประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือน มิ.ย. และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.2561
ยอดจำหน่ายน้ำในเดือน เม.ย. +9.6% YoY สะท้อนให้เห็นถึงงบ 2Q61 คาดเติบโตต่อเนื่อง และกำลังการผลิตใหม่จำนวน 4 แสนลบ.ม. เริ่มรับรู้ในปีนี้เพียงพอรองรับการเติบโตได้อีก 3-5 ปีข้างหน้า คาดกำไรปี 2561 เติบโต +12% YoY เป็น 2.97 พันล้านบาท และให้ Yield ดีราว 6% ต่อปี
เก็งกำไร CPALL
ราคาปิด 81.50 บาท
แนวต้านทางเทคนิค 83.00-83.50 บาท
สัญญาณทางเทคนิคราคาหุ้นมีโอกาสไต่ระดับขึ้นทดสอบ 83.00-83.50 บาท แนวรับ 81.00 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 80.20 บาท
เราประเมิน SSSG ใน 2Q61 ดีต่อเนื่อง QoQ และคาดว่าจะได้ อานิสงค์จากการเข้าสู่เทศกาลบอลโลกในช่วงกลางเดือน มิ.ย. ช่วยหนุนการเติบโตของยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภค
Pair Trade : n.a
กลยุทธ์วันนี้
เรากลับมาให้น้ำหนักกับปัจจัยภายในประเทศมากกว่าปัจจัยต่างประเทศในสัปดาห์นี้ และมีโอกาสทำให้ SET INDEX ผันผวนมากกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคโดยรวม เริ่มจากการรายงาน GDP 1Q61 ของไทย (เวลาประมาณ 9.30 น.วันนี้) ตลาดคาด + 4%YoY หากออกมาใกล้เคียงคาดหรือดีกว่าคาดย่อมเป็นบวกต่อกลุ่ม Domestic อย่างธนาคาร/ ค้าปลีก/ อสังหาฯ/ สื่อ-สิ่งพิมพ์/ ยานยนต์ แต่หากไม่ย่อมสร้างแรงกดดันเชิงลบทันทีเช่นกัน
ตามมาด้วย ปัจจัยการเมือง เริ่มจากวันอังคารที่ 22 พ.ค. กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง นัดชุมนุม ถัดมาวันพุธที่ 23 พ.ค. ศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยที่มาของ ส.ว. และนัดอภิปรายร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งผลของการตีความอาจชี้นำไปสู่กรอบเวลาของการเลือกตั้งในปีหน้า
อย่างไรก็ดี เรามองว่ากลุ่มสื่อสารจะช่วยประคองภาพรวมของตลาดหุ้นไทยได้ หลัง TRUE แสดงจุดยืนไม่เข้าประมูลคลื่น 1800MHz สำหรับ ADVANC/DTAC มีเวลาแสดงจุดยืนถึงวันที่ 15 มิ.ย. ตามเกณฑ์ของกสทช.รวมถึงกลุ่มอสังหาฯ ที่ผลการดำเนินงานใน 1Q61 อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ขณะที่ Valuation ถูกพร้อมผลตอบแทนจากเงินปันผลที่เด่น เช่น LH / QH / SPALI / ORI/ LPN / PSH เป็นต้น
เราคาด SET INDEX กรอบแกว่ง 1745-1760 จุด กลยุทธ์คง "เก็งกำไรรอบสั้น" (1) กลุ่มสื่อสาร ที่มี Sentiment ดีขึ้น (TRUE) (2) หุ้นได้รับคัดเลือกเข้าดัชนี MSCI รอบเดือน พ.ค. (LH) (3) หุ้นที่มีโอกาสถูกเพิ่มเข้าดัชนี SET50-SET100 (KTC/ TTW) ซึ่งจะประกาศรายชื่ออย่างเป็นทางการช่วงกลางเดือน มิ.ย.
