- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 03 May 2018 18:24
- Hits: 1183
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
เก็งกำไรรายตัวบนผลการดำเนินงาน 1Q61
Smart Pick
สะสม GULF
ราคาปิด 68.75 บาท
ราคาเหมาะสม 77.20 บาท
คาดว่าราคาหุ้นจะ Outperform ตลาด เนื่องจากมีโอกาสถูกเพิ่มขึ้นสู่ดัชนี MSCI Thailand ซึ่งจะประกาศในช่วงเช้าวันที่ 15 พ.ค.ตามเวลาประเทศไทย และจะมีการปรับน้ำหนักดัชนีในวันที่ 31 พ.ค.
ประเมินกำไรปกติ 1Q61 ที่ 773 ล้านบาท +5% YoY และ +11% QoQ และคงมุมมองเชิงบวกในระยะยาวโดย Equity MW จะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ 2,120MW เป็น 6,352MW ในปี 2567 โดยมี PPA รองรอบรับแล้วทั้งจำนวน
เก็งกำไร ORI
ราคาปิด 18.50 บาท
ราคาเหมาะสม 22.90 บาท
คาดกำไรปกติ 1Q61 ที่ 305 ล้านบาทเติบโต +78% YoY จากการโอนโครงการ Park24 อย่างต่อเนื่อง และจะขึ้น XD เงินปันผลหุ้นละ 0.55 บาท ในวันที่ 8 พ.ค. คิดเป็น Dividend Yield 3.1%
จุดเด่นอยู่ที่ประมาณการรายได้ปี 2561 มี Backlog รอบรับสูงถึง 78% สูงที่สุดในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ผลักดันกำไรปี 2561 ให้เติบโต +78% YoY เป็น 2,695 ล้านบาท ซื้อขายที่ระดับ PER2561 ที่ 11.2 เท่า เทียบเท่า PEG เพียง 0.14 เท่า
เก็งกำไร LANNA
ราคาปิด 15.20 บาท
ราคาเหมาะสม 24.40 บาท
หุ้นกลุ่มถ่านหินมี Sentiment บวก จากการยืนเหนือระดับ US$100.00/ตันของราคาถ่านหิน Newcastle โดยล่าสุดปิดที่ US$101.00/ตัน
คาดกำไรสุทธิ 1Q61 เติบโตสูง YoY และ QoQ เป็น Catalyst ที่รออยู่ และราคาหุ้นลดลง -15.5% YTD เทียบกับ BANPU +5.6% และ SET Energy +11.0% จึงเชื่อว่ามี Downside Risk ที่จำกัด ซื้อขายที่ระดับ PER2561 เพียง 9.2 เท่า และให้ Dividend Yield 5.9%
เก็งกำไร SCC
ราคาปิด 468.00 บาท
ราคาเหมาะสม 550.00 บาท
ทางเทคนิคราคาหุ้นมีโอกาสไต่ระดับขึ้นทดสอบ 480 บาท +/- แนวรับ 464.00 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 460.00 บาท
คาดว่าธุรกิจปูนซีเมนต์ผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้วในปี 2560 ที่ผ่านมา และเริ่มเห็นการปรับราคาปูนขึ้น รวมทั้งความต้องการของภาครัฐที่เติบโต รวมทั้งเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดีปีละ 4%
Pair Trade : n.a
กลยุทธ์วันนี้
วันนี้ คาดว่า SET INDEX ยังมีโมเมนตัมเชิงบวกหนุนให้ปรับตัวขึ้นต่อ เพื่อทดสอบแนว 1795-1800 จุด แต่เรายังเชื่อว่า Upside ระยะสั้นจำกัด และแรงขายทำกำไรจะชัดเจนขึ้น เมื่อ SET INDEX เข้าใกล้แนวต้านสำคัญบริเวณ 1800-1805 จุด ในเชิงกลยุทธ์ การเก็งกำไรรอบสั้นควรมีความระมัดระวังมากขึ้นและอาจหาจังหวะทยอยขายทำกำไรในหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาก ใกล้แนวต้าน 1800-1805 จุด
เรามีมุมมองเป็นกลางต่อผลการประชุมเฟดวานนี้ ซึ่งมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50-1.75% ตามคาด แต่ส่งสัญญาณมีความยืดหยุ่นเกี่ยวกับเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ขณะที่วานนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ทรงตัว 2.96% แต่ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ผ่าน Dollar Index แข็งค่าแตะ 92.75 ทั้งนี้ ตลาดเชื่อมั่นอย่างมากว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 25bps ในการประชุมครั้งถัดไป 12-13 มิ.ย.
