- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 03 May 2018 18:25
- Hits: 8442
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
ภาพตลาดและแนวโน้ม
เสียงระฆังเลือกตั้งดังแว่วมาแต่ไกล
วันนี้คาดหุ้นไทย Rebound ต่อ จากสัญญาณเลือกตั้งที่จะเริ่มกลับมาหนุนให้ตลาดเทรดคึกคักอีกครั้ง
(เหมือนเมื่อตอนต้นปี) หลังจากเมื่อวานนี้ศาล รธน.นัดวินิจฉัย พรป. สว.-สส. พร้อมกันวันที่ 23 พค.นี้ ถ้าไม่
ขัด รธน. คาดว่าจะประกาศวันเลือกตั้งได้ภายในเดือน มิย.-กค. นี้...
สัปดาห์นี้หุ้นไทยรีบาวด์ ตามคาด หลังจาก ผลประชุมเฟดไม่ได้สร้างความประหลาดใจเชิงลบใหม่ๆให้กับ
ตลาด บวกกับข่าวดีในประเทศ กับ “กลิ่นเลือกตั้ง” ที่คาดว่าจะกลับมาขับเคลื่อนการเทรดหุ้นในช่วงนี้ให้
คึกคัก อีกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อ ศาล รธน.ตีความ พรป.เสร็จในวันที่ 23 พค.นี้
ภาพตลาดและแนวโน้ม
เสียงระฆังเลือกตั้งดังแว่วมาแต่ไกล
วันนี้คาดหุ้นไทย Rebound ต่อ จากสัญญาณเลือกตั้งที่จะเริ่มกลับมาหนุนให้ตลาดเทรดคึกคักอีกครั้ง
(เหมือนเมื่อตอนต้นปี) หลังจากเมื่อวานนี้ศาล รธน.นัดวินิจฉัย พรป. สว.-สส. พร้อมกันวันที่ 23 พค.นี้ ถ้าไม่
ขัด รธน. คาดว่าจะประกาศวันเลือกตั้งได้ภายในเดือน มิย.-กค. นี้...
สัปดาห์นี้หุ้นไทยรีบาวด์ ตามคาด หลังจาก ผลประชุมเฟดไม่ได้สร้างความประหลาดใจเชิงลบใหม่ๆให้กับ
ตลาด บวกกับข่าวดีในประเทศ กับ “กลิ่นเลือกตั้ง” ที่คาดว่าจะกลับมาขับเคลื่อนการเทรดหุ้นในช่วงนี้ให้
คึกคัก อีกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อ ศาล รธน.ตีความ พรป.เสร็จในวันที่ 23 พค.นี้
What to watch
(+) ศาลรัฐธรรมนูญ มีคาสั่งนัดวินิจฉัยร่างกฎหมายลูกเลือกตั้ง ส.ส.-ส.ว. 23 พ.ค. / เมื่อวินิจฉัยเสร็จ และ
ผ่าน...จะสามารถประกาศวันเลือกตั้งได้ ภายในเดือน มิย.-กค. ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง
...กรณีศึกษา หุ้นที่มี Correlation ทางสถิติ ช่วงก่อนเลือกตั้งในอดีต WHA STEC (GULF) LH QH HMPRO
SC BTS BEM CK BBL CPALL BJC TRUE PTT PTTEP AOT ADVANC เป็นต้น
(+) ผลการประชุมเฟดเมื่อวาน คงดอกเบี้ย 1.5-1.75% และส่งสัญญาณยืนยันจะขึ้นดอกเบี้ย 12-13 มิย.นี้
แต่ประเด็นที่น่าสนใจรอบนี้ คือ
(1) เฟดพยายามลดความคาดหวังของตลาดต่อ “ภาวะเงินเฟ้อ” ที่เร่งตัวขึ้น (โดยเงินเฟ้อ PCE ล่าสุด
เดือน มีค.แตะเป้าหมาย 2% แล้ว ส่วน Core PCE 1.9%) ว่าไม่ต้องกังวลต่อการขยับดอกเบี้ยขึ้น
เร็ว ตามเงินเฟ้อที่จะเร่งตัวขึ้นในครึ่งปีหลัง (เพราะ สาเหตุสำคัญที่ทาให้เงินเฟ้อในสหรัฐฯเร่งขึ้น
เกิดจาก ราคาค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้นมาก หลังสิ้นสุดยุค “โอบาม่า แคร์” ทั้งหมดไม่ได้มาจาก
การขยายตัวของเศรษฐกิจ และกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นเร็ว)
(2) ส่งสัญญาณภาวะเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง อาจจะขยายตัวช้ากว่าครึ่งปีแรก (โดย 1Q18 ตัวเลข
เบื้องต้นออกมาที่ 2.3% จาก 4Q17 +2.9%) ซึ่งเราต้องตามดูรายงานเศรษฐกิจจากนี้ไป
โดยเฉพาะรายงาน “เฟด” เดือน มิย. ที่จะเป็นตัวกาหนดว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีกกี่ครั้งในปีนี้...
