- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 17 May 2018 16:50
- Hits: 685
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET เผชิญกับแรงขายต่อเนื่อง โดย SAWAD เผชิญกับแรงขายพร้อมวอลุ่มสูงภายหลังรายงานกำไรต่ำ และกลุ่ม ICT โดนแรงขายเด่นนำโดย TRUE, ADVANC และ DTAC ภายหลังพร้อมกันส่งชื่อเข้าประมูลคลื่น 1,800mhz อีกทั้งกลุ่มโรงกลั่นยังโดนแรงขายต่อเนื่อง เช่น TOP, ESSO, BCP อย่างไรก็ตามเราเป็นเม็ดเงินไหลเข้าซื้อกลุ่มก่อสร้างภายหลัง Underperform ตลาดมานาน นำโดย STEC, CK , ITD ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,750 จุด (-16.2 จุด ) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 6.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวานก่อนที่ 6.0 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทยที่ 2,130 ล้านบาท แต่ยังคงเปิดสถานะ Short SET50 index future ที่ 7,393 สัญญา
Investment theme
สรุปผลประกอบการ 1Q18 : เกือบ 98% ของบริษัทจะทะเบียนรายงานผลประกอบการออกมาเป็นที่เรียบร้อย ภาพรวมกำไร 2.73 แสนล้านบาท (+1.5%YoY, +15.4%QoQ) โดยกลุ่มที่รายงานกำไรเติบโตโดดเด่นได้แก่กลุ่มพลังงาน (+8%YoY, +27%QoQ), กลุ่มขนส่ง, กลุ่มยานยนต์(+68%QoQ, +21%YoY) กลุ่มธนาคาร (+27%QoQ, 1%YoY) และกลุ่มค้าปลีก (+12%YoY) ในขณะที่กลุ่มส่งออกอาหารและเครื่องดื่มปรับตัวลงสูงจากทั้งรายได้ที่ผิดคาดและอัตรากำไรที่ลดลง โดยภายหลังการรายงานผลประกอบการ พบว่าภาพรวมนักวิเคราะห์มีการปรับประมาณการกำไรกลุ่มสื่อ, อาหารและเกษตรลง ส่งผลให้ภาพรวม EPS ลดลงเหลือประมาณ 109.88 (จากระดับประมาณ 110.4) สำหรับเชิงกลยุทธ์ในการรับมือสถานการณ์เงินทุนไหลออก ภายหลัง Bond yield และ Dollar สหรัฐซึ่งถือเป็นต้นทุนของการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงของภูมิภาคบ้านเราปรับขึ้นในอัตราเร่ง เราแนะถือเงินสดไมต่ำกว่า 30% พร้อมทยอยสะสมกลุ่มรถไฟฟ้า กลุ่มพลังงานต้นน้ำ และกลุ่มค้าปลีก (และหาก SET ปรับต่ำกว่า 1,725 จุด แนะเพิ่มน้ำหนักเงินสดเป็น 40% )
Investment Theme: สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,760-1,780 จุด แนะลงทุนกลุ่มพลังงานปิโตร PTTEP, IVL และค้าปลีก BJC ในขณะที่เราแนะเก็งกำไรในหุ้นที่คาดจะเข้า SET50/100 และมีพื้นฐานดี นำโดย BGRIM, VGI และทยอยสะสม PRM
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา –ธปท.คงดอกเบี้ยนโยบาย 1.5% / กนง.คาด GDP ปีนี้มีโอกาสโตสูงกว่าคาด / น้ำมันดิบคงคลังลดสูงกว่าคาดที่ 1.4 ล้านบาร์เรล / ผู้นำเกาหลีเหนือยกเลิกการพบปะเกาหลีใต้ / มาเลเซียเตรียมปรับลดภาษีสินค้าและบริการ จาก 6% เป็น 0%