หุ้นกลุ่ม Domestic Play อาทิ กลุ่มค้าปลีก, สื่อสาร, สื่อ-สิ่งพิมพ์ ได้รับ Sentiment เชิงบวกจากการายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน เม.ย. ปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับ 80.9 สูงสุดในรอบ 40 เดือน สะท้อนว่า พื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังคงเติบโตได้แข็งแกร่ง เราคาดการณ์ GDP ปีนี้ เติบโต 4.3% YoY เร่งตัวจากปีก่อนที่ +3.9% YoY
ปัจจัยการเมืองภายในประเทศที่ต้องติดตามในเดือนนี้ ได้แก่ (1) การชุมนุมทางการเมือง วันที่ 5 พ.ค. และ (2) ศาลรัฐธรรมนูญ กำหนดวันลงมติร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. พร้อมนัดอภิปราย ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 23 พ.ค.
HOT Topic
1. ศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติร่างกฎหมายสว.ในวันที่ 23 พ.ค. เรามองอย่างไร?
2. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทย เดือน เม.ย. เพิ่มขึ้นเป็น 80.9 จุด ทำระดับสูงสุดรอบ 40 เดือน เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่ม Domestic Play เราให้หุ้นใดเป็น Top pick
3. เฟดคงดอกเบี้ยที่ 1.50-1.75% แต่ส่งสัญญาณเงินเฟ้อเข้าใกล้ระดับ 2.0%
4. MSCI จะประกาศหุ้นเข้า/ออกดัชนีในวันที่ 15 พ.ค.ช่วงเช้าตามเวลาไทย เราชอบหุ้นตัวใดสำหรับการเก็งกำไรรอบนี้
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 สูงถึง 11.02 จุด ปิดที่ 1791.13 จุด ได้ผลบวกจากหุ้นอย่าง PTT (+0.88%) , IVL (+3.73%), PTTEP (+1.87%) , CPALL (+1.15%) และ SCB (+1.91%) กระทบดัชนีราว +5.4 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.6 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 8 อีกราว 1.3 พันล้านบาท รวม 8 วันขายสุทธิสะสมราว 1.5 หมื่นล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ยังซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ราว 1.5 พันล้านบาท รวม 3 วันซื้อสุทธิสะสมทั้งสิ้น 5.8 พันล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการราว 1.6 พันสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Short สุทธิราว 2.4 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิราว 5.8 หมื่นสัญญา ขณะที่สถาบันในประเทศและบัญชีบล. มีสถานะ Short สุทธิราว 8.8 พันสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิราว 4.9 พันล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยเดือน เม.ย. อยู่ที่ระดับ 80.9 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 79.9 และทำระดับสูงสุดในรอบ 40 เดือน
ผู้นำพรรค Five Star Movement ของอิตาลี เสนอแนะให้เลือกตั้งใหม่อีกครั้งในเดือน มิ.ย. หลังจากไม่สามารถเจรจากับพรรคการเมืองอื่นๆ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลได้ แม้จะผ่านพ้นวันเลือกตั้งมากว่า 2 เดือนแล้ว
ดัชนี Caixin PMI ภาคการผลิต เดือน เม.ย. ของจีน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 51.0 เป็น 51.1 ดีกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ 50.9
EU รายงาน GDP 1Q61 ขยายตัว 2.5% YoY เท่ากับที่ตลาดคาด
Fed มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.75% ตามคาดการณ์ของตลาด พร้อมระบุว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังเข้าใกล้เป้าหมายที่ 2% และมีมุมมองต่อภาพรวมเศรษฐกิจยังขยายตัวในระดับปานกลาง
EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 6.2 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่แล้วสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.
ศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีการนัดลงมติร่างพ.ร.บ.ประกอบการเลือกตั้งสว. และพิจารณาร่างพ.ร.บ.เลือกตั้งสส. ในวันที่ 23 พ.ค.
ประธานสนช.จะเตรียมเชิญผู้ถูกคัดเลือกเป็นกกต. มาแสดงวิสัยทัศน์ในวันนี้ ก่อนคัดให้เหลือ 5 คน
ติดตามผลการเจรจาการค้าระหว่างจีนกับทางสหรัฐ ในวันพฤหัสบดีนี้
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อยุโรป ตลาดคาดขยายตัว 1.3% YoY วันนี้
ติดตามการรายงานภาวะตลาดแรงงานสหรัฐฯ วันที่ 4 พ.ค.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO8293