ตอนนี้เสียงส่วนใหญ่ของนักเศรษฐศาสตร์ ยังก้ากึ่งระหว่าง 3 ครั้ง กับ 4 ครั้ง / เราคาดว่าหาก
เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอลงด้วย ผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้า จะมีผลต่อการขยายตัว
เศรษฐกิจให้ต่าคาด และเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้รวมกัน แค่ 3 ครั้ง)
(+/-) รู้พร้อมกันวันที่ 15 พค.นี้ (ผลออก 14 พค. กลางคืน) กับการเปลี่ยนแปลงหุ้นเข้าออก และ น้ำหนักใน
ดัชนีฯ MSCI Thailand
(*) จับตาการชุมนุมต่างๆ ที่อาจสร้างความผันผวนให้ตลาดหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน (5 พค.นี้ ชุมนุมคน
อยากเลือกตั้ง, 6 พค. เส้นตายประกาศยกระดับการชุมนุมที่เชียงใหม่ทวงผืนป่าพื้นที่ดอยสุเทพ)
(+) ศาลรัฐธรรมนูญ มีคาสั่งนัดวินิจฉัยร่างกฎหมายลูกเลือกตั้ง ส.ส.-ส.ว. 23 พ.ค. / เมื่อวินิจฉัยเสร็จ และ
ผ่าน...จะสามารถประกาศวันเลือกตั้งได้ ภายในเดือน มิย.-กค. ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง
...กรณีศึกษา หุ้นที่มี Correlation ทางสถิติ ช่วงก่อนเลือกตั้งในอดีต WHA STEC (GULF) LH QH HMPRO
SC BTS BEM CK BBL CPALL BJC TRUE PTT PTTEP AOT ADVANC เป็นต้น
(+) ผลการประชุมเฟดเมื่อวาน คงดอกเบี้ย 1.5-1.75% และส่งสัญญาณยืนยันจะขึ้นดอกเบี้ย 12-13 มิย.นี้
แต่ประเด็นที่น่าสนใจรอบนี้ คือ
(1) เฟดพยายามลดความคาดหวังของตลาดต่อ “ภาวะเงินเฟ้อ” ที่เร่งตัวขึ้น (โดยเงินเฟ้อ PCE ล่าสุด
เดือน มีค.แตะเป้าหมาย 2% แล้ว ส่วน Core PCE 1.9%) ว่าไม่ต้องกังวลต่อการขยับดอกเบี้ยขึ้น
เร็ว ตามเงินเฟ้อที่จะเร่งตัวขึ้นในครึ่งปีหลัง (เพราะ สาเหตุสำคัญที่ทาให้เงินเฟ้อในสหรัฐฯเร่งขึ้น
เกิดจาก ราคาค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้นมาก หลังสิ้นสุดยุค “โอบาม่า แคร์” ทั้งหมดไม่ได้มาจาก
การขยายตัวของเศรษฐกิจ และกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นเร็ว)
(2) ส่งสัญญาณภาวะเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง อาจจะขยายตัวช้ากว่าครึ่งปีแรก (โดย 1Q18 ตัวเลข
เบื้องต้นออกมาที่ 2.3% จาก 4Q17 +2.9%) ซึ่งเราต้องตามดูรายงานเศรษฐกิจจากนี้ไป
โดยเฉพาะรายงาน “เฟด” เดือน มิย. ที่จะเป็นตัวกาหนดว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีกกี่ครั้งในปีนี้...
