- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 16 May 2018 17:44
- Hits: 833
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวันกลยุทธ์วันนี้
เก็งกำไรหุ้นรายตัว
Smart Pick
สะสม LH
ราคาปิด 11.20 บาท
ราคาเหมาะสม 11.80 บาท
เราคาดราคาหุ้นจะยังมี Sentiment เชิงบวกต่อ หลังถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนี MSCI Thailand โดยมีผล ณ ราคาปิดวันที่ 31 พ.ค.
สำหรับทิศทางกำไรสุทธิ 2Q61 เรามองว่าแข็งแกร่งต่อเนื่อง รวมถึงการบันทึกกำไรพิเศษจำนวน 949 บาท จากการขาย Service Apartment ในสหรัฐฯ ส่งผลให้การจ่ายเงินปันผลงวด 1H61 อาจอยู่ในระดับสูง สำหรับผลตอบแทนเงินปันผลงวดปี 2561 สูงถึง 7% ต่อปี
สะสม BANPU
ราคาปิด 20.50 บาท
ราคาเหมาะสม 32.00 บาท
ราคาหุ้นมี Sentiment บวก หลังราคาถ่านหินล่วงหน้า Newcastle ล่าสุด วานนี้ปิดบวกอีก 1.7% ปิดที่ US$104.25/ตัน
เรามองว่าผลการดำเนินงานของ BANPU ผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้วใน 1Q61 จากการบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษคดีหงสา 2.7 พันล้านบาท ถือเป็นการปลดล็อกปัจจัยกดดันราคาหุ้น ขณะที่คาดกำไรสุทธิ 2Q61 จะเติบโตเด่น QoQ และ Valuation น่าสนใจที่ระดับ PER2561 เพียง 7.2 เท่า
เก็งกำไร TRUE
ราคาปิด 7.70 บาท
ราคาเหมาะสม 8.35 บาท
รายงานขาดทุนปกติราว 750 ล้านบาท ใน 1Q61 ดีกว่าคาดที่ขาดทุนปกติ 830 ล้านบาท ดีขึ้นมากทั้ง YoY และ QoQ จากรายได้ธุรกิจมือถือที่เติบโต +10% YoY, การควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี และลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอีก 4.1 แสนราย ส่งผลให้ Market Share เพิ่มขึ้นเป็น 27.6% และทิ้งห่าง DTAC เพิ่มเป็น 2.9%
แนวโน้ม 2Q61 เป็นบวก จากกำไรพิเศษขายสินทรัพย์เข้ากองทุน DIF สูงถึง 2.6 หมื่นล้านบาท และเชื่อว่า TRUE ไม่จำเป็นต้องเข้าประมูลคลื่น 1800 MHz
เก็งกำไร KTB
ราคาปิด 17.20 บาท
ราคาเหมาะสม 19.50 บาท
สัญญาณทางเทคนิค ราคาหุ้นมีโอกาสไต่ระดับขึ้นทดสอบ 17.50-18.00 บาท แนวรับ 17.00 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 16.80 บาท
คาดกำไร 2Q61 ดีขึ้น YoY จากการตั้งสำรองลดลง เพราะใน 2Q60 มีการตั้งสำรองจำนวนมากจากหนี้สูญของ EARTH ราคา ณ ปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ PBV2561 เพียง 2.8 เท่า
Pair Trade : Short PTT // Long BANPU
กลยุทธ์วันนี้
การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกเผชิญกับแรงกดดันอีกครั้ง เมื่อ US 10-Bond Yield ขึ้นต่อเนื่องแตะระดับ 3.07% สูงสุดในรอบ 7 ปี และ Dollar Index กลับมาแข็งค่า ปิดที่ 93.2 สวนทางกับเงินบาทที่อ่อนค่าหลุดแนว 32 บาท/US$ อีกครั้ง รวมถึงแรงขายทำกำไรหลังประกาศงบ (Sell on Fact) ทำให้ SET INDEX มีโอกาสพักตัววันนี้ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหว 1760-1770 จุด
การประกาศงบ 1Q61 โค้งสุดท้าย บริษัทที่รายงานผลประกอบการดีกว่าคาด ได้แก่ TRUE ขาดทุนปกติน้อยกว่าคาดมาก เพราะรายได้ธุรกิจมือถือขยายตัวต่อเนื่อง และควบคุมค่าใช้จ่ายดีขึ้น และ CK กำไรดีกว่าคาดถึง 14% จากการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น ทำให้ราคาหุ้นน่าจะทรงตัวได้ดีกว่า SET INDEX โดยรวมวันนี้
ทีม Quant ของ Yuanta คำนวณหุ้นเข้า-ออก ดัชนี SET50-SET100 รอบเดือน ก.ค.-ธ.ค.2561 เบื้องต้น (ใช้ข้อมูลถึงวันที่ 14 พ.ค.) หุ้นที่คาดว่าจะถูกเข้าคำนวณใน SET50 (GULF/ KTC/ BGRIM) และหุ้นที่คาดว่าจะเข้า SET100 (TTW) ทั้งนี้ เกณฑ์ของ ตลท. จะใช้ข้อมูลการซื้อขายจนถึงสิ้นเดือนนี้ และประกาศรายชื่อหุ้นเข้า-ออกอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือน มิ.ย.
