- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 15 May 2018 18:22
- Hits: 3417
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selections >> BEAUTY, KTC, SIRI
Stock S R Comment
BEAUTY 19.80 23.00 ลุยขาย Online ที่จีน เสริมทัพยอดขายแกร่ง
KTC 372.00 386.00 อนุมัติเปลี่ยน Par เหลือ 1 บาท
SIRI 1.66 1.72 รอ 2Q61 โอนคอนโดใหม่ กว่า 3.0 พันล้านบาท
MSCI Play
MSCI : MSCI ประกาศการเปลี่ยนแปลงรายชื่อหลักทรัพย์ที่ใช้ในการคำนวณดัชนีรอบใหม่มีผลดังนี้
1) หุ้นที่ถูกนำเข้าสู่ Global Standard Index ได้แก่ LH
2) หุ้นที่ถูกถอดออกจาก Global Standard Index ได้แก่ KCE, SCC-F
3) หุ้นที่ถูกนำเข้าสู่ Small Cap Index ได้แก่ DDD, KCE, MONO, PRM, THG, TPIPL
4) หุ้นที่ถูกถอดออกจาก Small Cap Index ได้แก่ BIG, EASTW, FSMART, GL, KTC, LHFG, MALEE, SAMART, TSE
Back-testing : จากการศึกษาของเรานับตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา พบว่าในส่วนของดัชนี Global Standard Index หุ้นที่ถูกนำเข้ามักปรับตัว Outperform ตลาดราว 10% นับตั้งแต่วันประกาศผลไปจนถึงวันบังคับใช้จริง ซึ่งรอบนี้ตรงกับช่วงสิ้นวันของวันที่ 31 พฤษภาคม อย่างไรก็ดี หากนับตั้งแต่ปี 2016 จะพบว่าระดับการ Outperform และระยะเวลาของการ Outperform จะลดลงเหลือเพียง 5% และ 1 สัปดาห์หลังจากประกาศผลแล้วเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ สำหรับนักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรตามธีมนี้ แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" LH หากวันนี้ราคาเปิดไม่กระโดดเกิน 5% ในทางกลับกัน หุ้นที่ถูกถอดออกจาก Global Standard Index มักปรับตัว Underperform ตลาดอย่างชัดเจนราว 10% นับตั้งแต่วันประกาศผลไปจนถึงวันบังคับใช้จริง ด้วยเหตุนี้แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนใน KCE และ SCC-F ณ ช่วงเวลานี้
ในส่วนของดัชนี Small Cap Index จากการศึกษาของเรานับตั้งแต่ปี 2008 พบว่า หุ้นที่ถูกนำเข้ามักปรับตัว Outperform ตลาดราว 5% นับตั้งแต่วันประกาศผลไปจนถึงวันบังคับใช้จริง แต่หากนับเพียง 3 รอบหลังสุด จะพบว่าระดับการ Outperform โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 11% ด้วยเหตุนี้ แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" DDD, MONO, PRM, THG, TPIPL หากวันนี้ราคาเปิดไม่กระโดดเกิน 5-10% (ตัด KCE ออกเพราะถูกถอดออกจาก Standard Index มาเข้ากลุ่มนี้แทน) มองในกลุ่มนี้ หุ้น TPIPL และ THG จะได้อานิสงส์จากเม็ดเงินไหลเข้ามากสุด เนื่องจากมีขนาด Market cap มากกว่าโดยเปรียบเทียบ
ในทางกลับกัน หุ้นที่ถูกถอดออกจาก Small Cap Index มักปรับตัว Underperform ตลาดราว 3-4% นับตั้งแต่วันประกาศผลไปจนถึงวันบังคับใช้จริง ด้วยเหตุนี้แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนใน BIG, EASTW, FSMART, GL, KTC, LHFG, MALEE, SAMART, TSE ณ ช่วงเวลานี้ มองในกลุ่มนี้ หุ้น KTC และ LHFG มีโอกาสได้รับผลกระทบจากเม็ดเงินไหลออกมากสุด เนื่องจากมีขนาด Market cap มากกว่าโดยเปรียบเทียบ โดยเฉพาะ KTC ที่นักลงทุนอาจผิดหวังจากการที่ไม่ได้ถูกนำเข้าสู่ดัชนี Global Standard Index ในรอบนี้
กลยุทธ์การลงทุน : แนะนำถือหุ้นเพื่อ Let profit run ต่อไป หลังจากเข้าสะสมไปที่บริเวณดัชนี 1750-1760 จุด โดยกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจในความเห็นของเรายังคงได้แก่
1) กลุ่ม Cyclical ที่ราคาอ่อนตัวลงมาตามคาดจนอยู่ในระดับที่น่าสนใจแล้ว ได้แก่ PTT, PTTGC, BANPU, IVL
2) กลุ่มโรงแรมที่ได้ประโยชน์จากการขยายตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการขยายตัวของการท่องเที่ยวเมืองรอง ได้แก่ MINT, ERW
3) กลุ่มนิคมฯและ Logistics properties ที่ได้ประโยชน์จากการขอรับการส่งเสริมการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ AMATA
4) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่มี Dividend yield อยู่ในระดับสูง ได้แก่ QH, AP
5) กลุ่มสื่อสารที่มี Regulatory risk ที่ลดลง ประกอบกับความน่าจะเป็นที่จะได้รับมาตรการเยียวยาจากภาครัฐมีสูงขึ้น ได้แก่ ADVANC, TRUE
6) สำหรับนักลงทุนระยะสั้นประเภทเก็งกำไร แนะนำกลุ่มหุ้นที่มีโอกาสถูกนำเข้าสู่ดัชนี SET50 ในรอบถัดไป และราคายังปรับตัวขึ้นมาไม่มาก ได้แก่ RATCH, BGRIM, ESSO
แนวรับ 1,764 แนวต้าน 1,780
Today's Event :
AEONTS XD 2.25 บาท
ROJNA XD 0.20 บาท
CPNCG XD 0.244 บาท
SIRIP XD 0.156 บาท
CRYSTAL XD 0.1828 บาท
TRITN XW 5:1
GIFT XD 0.2059 บาท
AMA ลูกหุ้นเข้า 86,316,773 หุ้น
IVL XD 0.55 บาท
SMART ลูกหุ้นเข้า 240 หุ้น
POPF XD 0.2352 บาท
TASCO ลูกหุ้นเข้า 500,000 หุ้น
PPF XD 0.1718 บาท
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
นักวิเคราะห์ :
OO8783