- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 09 May 2018 17:37
- Hits: 1760
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ราคาน้ำมันผันผวนก่อนทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 3 ปี
ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน (ข้อตกลงผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรเมื่อปี 2558) ซึ่งเป็นไปตามคาด ขณะที่ค่าเงินเหรียญและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับขึ้น สะท้อนตัวเลขเศรษฐกิจ และมุมมองของนักลงทุนที่แข็งกร้าวมากขึ้นต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ย ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรมีเร่งตัวขึ้นทดสอบ 3% และอาจเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันการลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่
ภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวนตามราคาน้ำมันดิบ ที่ปรับลดลงก่อนปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 3 ปี ซึ่งแม้อาจส่งผลบวกต่อกลุ่มโภคภัณฑ์ แต่แรงกดดันจากเงินไหลออกเพราะการ Unwind US Carry Trade, การชะลอตัวของผลการดำเนินงานบจ. เป็นปัจจัยกดดันการขายทำกำไรในช่วงพ.ค. (Sell in May) ทั้งนี้เราแนะใช้กลยุทธ์การลงทุนเชิงรับโดยมองหุ้นกลุ่มที่ราคายัง Laggard และมีปัจจัยผลักดันราคาจะเป็นตัวเลือกที่ดีในช่วงที่ตลาดแกว่งตัวผันผวน อาทิ หุ้นธนาคารที่อาจเลื่อนการใช้ IFRS9 กลยุทธ์เน้นตัวที่ลงมาก TMB, KBANK, SCB / กลุ่มนิคมฯ AMATA WHA / กลุ่มโรงแรม-ท่องเที่ยว CPN, CENTEL / กลุ่มส่งออก คาดเกิด technical rebound ในหุ้นอิเล็กทรอนิกส์-อาหาร KCE*, HANA*, DELTA*, TU (คาดหวังการฟื้นตัว 5-8% โดยควรกำหนดจุดตัดขาดทุน 2-3%)
Investment Theme แม้โภคภัณฑ์มีโอกาสฟื้น แต่ธนาคารมี risk-reward ที่น่าสนใจ ขณะที่ส่งออกคาดเกิด technical rebound // กลุ่มพลังงาน top pick 3 อันดับ 1) IVL 2) IRPC 3) PTTGC 4) BANPU // กลุ่มธนาคาร ชอบได้แก่ BBL, KTB, SCB // หุ้นกลุ่มไฟฟ้า BCPG, BGRIM, GULF*, EA // MSCI รอบใหม่ 14 พ.ค. (มีผล 31 พ.ค.) KTC, GULF, BEAUTY
ภาพรวมกลยุทธ์: ช่วงสั้นมีแนวรับ 1750 การหลุด 1766 อาจสร้างโมเมนตัม เชิงลบต่อการอ่อนตัวลงแถว 1720-1730 ได้ การเก็งกำไรควรเพิ่มความระมัดระวังและกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง รวมถึงตั้งจุดขายล็อคกำไร (trailing stop) ในหุ้นที่ถือครอง // หุ้นแนะนำวันนี้ KBANK, TMB / เก็งกำไร SNC (เป้า 20.00 ตัดขาดทุน 15.40)
แนวรับ 1753 / แนวต้าน : 1770 จุด สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%
ราคาน้ำมันผันผวนก่อนทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 3 ปี
ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน (ข้อตกลงผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรเมื่อปี 2558) ซึ่งเป็นไปตามคาด ขณะที่ค่าเงินเหรียญและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับขึ้น สะท้อนตัวเลขเศรษฐกิจ และมุมมองของนักลงทุนที่แข็งกร้าวมากขึ้นต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ย ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรมีเร่งตัวขึ้นทดสอบ 3% และอาจเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันการลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่
ภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวนตามราคาน้ำมันดิบ ที่ปรับลดลงก่อนปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 3 ปี ซึ่งแม้อาจส่งผลบวกต่อกลุ่มโภคภัณฑ์ แต่แรงกดดันจากเงินไหลออกเพราะการ Unwind US Carry Trade, การชะลอตัวของผลการดำเนินงานบจ. เป็นปัจจัยกดดันการขายทำกำไรในช่วงพ.ค. (Sell in May) ทั้งนี้เราแนะใช้กลยุทธ์การลงทุนเชิงรับโดยมองหุ้นกลุ่มที่ราคายัง Laggard และมีปัจจัยผลักดันราคาจะเป็นตัวเลือกที่ดีในช่วงที่ตลาดแกว่งตัวผันผวน อาทิ หุ้นธนาคารที่อาจเลื่อนการใช้ IFRS9 กลยุทธ์เน้นตัวที่ลงมาก TMB, KBANK, SCB / กลุ่มนิคมฯ AMATA WHA / กลุ่มโรงแรม-ท่องเที่ยว CPN, CENTEL / กลุ่มส่งออก คาดเกิด technical rebound ในหุ้นอิเล็กทรอนิกส์-อาหาร KCE*, HANA*, DELTA*, TU (คาดหวังการฟื้นตัว 5-8% โดยควรกำหนดจุดตัดขาดทุน 2-3%)
Investment Theme แม้โภคภัณฑ์มีโอกาสฟื้น แต่ธนาคารมี risk-reward ที่น่าสนใจ ขณะที่ส่งออกคาดเกิด technical rebound // กลุ่มพลังงาน top pick 3 อันดับ 1) IVL 2) IRPC 3) PTTGC 4) BANPU // กลุ่มธนาคาร ชอบได้แก่ BBL, KTB, SCB // หุ้นกลุ่มไฟฟ้า BCPG, BGRIM, GULF*, EA // MSCI รอบใหม่ 14 พ.ค. (มีผล 31 พ.ค.) KTC, GULF, BEAUTY