กลยุทธ์ยังคงเป็น "ขึ้นแรงขาย และลงแรงซื้อ" เน้นเก็งกำไรรอบสั้นบนประเด็นบวกเฉพาะตัว ได้แก่ (1) หุ้นที่ได้รับคัดเลือกเข้าดัชนี MSCI รอบเดือน พ.ค.2561 (LH) (2) หุ้นที่มีโอกาสเข้าดัชนี SET50-SET100 รอบเดือน ก.ค.-ธ.ค.2561 (GULF/ KTC/ BGRIM/ TTW) และ (3) หุ้นที่รายงานผลการดำเนินงาน 1Q61 ดีกว่าตลาดคาด (TRUE)
HOT Topic
1. TRUE รายงานงบ 1Q61 ออกมาดีกว่าคาด และ Market Share ทิ้งห่าง DTAC เพิ่มขึ้นเป็น 2.9%
2. Bond Yield 10 ปี ของสหรัฐฯ ทำระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี เราควรรับมืออย่างไร?
3. ติดตามการประชุม กนง. คาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5% แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่มุมมองต่อการเลื่อนใช้ IFRS9
4. สรุปภาพรวมงบ 1Q61 หลังเสร็จสิ้นการรายงาน กลุ่มไหนเด่น กลุ่มไหนด้อย?
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX แกว่งตัวอยู่ในแดนลบตลอดวัน โดยทำจุดต่ำสุดระหว่างวันที่บริเวณ 1759 จุด ก่อนมีแรงซื้อกลับขึ้นมาปิดที่ 1766.86 จุด ลดลง 6.24 จุด (-0.35%) โดยหลักได้รับผลกระทบจากหุ้นขนาดใหญ่นำโดย PTT (-0.88%), CPALL (-1.45%), AOT (-0.7%), ADVANC (-1.26%) และ IVL (-2.41%) กระทบดัชนีราว -5.34 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 6 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อีกราว 1.3 พันล้านบาท รวม 2 วันขายสุทธิกว่า 1.6 พันล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 เพียง 288 ล้านบาท รวม 4 วันทำการซื้อสุทธิสะสมราว 4.1 พันล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 1.3 พันสัญญา เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Short สุทธิเป็นวันที่ 2 ราว 2.5 พันสัญญา รวม 2 วันมีสถานะ Short สุทธิสะสมราว 4.7 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิสะสมราว 2.8 หมื่นสัญญา ขณะที่สถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Short สุทธิสะสมราว 5.4 พันสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 อีกราว 9.4 พันล้านบาท รวม 2 วันซื้อสุทธิทั้งสิ้น 1.1 หมื่นล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เผยกำลังศึกษาแนวทางการลงโทษบริษัท ZTE ที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ
เกาหลีเหนือยกเลิกการประชุมผู้นำกับเกาหลีใต้ที่จะจัดขึ้นในวันนี้ เนื่องจากเกาหลีใต้ยังคงซ้อมรบกับสหรัฐฯบนคาบสมุทรเกาหลี
เลขาธิการ UN เตรียมเข้าพบประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อหารือเกี่ยวกับคาบสมุทรเกาหลี, ซีเรีย, อิหร่าน และการปฏิรูปสหประชาชาติ
EU รายงาน GDP 1Q61 ขยายตัว 2.5%YoY เท่ากับคาดการณ์ของตลาด
ญี่ปุ่นรายงาน GDP 1Q61 หดตัว 0.6%YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะหดตัว 0.1%YoY และเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 9 ไตรมาส
ครม. มีมติอนุมัติโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวลในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ วงเงินลงทุน 1.56 พันล้านบาท อายุโครงการ 20 ปี
ติตดามการประชุม กนง. และการรายงานเงินเฟ้อเดือน เม.ย. ของยูโรโซน ในวันนี้
ติดตามการเจรจา NAFTA คาดว่าจะทราบผลสรุปภายในวันที่ 17 พ.ค.
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อเดือน เม.ย. ของญี่ปุ่น ตลาดคาดขยายตัว 0.7% YoY ในวันที่ 18 พ.ค.