HOT Topic
1. กลุ่มสื่อสารจะช่วยหนุนตลาด หลัง TRUE ประกาศไม่เข้าประมูลคลื่น 1800MHz
2. สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ เริ่มคลายตัวลง
3. ติดตามตัวเลข GDP 1Q61 ของไทยเช้านี้ คาด +4.0% YoY
4. ประเด็นสำคัญสัปดาห์นี้อยู่ที่ช่วงกลางสัปดาห์ คือ ติดตามการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญประเด็นร่างพ.ร.ป.ที่มาของส.ว. และการอภิปรายร่างพ.ร.ป. ที่มาของส.ส.
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX มีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มสื่อสาร หลัง TRUE ส่งสัญญาณไม่เข้าร่วมประมูลในช่วงบ่าย หนุนดัชนี้ขึ้นมาปิดที่ 1754.17 จุด เพิ่มขึ้น 2.97 จุด โดยหุ้นที่ปรับตัวขึ้นเด่น ได้แก่ TRUE (+5.88%), BDMS (+2.94%), ADVANC (+1.86%) และ DTAC (+6.78%) มีผลต่อดัชนีราว +4.2 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 6 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 2 อีกราว 5.8 พันล้านบาท รวม 2 วันขายสุทธิสะสมกว่า 7.1 พันล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิหนาแน่นราว 3.3 พันล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิเป็นวันที่ 2 ราว 6.6 พันสัญญา รวม 2 วัน มีสถานะ Long สุทธิสะสมกว่า 9.1 พันสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Short สุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อีกราว 446 สัญญา รวม 2 วันมีสถานะ Short สุทธิสะสมทั้งสิ้น 1.4 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิราว 3 หมื่นสัญญา ขณะที่สถาบันในประเทศและบัญชีบล. มีสถานะ Short สุทธิราว 1.6 พันสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหนาแน่นราว 8.2 พันล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
1. รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เผยว่า สามารถบรรลุข้อตกลงด้านเศรษฐกิจและการค้ากับประเทศจีน โดยทั้งสองประเทศตกลงที่จะระงับสงครามทางการค้าชั่วคราว
2. ซาอุฯเผยกำลังหารือกับผู้ผลิตน้ำมันทั้งในกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC เพื่อรับประกันว่าจะมีปริมาณน้ำมันสำรองเพียงพอต่อความต้องการในขณะที่เศรษฐกิจโลกขยายตัว
3. Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯที่ 844 แท่นไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า หลังจากเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกว่า 6 สัปดาห์
4. TRUE เผยจะไม่เข้าร่วมประมูลคลื่น 1800 MHz ขณะที่ กสทช. จะยังคงจัดประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz ต่อไป แม้จะเหลือผู้เข้าประมูลเพียงรายเดียว
5. กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เตรียมชุมนุม ในวันที่ 22 พ.ค.นี้
6. HREIT ขึ้นเครื่องหมาย XN วันนี้ จ่ายผลตอบแทนในรูปแบบเงินลดทุน 0.189 บาท/หน่วย คิดเป็น Yield 2.5%
7. KCE เริ่มซื้อขายที่พาร์ใหม่ วันนี้ (แตกพาร์จาก 1 บาท เหลือ 0.50 บาท)
8. ติดตามการรายงาน GDP 1Q61 ของไทย ตลาดคาดขยายตัว 4% YoY วันนี้
9. ติดตามการลงมติของศาลรัฐธรรมนูญ ต่อร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. และอภิปราย ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. วันที่ 23 พ.ค.
10. ติดตามการรายงานเงินเฟ้ออังกฤษเดือน เม.ย. ตลาดคาดขยายตัว 2.5% และการรายงานค่า PMI ของสหรัฐฯ และ EU ในวันที่ 23 พ.ค.
11. ติดตามการรายงาน FED Minute ในวันที่ 24 พ.ค.
12. ติดตามการรายงาน GDP 1Q61 ของอังกฤษ ตลาดคาดขยายตัว 1.2% ในวันที่ 25 พ.ค.
13. ติดตามการรายงานนำเข้า-ส่งออกไทย เดือนพ.ค. ตลาดคาดส่งออกขยายตัว 12.7% ในช่วงระหว่างวันที่ 21 - 24 พ.ค.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist 662-009-8059
OO9033