- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 18 May 2018 19:48
- Hits: 3370
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
สะสมหุ้นที่ปรับตัวลงแรงผิดปกติ / หุ้นที่มีโอกาสเข้า SET50-SET100
Smart Pick
สะสม ADVANC
ราคาปิด 188.50 บาท
ราคาเหมาะสม 250.00 บาท
ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงถึง 5% ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา คาดเกิดจากปรับพอร์ตของสถาบันในและต่างประเทศ หลัง MSCI ลดน้ำหนักการลงทุนตลาดหุ้นไทย ส่งผลให้หุ้นที่อยู่ในดัชนี MSCI ได้รับผลกระทบเชิงลบ เราคาดว่าจะเห็นแรงซื้อคืนหลังผ่านพ้นการปรับน้ำหนักในวันที่ 31 พ.ค.
เราคงมุมมองต่อกำไรปกติ 2Q61 เติบโต YoY และ ARPU ขยับขึ้นต่อเนื่องตามความต้องการใช้งาน Data ที่สูงขึ้น คาดการณ์เงินปันผล 1H61 ราวหุ้นละ 3.50-3.60 บาท คิดเป็น Dividend Yield ราว 2%
สะสม CENTEL
ราคาปิด 45.75 บาท
ราคาเหมาะสม 51.00 บาท
ราคาหุ้นวานนี้ปรับตัวลง -3.6% จากสถิติเดือน เม.ย.ของธุรกิจอาหารและโรงแรมที่อาจลดลง YoY จากจำนวนนักท่องเที่ยวยุโรปชะลอตัว จากเทศกาลอีสเตอร์ปีนี้ตรงกับเดือน มี.ค.เทียบกับปีก่อนที่เดือน เม.ย.
เราคงมุมมองต่อกำไรปกติ 2Q61 จะยังเติบโต YoY จากแรงหนุนของโรงแรมในมัลดีฟที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง และคงประมาณการกำไรปี 2561 เติบโต +11% YoY เป็น 2.2 พันล้านบาท
สะสม TTW
ราคาปิด 12.20 บาท
ราคาเหมาะสม 15.30 บาท
ปัจจัยบวกเด่นที่รออยู่คือ คาด TTW มีโอกาสถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนี SET100 ซึ่งจะประกาศช่วงกลางเดือน มิ.ย. และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.2561
ล่าสุดยอดจำหน่ายน้ำในเดือน เม.ย. +9.6% YoY สะท้อนให้เห็นถึงงบ 2Q61 คาดเติบโตต่อเนื่อง ส่วนกำลังการผลิตใหม่จำนวน 4 แสนลบ.ม.จะเริ่มรับรู้ในปีนี้ เพียงพอที่จะรองรับการเติบโตได้อีก 3-5 ปีข้างหน้า คาดกำไรปี 2561 เติบโต +12% YoY เป็น 2.97 พันล้านบาท และให้ Yield ดีราว 6% ต่อปี
เก็งกำไร PTT
ราคาปิด 57.25 บาท
ราคาเหมาะสม 59.50 บาท
สัญญาณทางเทคนิคราคาหุ้นมีโอกาสไต่ระดับขึ้นทดสอบ 59.00-60.00 บาท แนวรับ 57.00 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 56.25 บาท
หุ้นกลุ่มพลังงานยังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX, BRENT ที่ทรงตัวระดับสูงรอบ 3 ปีครึ่ง และ Valuation ยังไม่แพง ที่ระดับ PER2561 ราว 11.8 เท่า
Pair Trade : n.a
กลยุทธ์วันนี้
SET INDEX วานนี้ยังคงปิดยืนเหนือแนว 1745 จุด ทำให้สัญญญาณทางเทคนิคไม่เสีย และมีโอกาสฟื้นตัวจากแนวรับดังกล่าว อย่างไรก็ดี ความกังวลต่อการปรับลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยในการคำนวณดัชนี MSCI ช่วงสิ้นเดือนนี้ รวมถึง US 10-Year Bond Yield ทำระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีที่ 3.1% ทำให้การปรับพอร์ตของนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศจะยังดำเนินต่อไปในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ จำกัด Upside ต่อการฟื้นตัวเช่นกัน เราประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของ SET INDEX วันนี้ 1745-1760 จุด
บทวิเคราะห์พื้นฐานเช้านี้ หุ้น KTC เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2561-62 เพิ่มขึ้น 21% และ 16% จากเดิม ตามลำดับ สะท้อนแนวโน้ม Credit Cost และต้นทุนทางการเงินที่ลดลง ส่งผลให้ราคาเหมาะสม ขยับขึ้นจาก 350 เป็น 410 บาท ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น "ซื้อ" จากเดิม "ซื้อเก็งกำไร"
ปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้า คือ การรายงาน GDP 1Q61 ของไทยในวันจันทร์หน้า (21 พ.ค.) ตลาดคาดขยายตัว 4% YoY ใกล้เคียงกับ 4Q60 แต่หากออกมาดีกว่าคาด จะเป็นประเด็นบวกเชิง Sentiment ต่อหุ้น Domestic Play
กลยุทธ์โดยรวม เรายังคงเน้น "ขึ้นแรงขาย / ลงแรงซื้อ" ต่อเนื่อง ให้น้ำหนักในกลุ่มที่งบการเงิน 1Q61 ออกมาดีกว่าคาด อย่างกลุ่มอสังหาฯ (LH / SPALI / ORI) กลุ่มรับเหมาฯ (CK / STEC/ UNIQ) กลุ่มยานยนต์ (AH / SAT) กลุ่มโรงพยาบาล (BCH / EKH) หรือหุ้นที่มีโอกาสเข้า SET50-SET100 อย่าง KTC / TTW เป็นต้น
HOT Topic
1. ติดตามความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ
2. Bond Yield 10 ปีสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสูงกว่า 3.1% ทำระดับสูงสุดรอบ 7 ปี
3. หุ้น Big Cap ที่ลงแรงจากความกังวลเรื่อง MSCI ตัวใดน่าสนใจ
4. สัปดาห์หน้ามีปัจจัยสำคัญ ได้แก่ GDP 1Q61 ของไทย คาด +4.0% YoY และการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญประเด็นร่างพ.ร.ป.ที่มาของส.ว. และการอภิปรายเรื่องการเลือกตั้งส.ส.