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET เผชิญกับแรงขายต่อเนื่อง โดย SAWAD เผชิญกับแรงขายพร้อมวอลุ่มสูงภายหลังรายงานกำไรต่ำ และกลุ่ม ICT โดนแรงขายเด่นนำโดย TRUE, ADVANC และ DTAC ภายหลังพร้อมกันส่งชื่อเข้าประมูลคลื่น 1,800mhz อีกทั้งกลุ่มโรงกลั่นยังโดนแรงขายต่อเนื่อง เช่น TOP, ESSO, BCP อย่างไรก็ตามเราเป็นเม็ดเงินไหลเข้าซื้อกลุ่มก่อสร้างภายหลัง Underperform ตลาดมานาน นำโดย STEC, CK , ITD ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,750 จุด (-16.2 จุด ) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 6.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวานก่อนที่ 6.0 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทยที่ 2,130 ล้านบาท แต่ยังคงเปิดสถานะ Short SET50 index future ที่ 7,393 สัญญา
Investment theme
สรุปผลประกอบการ 1Q18 : เกือบ 98% ของบริษัทจะทะเบียนรายงานผลประกอบการออกมาเป็นที่เรียบร้อย ภาพรวมกำไร 2.73 แสนล้านบาท (+1.5%YoY, +15.4%QoQ) โดยกลุ่มที่รายงานกำไรเติบโตโดดเด่นได้แก่กลุ่มพลังงาน (+8%YoY, +27%QoQ), กลุ่มขนส่ง, กลุ่มยานยนต์(+68%QoQ, +21%YoY) กลุ่มธนาคาร (+27%QoQ, 1%YoY) และกลุ่มค้าปลีก (+12%YoY) ในขณะที่กลุ่มส่งออกอาหารและเครื่องดื่มปรับตัวลงสูงจากทั้งรายได้ที่ผิดคาดและอัตรากำไรที่ลดลง โดยภายหลังการรายงานผลประกอบการ พบว่าภาพรวมนักวิเคราะห์มีการปรับประมาณการกำไรกลุ่มสื่อ, อาหารและเกษตรลง ส่งผลให้ภาพรวม EPS ลดลงเหลือประมาณ 109.88 (จากระดับประมาณ 110.4) สำหรับเชิงกลยุทธ์ในการรับมือสถานการณ์เงินทุนไหลออก ภายหลัง Bond yield และ Dollar สหรัฐซึ่งถือเป็นต้นทุนของการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงของภูมิภาคบ้านเราปรับขึ้นในอัตราเร่ง เราแนะถือเงินสดไมต่ำกว่า 30% พร้อมทยอยสะสมกลุ่มรถไฟฟ้า กลุ่มพลังงานต้นน้ำ และกลุ่มค้าปลีก (และหาก SET ปรับต่ำกว่า 1,725 จุด แนะเพิ่มน้ำหนักเงินสดเป็น 40% )
Investment Theme: สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,760-1,780 จุด แนะลงทุนกลุ่มพลังงานปิโตร PTTEP, IVL และค้าปลีก BJC ในขณะที่เราแนะเก็งกำไรในหุ้นที่คาดจะเข้า SET50/100 และมีพื้นฐานดี นำโดย BGRIM, VGI และทยอยสะสม PRM
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา –ธปท.คงดอกเบี้ยนโยบาย 1.5% / กนง.คาด GDP ปีนี้มีโอกาสโตสูงกว่าคาด / น้ำมันดิบคงคลังลดสูงกว่าคาดที่ 1.4 ล้านบาร์เรล / ผู้นำเกาหลีเหนือยกเลิกการพบปะเกาหลีใต้ / มาเลเซียเตรียมปรับลดภาษีสินค้าและบริการ จาก 6% เป็น 0%
Stock pick : PTTEP
PTTEP : เก็งกำไร 140.0 บาท/หุ้น
เราคงมุมมองเชิงบวกต่อราคาน้ำมัน ทั้งจากฝั่งอุปสงค์ที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก และฝั่งอุปทาน รวมถึง Event play ซึ่งมีปัจจัยกดดันอยู่มาก เริ่มตั้งแต่ Syria, Venezuela, การคว่ำบาตร Iran รวมถึงความคาดหวังผลการประชุม OPEC ในเดือนมิถุนายน
ในขณะที่การประชุมนักวิเคราะห์ครั้งล่าสุด เรามีมุมมองเชิงบวกเช่นกัน โดยเฉพาะส่วนการประมูลสัมปทานบงกช-เอราวัณในเดือนธ.ค.นี้ ประเด็นสำคัญมุ่งไปที่ การกำหนดให้มีตัวแทนรัฐบาลไทยเข้าร่วมในสัดส่วน 25% หากเราเชื่อว่า PTTEP เป็นตัวแทนของรัฐบาลในธุรกิจสำรวจและผลิต ถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้ามีส่วนในแหล่งสัมปทานที่ค่อนข้างแน่นอน
ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 61-62 ปรับขึ้น 19.0-20.6% เป็น 39,421 ล้านบาทและ 41,736 ล้านบาท คงคำแนะนำ ซื้อ
Trading idea – – เก็งกำไร BANPU กรอบ 22.0 บาท (แต่ไม่ควรหลุดต่ำกว่า 19.70) / CPF กรอบ 24.8-26.0
Technical View
PTTEP : เก็งกำไร 140.0 บาท/หุ้น
เราคงมุมมองเชิงบวกต่อราคาน้ำมัน ทั้งจากฝั่งอุปสงค์ที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก และฝั่งอุปทาน รวมถึง Event play ซึ่งมีปัจจัยกดดันอยู่มาก เริ่มตั้งแต่ Syria, Venezuela, การคว่ำบาตร Iran รวมถึงความคาดหวังผลการประชุม OPEC ในเดือนมิถุนายน
ในขณะที่การประชุมนักวิเคราะห์ครั้งล่าสุด เรามีมุมมองเชิงบวกเช่นกัน โดยเฉพาะส่วนการประมูลสัมปทานบงกช-เอราวัณในเดือนธ.ค.นี้ ประเด็นสำคัญมุ่งไปที่ การกำหนดให้มีตัวแทนรัฐบาลไทยเข้าร่วมในสัดส่วน 25% หากเราเชื่อว่า PTTEP เป็นตัวแทนของรัฐบาลในธุรกิจสำรวจและผลิต ถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้ามีส่วนในแหล่งสัมปทานที่ค่อนข้างแน่นอน
ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 61-62 ปรับขึ้น 19.0-20.6% เป็น 39,421 ล้านบาทและ 41,736 ล้านบาท คงคำแนะนำ ซื้อ
Trading idea – – เก็งกำไร BANPU กรอบ 22.0 บาท (แต่ไม่ควรหลุดต่ำกว่า 19.70) / CPF กรอบ 24.8-26.0
Technical View
วันนี้หากไม่ Rebound จะกลับเป็นขาลงอีกครั้ง: แรงขายหลักจากหุ้นกลุ่ม Big Cap. หลากหลายกลุ่ม ทำให้ดัชนีปรับตัวลงต่อ ขณะนี้กำลังทดสอบแนวรับระยะสั้นที่ 1745-1750 มองว่าหากวันนี้ดัชนีไม่มีแรง Rebound และปิดหลุด 1745 แนวโน้มระยะกลางถึงยาวจะกลับเป็นขาลงอีกครั้ง มองแนวรับถัดไปที่บริเวณเส้น EMA200วันที่ 1725 แต่หากมีจังหวะ Rebound ระหว่างวันมองว่าเป็นโอกาสขายที่บริเวณแนวต้านเพื่อลดพอร์ตการลงทุน กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: จังหวะ Rebound มองเป็นโอกาสทยอยขายตามแนวต้านเพื่อลดพอร์ตการลงทุน 2) ไม่มีหุ้น: พิจารณาแนวรับ 1745-1750 หากรับไม่อยู่แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุน แต่หากรับอยู่อาจเล่น Rebound
แนวรับ : 1755, 1745 แนวต้าน : 1760, 1775
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: Trump เดินทางเยือนเกาหลีใต้ 22 พ.ค.
ปัจจัยในประเทศ: -
แนวรับ : 1755, 1745 แนวต้าน : 1760, 1775
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: Trump เดินทางเยือนเกาหลีใต้ 22 พ.ค.
ปัจจัยในประเทศ: -
หุ้นเทคนิค:
BANPU (B 21.00-21.20, Tp 22.00//22.50, Cut 20.70)
PTT (B 56.00, Tp 59.00, Cut 55.00)
BANPU (B 21.00-21.20, Tp 22.00//22.50, Cut 20.70)
PTT (B 56.00, Tp 59.00, Cut 55.00)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO8901
Research Department Tel. 02-658-5000
OO8901