ติดตามผลการเจรจาข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ระหว่างวันที่ 16-20 พ.ค.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO8828
สะสม LH
ราคาปิด 11.20 บาท
ราคาเหมาะสม 11.80 บาท
เราคาดราคาหุ้นจะยังมี Sentiment เชิงบวกต่อ หลังถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนี MSCI Thailand โดยมีผล ณ ราคาปิดวันที่ 31 พ.ค.
สำหรับทิศทางกำไรสุทธิ 2Q61 เรามองว่าแข็งแกร่งต่อเนื่อง รวมถึงการบันทึกกำไรพิเศษจำนวน 949 บาท จากการขาย Service Apartment ในสหรัฐฯ ส่งผลให้การจ่ายเงินปันผลงวด 1H61 อาจอยู่ในระดับสูง สำหรับผลตอบแทนเงินปันผลงวดปี 2561 สูงถึง 7% ต่อปี
สะสม BANPU
ราคาปิด 20.50 บาท
ราคาเหมาะสม 32.00 บาท
ราคาหุ้นมี Sentiment บวก หลังราคาถ่านหินล่วงหน้า Newcastle ล่าสุด วานนี้ปิดบวกอีก 1.7% ปิดที่ US$104.25/ตัน
เรามองว่าผลการดำเนินงานของ BANPU ผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้วใน 1Q61 จากการบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษคดีหงสา 2.7 พันล้านบาท ถือเป็นการปลดล็อกปัจจัยกดดันราคาหุ้น ขณะที่คาดกำไรสุทธิ 2Q61 จะเติบโตเด่น QoQ และ Valuation น่าสนใจที่ระดับ PER2561 เพียง 7.2 เท่า
เก็งกำไร TRUE
ราคาปิด 7.70 บาท
ราคาเหมาะสม 8.35 บาท
รายงานขาดทุนปกติราว 750 ล้านบาท ใน 1Q61 ดีกว่าคาดที่ขาดทุนปกติ 830 ล้านบาท ดีขึ้นมากทั้ง YoY และ QoQ จากรายได้ธุรกิจมือถือที่เติบโต +10% YoY, การควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี และลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอีก 4.1 แสนราย ส่งผลให้ Market Share เพิ่มขึ้นเป็น 27.6% และทิ้งห่าง DTAC เพิ่มเป็น 2.9%
แนวโน้ม 2Q61 เป็นบวก จากกำไรพิเศษขายสินทรัพย์เข้ากองทุน DIF สูงถึง 2.6 หมื่นล้านบาท และเชื่อว่า TRUE ไม่จำเป็นต้องเข้าประมูลคลื่น 1800 MHz
เก็งกำไร KTB
ราคาปิด 17.20 บาท
ราคาเหมาะสม 19.50 บาท
สัญญาณทางเทคนิค ราคาหุ้นมีโอกาสไต่ระดับขึ้นทดสอบ 17.50-18.00 บาท แนวรับ 17.00 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 16.80 บาท
คาดกำไร 2Q61 ดีขึ้น YoY จากการตั้งสำรองลดลง เพราะใน 2Q60 มีการตั้งสำรองจำนวนมากจากหนี้สูญของ EARTH ราคา ณ ปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ PBV2561 เพียง 2.8 เท่า
Pair Trade : Short PTT // Long BANPU
กลยุทธ์วันนี้
การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกเผชิญกับแรงกดดันอีกครั้ง เมื่อ US 10-Bond Yield ขึ้นต่อเนื่องแตะระดับ 3.07% สูงสุดในรอบ 7 ปี และ Dollar Index กลับมาแข็งค่า ปิดที่ 93.2 สวนทางกับเงินบาทที่อ่อนค่าหลุดแนว 32 บาท/US$ อีกครั้ง รวมถึงแรงขายทำกำไรหลังประกาศงบ (Sell on Fact) ทำให้ SET INDEX มีโอกาสพักตัววันนี้ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหว 1760-1770 จุด
การประกาศงบ 1Q61 โค้งสุดท้าย บริษัทที่รายงานผลประกอบการดีกว่าคาด ได้แก่ TRUE ขาดทุนปกติน้อยกว่าคาดมาก เพราะรายได้ธุรกิจมือถือขยายตัวต่อเนื่อง และควบคุมค่าใช้จ่ายดีขึ้น และ CK กำไรดีกว่าคาดถึง 14% จากการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น ทำให้ราคาหุ้นน่าจะทรงตัวได้ดีกว่า SET INDEX โดยรวมวันนี้
ทีม Quant ของ Yuanta คำนวณหุ้นเข้า-ออก ดัชนี SET50-SET100 รอบเดือน ก.ค.-ธ.ค.2561 เบื้องต้น (ใช้ข้อมูลถึงวันที่ 14 พ.ค.) หุ้นที่คาดว่าจะถูกเข้าคำนวณใน SET50 (GULF/ KTC/ BGRIM) และหุ้นที่คาดว่าจะเข้า SET100 (TTW) ทั้งนี้ เกณฑ์ของ ตลท. จะใช้ข้อมูลการซื้อขายจนถึงสิ้นเดือนนี้ และประกาศรายชื่อหุ้นเข้า-ออกอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือน มิ.ย.