ตอนนี้เสียงส่วนใหญ่ของนักเศรษฐศาสตร์ ยังก้ากึ่งระหว่าง 3 ครั้ง กับ 4 ครั้ง / เราคาดว่าหาก
เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอลงด้วย ผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้า จะมีผลต่อการขยายตัว
เศรษฐกิจให้ต่าคาด และเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้รวมกัน แค่ 3 ครั้ง)
(+/-) รู้พร้อมกันวันที่ 15 พค.นี้ (ผลออก 14 พค. กลางคืน) กับการเปลี่ยนแปลงหุ้นเข้าออก และ น้ำหนักใน
ดัชนีฯ MSCI Thailand
(*) จับตาการชุมนุมต่างๆ ที่อาจสร้างความผันผวนให้ตลาดหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน (5 พค.นี้ ชุมนุมคน
อยากเลือกตั้ง, 6 พค. เส้นตายประกาศยกระดับการชุมนุมที่เชียงใหม่ทวงผืนป่าพื้นที่ดอยสุเทพ)
หุ้นแนะนำวันนี้
CK ราคาหุ้น Laggard บรรดาหุ้นในเครืออย่าง BEM CKP TTW (แค่หุ้น 3 ตัวนี้ ในพอร์ตของ CK รวมมูลค่า
NAV กันก็สูงกว่าราคาหุ้น CK บนกระดานแล้ว) ส่วนข่าวหนุนราคาหุ้น คาดจะมาจากงานสร้างทางด่วน
พระราม 3 ดาวคะนอง มูลค่าราว 3 หมื่นล้านบาท ที่ TOR เสร็จแล้ว รอประมูลเดือน มิย.-กค. พร้อมสร้าง
ทันที ไตรมาส 4 นี้ (รับรู้กาไรเร็ว)
IVL สหรัฐฯประกาศ จะเก็บภาษี AD ผลิตภัณฑ์ PET คาดส่งผลให้ Supply PET ตึงตัวในสหรัฐฯ และเป็น
บวก ต่อ IVL เพราะ มาร์จิ้นจะเพิ่มขึ้น โดยเราคาดทุกๆ 10% ในมาร์จิ้น PET ที่เพิ่มขึ้นจากส่งผลบวกต่อกาไร
ปี 19 ราว 4%
เราปรับหุ้นใน Weekly Port. ถอด ECL M เพิ่ม CK WHA BJC
รายงานวันนี้
Residential Property: Switch on; four themes call
เราปรับน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มเพิ่มเป็น OVERWEIGHT (เดิม neutral) เรามองว่าเป็นโอกาสที่ดีในการเข้า
เก็บหุ้น เพราะยอด pre-sales และกำไร คาดจะฟื้นตัวกลับในช่วง 2Q-3Q18 ตามลาดับ ในขณะที่ valuation
ของกลุ่มต่ำในระดับที่น่าสนใจ ปัจจุบันเทรด PE เพียง 8.4 เท่า เท่านั้น เราแนะนำหุ้นโดยมี 4 ประเด็นหลัก
1) SPALI จากกำไรที่แน่นอน และมี backlog ในปริมาณสูง 2) GOLD จากกำไรปีนี้ที่เราคาดเติบโตถึง 60%
สูงที่สุดในกลุ่ม 3) QH จากอัตรากำไรที่ฟื้นตัวดีที่สุด และ 4) LPN และ SC จากกำไรที่จะกลับมาเติบโตอีก
ครั้งในปีนี้
CK ราคาหุ้น Laggard บรรดาหุ้นในเครืออย่าง BEM CKP TTW (แค่หุ้น 3 ตัวนี้ ในพอร์ตของ CK รวมมูลค่า
NAV กันก็สูงกว่าราคาหุ้น CK บนกระดานแล้ว) ส่วนข่าวหนุนราคาหุ้น คาดจะมาจากงานสร้างทางด่วน
พระราม 3 ดาวคะนอง มูลค่าราว 3 หมื่นล้านบาท ที่ TOR เสร็จแล้ว รอประมูลเดือน มิย.-กค. พร้อมสร้าง
ทันที ไตรมาส 4 นี้ (รับรู้กาไรเร็ว)
IVL สหรัฐฯประกาศ จะเก็บภาษี AD ผลิตภัณฑ์ PET คาดส่งผลให้ Supply PET ตึงตัวในสหรัฐฯ และเป็น
บวก ต่อ IVL เพราะ มาร์จิ้นจะเพิ่มขึ้น โดยเราคาดทุกๆ 10% ในมาร์จิ้น PET ที่เพิ่มขึ้นจากส่งผลบวกต่อกาไร
ปี 19 ราว 4%
เราปรับหุ้นใน Weekly Port. ถอด ECL M เพิ่ม CK WHA BJC