ภาพรวมกลยุทธ์: ช่วงสั้นมีแนวรับ 1750 การหลุด 1766 อาจสร้างโมเมนตัม เชิงลบต่อการอ่อนตัวลงแถว 1720-1730 ได้ การเก็งกำไรควรเพิ่มความระมัดระวังและกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง รวมถึงตั้งจุดขายล็อคกำไร (trailing stop) ในหุ้นที่ถือครอง // หุ้นแนะนำวันนี้ KBANK, TMB / เก็งกำไร SNC (เป้า 20.00 ตัดขาดทุน 15.40)
แนวรับ 1753 / แนวต้าน : 1770 จุด สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%
ประเด็นการลงทุน
ทรัมป์ประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านตามคาด – ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลงระงับโครงการนิวเคลียร์กับประเทศอิหร่าน พร้อมระบุว่ามีแผนที่จะยกระดับการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิหร่านเป็นระดับสูงสุด
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯมีโอกาสปรับขึ้นสู่ระดับ 4% – ค่าเงินเหรียญและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นต่อหลัง JPMorgan Chase & Co. Chief Executive Officer Jamie Dimon ออกมาเตือนว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรมีแนวโน้มขึ้นทดสอบ 4% ในเร็วๆนี้
ให้รมว.คลังชี้ขาดบัญชีใหม่ - นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้มอบให้นาย อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เป็นผู้พิจารณาข้อเสนอคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) ที่จะขอให้เลื่อนการบังคับใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับใหม่ หรือ IFRS9 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2562 ออกไปเป็นปี 2565 เนื่องจากเกรงจะมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
'นอนแบงก์'อ่วมกฎคุมหนี้บุคคล - เผยเกณฑ์คุมสินเชื่อส่วนบุคคล-บัตรเครดิต กระทบยอดลูกค้าใหม่ "เคทีซี" ชี้เริ่มส่งผลต่อธุรกิจ แจงลูกค้าใหม่ต่อเดือนเพิ่มเฉลี่ยแค่ 1 หมื่นราย จากเป้าเดิม 1.2-1.5 หมื่นราย ขณะลูกค้าบางส่วนมีบัญชีเกินกำหนด ส่งผลต้องปฏิเสธสินเชื่อ ด้าน "เฟิร์สช้อยส์" ปรับเป้าสมาชิกใหม่ลดลง 5-10%
ปรับเป้าส่งออกโต8% - ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า สรท.ได้ปรับคาดการณ์ตัวเลขส่งออกปี 2561 เติบโตที่ระดับ 8% เพิ่มจากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะเติบโต 6%
ประเด็นติดตาม: 10 พ.ค. – เงินเฟ้อสหรัฐฯ / 16 พ.ค. – ประชุมกนง. / 14 พ.ค. – MSCI Review / 23 พ.ค. – ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาพ.ร.บ.คัดเลือก ส.ส. ส.ว.
ทรัมป์ประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านตามคาด – ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลงระงับโครงการนิวเคลียร์กับประเทศอิหร่าน พร้อมระบุว่ามีแผนที่จะยกระดับการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิหร่านเป็นระดับสูงสุด
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯมีโอกาสปรับขึ้นสู่ระดับ 4% – ค่าเงินเหรียญและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นต่อหลัง JPMorgan Chase & Co. Chief Executive Officer Jamie Dimon ออกมาเตือนว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรมีแนวโน้มขึ้นทดสอบ 4% ในเร็วๆนี้
ให้รมว.คลังชี้ขาดบัญชีใหม่ - นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้มอบให้นาย อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เป็นผู้พิจารณาข้อเสนอคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) ที่จะขอให้เลื่อนการบังคับใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับใหม่ หรือ IFRS9 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2562 ออกไปเป็นปี 2565 เนื่องจากเกรงจะมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
'นอนแบงก์'อ่วมกฎคุมหนี้บุคคล - เผยเกณฑ์คุมสินเชื่อส่วนบุคคล-บัตรเครดิต กระทบยอดลูกค้าใหม่ "เคทีซี" ชี้เริ่มส่งผลต่อธุรกิจ แจงลูกค้าใหม่ต่อเดือนเพิ่มเฉลี่ยแค่ 1 หมื่นราย จากเป้าเดิม 1.2-1.5 หมื่นราย ขณะลูกค้าบางส่วนมีบัญชีเกินกำหนด ส่งผลต้องปฏิเสธสินเชื่อ ด้าน "เฟิร์สช้อยส์" ปรับเป้าสมาชิกใหม่ลดลง 5-10%
ปรับเป้าส่งออกโต8% - ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า สรท.ได้ปรับคาดการณ์ตัวเลขส่งออกปี 2561 เติบโตที่ระดับ 8% เพิ่มจากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะเติบโต 6%
ประเด็นติดตาม: 10 พ.ค. – เงินเฟ้อสหรัฐฯ / 16 พ.ค. – ประชุมกนง. / 14 พ.ค. – MSCI Review / 23 พ.ค. – ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาพ.ร.บ.คัดเลือก ส.ส. ส.ว.
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)