กลยุทธ์ยังคงเป็น "ขึ้นแรงขาย และลงแรงซื้อ" เน้นเก็งกำไรรอบสั้นบนประเด็นบวกเฉพาะตัว ได้แก่ (1) หุ้นที่ได้รับคัดเลือกเข้าดัชนี MSCI รอบเดือน พ.ค.2561 (LH) (2) หุ้นที่มีโอกาสเข้าดัชนี SET50-SET100 รอบเดือน ก.ค.-ธ.ค.2561 (GULF/ KTC/ BGRIM/ TTW) และ (3) หุ้นที่รายงานผลการดำเนินงาน 1Q61 ดีกว่าตลาดคาด (TRUE)
HOT Topic
1. TRUE รายงานงบ 1Q61 ออกมาดีกว่าคาด และ Market Share ทิ้งห่าง DTAC เพิ่มขึ้นเป็น 2.9%
2. Bond Yield 10 ปี ของสหรัฐฯ ทำระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี เราควรรับมืออย่างไร?
3. ติดตามการประชุม กนง. คาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5% แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่มุมมองต่อการเลื่อนใช้ IFRS9
4. สรุปภาพรวมงบ 1Q61 หลังเสร็จสิ้นการรายงาน กลุ่มไหนเด่น กลุ่มไหนด้อย?
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX แกว่งตัวอยู่ในแดนลบตลอดวัน โดยทำจุดต่ำสุดระหว่างวันที่บริเวณ 1759 จุด ก่อนมีแรงซื้อกลับขึ้นมาปิดที่ 1766.86 จุด ลดลง 6.24 จุด (-0.35%) โดยหลักได้รับผลกระทบจากหุ้นขนาดใหญ่นำโดย PTT (-0.88%), CPALL (-1.45%), AOT (-0.7%), ADVANC (-1.26%) และ IVL (-2.41%) กระทบดัชนีราว -5.34 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 6 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อีกราว 1.3 พันล้านบาท รวม 2 วันขายสุทธิกว่า 1.6 พันล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 เพียง 288 ล้านบาท รวม 4 วันทำการซื้อสุทธิสะสมราว 4.1 พันล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 1.3 พันสัญญา เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Short สุทธิเป็นวันที่ 2 ราว 2.5 พันสัญญา รวม 2 วันมีสถานะ Short สุทธิสะสมราว 4.7 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิสะสมราว 2.8 หมื่นสัญญา ขณะที่สถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Short สุทธิสะสมราว 5.4 พันสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 อีกราว 9.4 พันล้านบาท รวม 2 วันซื้อสุทธิทั้งสิ้น 1.1 หมื่นล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เผยกำลังศึกษาแนวทางการลงโทษบริษัท ZTE ที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ
เกาหลีเหนือยกเลิกการประชุมผู้นำกับเกาหลีใต้ที่จะจัดขึ้นในวันนี้ เนื่องจากเกาหลีใต้ยังคงซ้อมรบกับสหรัฐฯบนคาบสมุทรเกาหลี
เลขาธิการ UN เตรียมเข้าพบประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อหารือเกี่ยวกับคาบสมุทรเกาหลี, ซีเรีย, อิหร่าน และการปฏิรูปสหประชาชาติ
EU รายงาน GDP 1Q61 ขยายตัว 2.5%YoY เท่ากับคาดการณ์ของตลาด
ญี่ปุ่นรายงาน GDP 1Q61 หดตัว 0.6%YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะหดตัว 0.1%YoY และเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 9 ไตรมาส
ครม. มีมติอนุมัติโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวลในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ วงเงินลงทุน 1.56 พันล้านบาท อายุโครงการ 20 ปี
ติตดามการประชุม กนง. และการรายงานเงินเฟ้อเดือน เม.ย. ของยูโรโซน ในวันนี้
ติดตามการเจรจา NAFTA คาดว่าจะทราบผลสรุปภายในวันที่ 17 พ.ค.
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อเดือน เม.ย. ของญี่ปุ่น ตลาดคาดขยายตัว 0.7% YoY ในวันที่ 18 พ.ค.
ติดตามผลการเจรจาข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ระหว่างวันที่ 16-20 พ.ค.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO8828