รายงานวันนี้
Residential Property: Switch on; four themes call
เราปรับน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มเพิ่มเป็น OVERWEIGHT (เดิม neutral) เรามองว่าเป็นโอกาสที่ดีในการเข้า
เก็บหุ้น เพราะยอด pre-sales และกำไร คาดจะฟื้นตัวกลับในช่วง 2Q-3Q18 ตามลาดับ ในขณะที่ valuation
ของกลุ่มต่ำในระดับที่น่าสนใจ ปัจจุบันเทรด PE เพียง 8.4 เท่า เท่านั้น เราแนะนำหุ้นโดยมี 4 ประเด็นหลัก
1) SPALI จากกำไรที่แน่นอน และมี backlog ในปริมาณสูง 2) GOLD จากกำไรปีนี้ที่เราคาดเติบโตถึง 60%
สูงที่สุดในกลุ่ม 3) QH จากอัตรากำไรที่ฟื้นตัวดีที่สุด และ 4) LPN และ SC จากกำไรที่จะกลับมาเติบโตอีก
ครั้งในปีนี้
Media: PLANB and VGI to hold the Power Stone in 1Q18
เราคาดกำไรของบริษัทในกลุ่มสื่อที่จะเติบโตโดดเด่นใน 1Q18 นาโดยกลุ่มสื่อนอกบ้านอย่าง VGI และ
PLANB ที่คาดจะรายงานกำไรเติบโตแข็งแกร่งทั้ง YoY และ QoQ สำหรับกลุ่มดิจิตอลทีวีคาด MONO และ
WORK จะรายงานกำไรเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ แม้ว่าจะได้รับผลกระทบของบุพเพสันนิวาสไปบ้าง
สำหรับบริษัทอื่นๆ เราคาด RS และ MCOT รายงานกำไรเติบโต YoY แต่ลดลง QoQ และคาด BEC,
GRAMMY และ MAJOR รายงานกำไรลดลง YoY แต่เติบโตได้ QoQ มุมมอง 2Q18 เราคาดกลุ่ม OOH จะดี
ต่อเนื่อง และกลุ่มดิจิตอลทีวีจะกลับมาเติบโตโดดเด่นได้ทั้ง YoY และ QoQ ตามฤดูกาลใช้จ่ายเม็ดเงิน
โฆษณาที่สูงขึ้น เรายังชอบ RS, MONO และ PLANB ที่สุดในกลุ่ม
เราคาดกำไรของบริษัทในกลุ่มสื่อที่จะเติบโตโดดเด่นใน 1Q18 นาโดยกลุ่มสื่อนอกบ้านอย่าง VGI และ
PLANB ที่คาดจะรายงานกำไรเติบโตแข็งแกร่งทั้ง YoY และ QoQ สำหรับกลุ่มดิจิตอลทีวีคาด MONO และ
WORK จะรายงานกำไรเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ แม้ว่าจะได้รับผลกระทบของบุพเพสันนิวาสไปบ้าง
สำหรับบริษัทอื่นๆ เราคาด RS และ MCOT รายงานกำไรเติบโต YoY แต่ลดลง QoQ และคาด BEC,
GRAMMY และ MAJOR รายงานกำไรลดลง YoY แต่เติบโตได้ QoQ มุมมอง 2Q18 เราคาดกลุ่ม OOH จะดี
ต่อเนื่อง และกลุ่มดิจิตอลทีวีจะกลับมาเติบโตโดดเด่นได้ทั้ง YoY และ QoQ ตามฤดูกาลใช้จ่ายเม็ดเงิน
โฆษณาที่สูงขึ้น เรายังชอบ RS, MONO และ PLANB ที่สุดในกลุ่ม
HMPRO: Profitability driven
การเติบโตของยอดขายสาขาเดิมอยู่ที่ 3% ใน 1Q18 ซึ่งหลักๆมาจากการเติบโตในกรุงเทพฯ แม้ว่าใน 2Q18
จะได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกผิดปกติในเดือน เม.ย. แต่เราเชื่อว่าเทรนด์จะกลับมาในอีก 2 เดือนที่เหลือ
ภาพรวมเรายังชอบ HMPRO สำหรับการถือลงทุนในระยะยาว จากการเติบโตที่ยั่งยืนและการใช้กลยุทธ์ที่มี
ประสิทธิภาพ แม้ว่าในระยะสั้นกำลังซื้อในประเทศจะยังคงเป็นปัจจัยกดดัน แต่เราคาด HMPRO จะยังคง
รายงานกำไรเติบโตแข็งแกร่ง จากอัตราการทำกำไรทีดีขึ้น เช่น สัดส่วน House brand ที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็