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX สามารถยืนเหนือ 1750 จุด โดยเพิ่มขึ้น 0.58 จุด (+0.03%) ปิดที่ 1751.20 จุด ถึงแม้ว่าหุ้นในกลุ่ม PTT จะปรับตัวขึ้นโดดเด่น นำโดย PTTEP (+6.5%) , PTT (+1.33%) และ PTTGC (+3.49%) หนุนดัชนีราว 7 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งตลาดราว 7.1 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิราว 1.3 พันล้านบาท เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิราว 645 ล้านบาท รวม 2 วันขายสุทธิสะสมราว 2.2 พันล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการราว 2.5 พันสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Short สุทธิเล็กน้อยราว 946 สัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิราว 2.3 หมื่นสัญญา ขณะที่สถาบันในประเทศและบัญชีบล. มีสถานะ Short สุทธิราว 1.1 พันสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเล็กน้อยราว 944 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
จีนยื่นข้อเสนอที่จะซื้อสินค้าจากสหรัฐฯมากขึ้น เพื่อลดมูลค่าการเกินดุลทางการค้ากับสหรัฐฯลง 2 แสนล้านเหรียญฯ ขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯเผยการเจรจาทางการค้ากับจีนมีความเป็นไปได้น้อยที่จะบรรลุข้อตกลง
รัฐมนตรีการค้าของสหรัฐฯเผย ยังไม่เห็นท่าทีที่จะสามารถบรรลุข้อตกลง NAFTA ได้
ประธานาธิบดีสหรัฐฯเผย ไม่ได้มีแผนที่จะให้เกาหลีเหนือปลดอาวุธนิวเคลียร์ แต่ไม่มีแผนยกเลิกซ้อมรบกับเกาหลีใต้เช่นกัน
สหประชาชาติ (UN) คาดเศรษฐกิจสหรัฐฯปีนี้ขยายตัว 2.5% และปี 2562 เติบโต 2.3%
ก.คมนาคมเผย JICA จะสรุปรายงานของผลการสำรวจการพัฒนาโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายภายใน เดือน พ.ค. 61 และคาดว่าจะมีการประชุมร่วมระหว่างไทยและพม่าในเดือน มิ.ย. ประเด็นการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายต่อไป
ญี่ปุ่นรายงานเงินเฟ้อเดือน เม.ย. ขยายตัว 0.6%YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 0.7%YoY
ติดตามผลการเจรจาข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ระหว่างวันที่ 16-20 พ.ค.
ปัจจัยที่สำคัญในสัปดาห์หน้า
ติดตามการรายงาน GDP 1Q61 ของไทย ตลาดคาดขยายตัว 4% YoY วันที่ 21 พ.ค.
ติดตามการลงมติของศาลรัฐธรรมนูญ ต่อร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. และอภิปราย ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.วันที่ 23 พ.ค.
ติดตามการรายงานเงินเฟ้ออังกฤษเดือน เม.ย. ตลาดคาดขยายตัว 2.5% และการรายงานค่า PMI ของสหรัฐฯ และยูโรโซน ในวันที่ 23 พ.ค.
ติดตามการรายงาน FED Minute ในวันที่ 24 พ.ค.
ติดตามการรายงาน GDP 1Q61 ของอังกฤษ ตลาดคาดขยายตัว 1.2% ในวันที่ 25 พ.ค.
ติดตามการรายงานนำเข้า-ส่งออกไทย เดือนพ.ค. ตลาดคาดส่งออกขยายตัว 12.7% ในช่วงระหว่างวันที่ 21 - 24 พ.ค.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research ,662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO8953