ตามราคาหุ้นเทรดอยู่ในระดับ PER 33.7 เท่า ใกล้เคียงกับราคาเป้าหมายเรา เรายังคงคาแนะนำ ถือ
การเติบโตของยอดขายสาขาเดิมอยู่ที่ 3% ใน 1Q18 ซึ่งหลักๆมาจากการเติบโตในกรุงเทพฯ แม้ว่าใน 2Q18
จะได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกผิดปกติในเดือน เม.ย. แต่เราเชื่อว่าเทรนด์จะกลับมาในอีก 2 เดือนที่เหลือ
ภาพรวมเรายังชอบ HMPRO สำหรับการถือลงทุนในระยะยาว จากการเติบโตที่ยั่งยืนและการใช้กลยุทธ์ที่มี
ประสิทธิภาพ แม้ว่าในระยะสั้นกำลังซื้อในประเทศจะยังคงเป็นปัจจัยกดดัน แต่เราคาด HMPRO จะยังคง
รายงานกำไรเติบโตแข็งแกร่ง จากอัตราการทำกำไรทีดีขึ้น เช่น สัดส่วน House brand ที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็
ตามราคาหุ้นเทรดอยู่ในระดับ PER 33.7 เท่า ใกล้เคียงกับราคาเป้าหมายเรา เรายังคงคาแนะนำ ถือ
Commodity & Infrastructure: Selective BUYs before results season
เราคาดกลุ่ม พลังงาน และ สาธารณูปโภค จะรายงานกำไรใน 1Q18 ที่แข็งแกร่ง โดย EGCO และ BTS คาด
จะมีกำไรโดดเด่นที่สุดจาก ในขณะที่ BANPU และ GGC คาดกำไรจะอ่อนแอที่สุด สาหรับ 2Q18 เราคาดหุ้น
ใน cluster จะรายงานกำไรเติบโต YoY ได้ทุกกลุ่มย่อย ดูรายละเอียดในตารางคาดการณ์กำไร
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
(+) PTT กบง. มติคงส่วนลด NGV สาหรับรถสาธารนะต่อไปอีก 1 ปี (ที่มา energy news center) /เรา
มองเป็นบวกต่อ PTT เรพาะปัจจุบัน PTT รับภาระส่วนต่างทาให้มีผลขาดทุนปีละ 1.0-1.5 พันล้านบาท หาก
PTT ไม่ต้องรับภาระแล้ว เราคาดกำไรของ PTT จะปรับเพิ่มขึ้นราว 1% (full year basis)
(+) GGC BCP กบง. ส่งเสริมการใช้ bio diesel 20 ในเดือน มิ.ย. นี้ (ที่มา energy news center) /เรา
มองเป็นบวกต่อ GGC BCP เพราะจะหนุนความต้องการใช้ B100 เพิ่มขึ้น
เราคาดกลุ่ม พลังงาน และ สาธารณูปโภค จะรายงานกำไรใน 1Q18 ที่แข็งแกร่ง โดย EGCO และ BTS คาด
จะมีกำไรโดดเด่นที่สุดจาก ในขณะที่ BANPU และ GGC คาดกำไรจะอ่อนแอที่สุด สาหรับ 2Q18 เราคาดหุ้น
ใน cluster จะรายงานกำไรเติบโต YoY ได้ทุกกลุ่มย่อย ดูรายละเอียดในตารางคาดการณ์กำไร
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
(+) PTT กบง. มติคงส่วนลด NGV สาหรับรถสาธารนะต่อไปอีก 1 ปี (ที่มา energy news center) /เรา
มองเป็นบวกต่อ PTT เรพาะปัจจุบัน PTT รับภาระส่วนต่างทาให้มีผลขาดทุนปีละ 1.0-1.5 พันล้านบาท หาก
PTT ไม่ต้องรับภาระแล้ว เราคาดกำไรของ PTT จะปรับเพิ่มขึ้นราว 1% (full year basis)
(+) GGC BCP กบง. ส่งเสริมการใช้ bio diesel 20 ในเดือน มิ.ย. นี้ (ที่มา energy news center) /เรา
มองเป็นบวกต่อ GGC BCP เพราะจะหนุนความต้องการใช้ B100 เพิ่มขึ้น
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
OO8304
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
OO8304