WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DBSบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 

“ติดตามผลประชุมเฟด & กำไร 1Q61”

• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --

  ภาวะตลาดและปัจจัย : ต่างประเทศ –เฟดจะมีการประชุม 1-2 พ.ค.นี้ ซึ่งคาดว่ารอบนี้จะยังคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.75% และถ้าเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณเพิ่มเติม ค่าเงิน US$ ก็มีสิทธิอ่อนลงหลังการประชุม (หลังเริ่มอ่อนเล็กน้อยในวันศุกร์) อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีสหรัฐอ่อนลงเป็น 2.9634% (สูงสุด 3.036% เมื่อ 2 วันทำการก่อน) และค่า VIX ลดลงมาที่ 16.24% (ค่าเฉลี่ย 10 ปีอยู่ที่ 20%) ส่วนความขัดแย้งระหว่างเกาหลีเหนือ & ใต้ก็คลี่คลาย โดยคาดว่าสองประเทศจะเซ็นสนธิสัญญาสันติภาพกันภายในปีนี้ ซึ่งประเด็นนี้สะท้อนในตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ไปบ้างแล้ว

  ในประเทศ – SET Index วันศุกร์ปรับขึ้น 4.82 จุดปิดที่ 1778.02 โดยนลท.ต่างชาตินำขายสุทธิ 2.1 พันลบ. สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 2.2 พันลบ. การปรับประมาณการ GDP growth ของไทยเป็น +4.2% ของสศค.สะท้อนการบริโภค & ลงทุนภาครัฐที่เติบโตดีขึ้น ส่งออกและท่องเที่ยวขยายได้ต่อเนื่องนั้นอยู่ในประมาณการของตลาดอยู่แล้ว ในช่วงนี้ปัจจัยที่มีน้ำหนักอยู่ที่รายงานกำไรบจ.งวด 1Q61 ซึ่งจะทยอยออกมาถึงกลางเดือนพ.ค.

  Update กลุ่มและหุ้น : AEONTS –ปี 60/61 (สิ้นสุดมี.ค.61) มีกำไรสุทธิ 2.97 พันล้านบาท (+24%YoY) ดีกว่าที่เราคาดไว้ 8% เพราะมีกำไรจากการ Write-off ลูกหนี้ 179 ล้านบาทเข้ามาในไตรมาส 4 ด้านแนวโน้มปี 61/62 ไปได้ดี คาดกำไรโตต่อ 10% โดยธุรกิจบัตรเครดิตและธุรกิจใน CLM เป็น Key growth สำหรับ NPL ratio ไม่สูง สิ้นมี.ค.61 อยู่ที่ 2.4% และมี Coverage ratio 136% และ Valuation จูงใจ แนะซื้อ ให้ TP 208 บาท

  BEM – นักวิเคราะห์ในตลาดคาดว่ากำไร 1Q61F จะโต 15-20%YoY มาจากปริมาณการใช้บริการสูงขึ้นและค่าใช้จ่ายสัมปทานลดลงหลังยืดระยะเวลาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเดิม รวมทั้งมีกำไรพิเศษจากขายเงินลงทุนในโรงไฟฟ้าไซยะบุรีให้ CKP แนะซื้อ ให้ TP 8.6 บาท

  การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพเป็นบวกเล็กๆ ซื้อใหม่เน้นค่าบวก แนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 1785-1790, 1800 Stop loss ถ้าหลุด 1770 (SET ปิดที่ 1778.02) โดยมีแนวรับ 1760-1750

  สำหรับการ Scan หุ้นที่มีโอกาสทำ New high ที่เข้ามาใหม่เป็น TRUE, SGP, GPSC, GLOBAL, BEM, JMART, TFG ที่ยังคงอยู่ใน List ได้แก่ BJC, CENTEL, TVO, PSL หุ้นที่หลุด List คือ WHA, TISCO, BDMS, PTG, ERW และที่ให้หาจังหวะ Take profit เป็น JWD, ADVANC, KTC, CPN, HUMAN, AOT

ปัจจัยต่างประเทศ

- อังกฤษ : จีดีพี 1Q61 ขยายตัวในอัตรา 0.1%QoQ ต่ำสุดในรอบ 6 ปี

  # สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษในไตรมาส 1 มีการขยายตัวเพียง 0.1%QoQ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2555 และลดลงจากการขยายตัว 0.4% ในไตรมาส 4/60 โดยมาจากการลดลงของภาคก่อสร้างและภาคการผลิตที่ซบเซา

+ เกาหลีเหนือ & ใต้ : จะทำข้อตกลงสนธิสัญญาสันติภาพภายในปีนี้

  # ผู้นำของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ลงนามในปฏิญญาโดยตกลงต่อการดำเนินการสำหรับการปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์แบบในคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งเป็นการประชุมสุดยอดทั้งสองเกาหลีในรอบกว่า 1 ทศวรรษ โดยปฏิญญาดังกล่าวรวมถึงคำสัญญาที่จะลดอาวุธทางทหาร, ยุติการกระทำที่มุ่งร้าย, เปลี่ยนชายแดนที่มีการคุ้มกันอย่างแข็งแกร่งไปเป็นเขตสันติภาพ และจะทำการเจรจาพหุภาคีกับประเทศอื่นๆ อาทิ สหรัฐ

+ ญี่ปุ่น : BOJ จะเดินหน้าผ่อนคลายการเงินจนกว่าเงินเฟ้อแตะ 2%

  # นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้แถลงข่าวภายหลังการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 27 เม.ย.61 ว่า BOJ จะยังคงดำเนินนโยบายผ่อนคลายการเงินไปจนกว่าเงินเฟ้อจะบรรลุเป้าหมายที่ระดับ 2% อย่างมีเสถียรภาพ โดยระบุว่าอัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นยังคงมีแนวโน้มที่จะพุ่งแตะระดับ 2% ในปีงบประมาณ 2562

+ สหรัฐ vs จีน : ช่องทางการเจาจาการค้าเปิดกว้างขึ้น

  # นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง ของจีนระบุว่าจีนเปิดกว้างต่อการเจรจากับสหรัฐเพื่อแก้ไขความตึงเครียดทางการค้า ด้านนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐก็เตรียมนำคณะเจรจาเดินทางเยือนจีนเพื่อเจรจาผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้า

-/• สหรัฐ : ดัชนีค่าเงิน US$ แข็งขึ้นเทียบกับ 6 สกุลหลัก

  # ดัชนีค่าเงิน US$ ที่เทียบกับ 6 สกุลหลักอ่อนลงเป็น 91.569 หลังแข็งค่าขึ้นไปสูงสุด 91.986 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

  # เฟดจะมีการประชุม 1-2 พ.ค.61 ถ้าเฟดคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% และไม่ได้ส่งสัญญาณเรื่องดอกเบี้ยเพิ่มเติม ก็มีโอกาสที่ค่าเงิน US$ จะอ่อนลงหลังการประชุมเฟด ซึ่งจะทำให้บรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นดีขึ้น

• สหรัฐ : GDP งวด 1Q61 ประมาณการครั้งที่ 1 โต 2.3%YoY

  # กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1 ที่ 2.3%YoY ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 2.0%YoY แต่เติบโตน้อยกว่า 4Q60 ที่ 2.9%YoY

  # ปัจจัยที่ทำให้เติบโตในอัตราที่ลดลง มาจาก 1. การชะลอตัวของการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งอยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบเกือบ 5 ปี โดยการใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่ม 1.1% ในไตรมาส 1 ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 56 หลังจากพุ่งขึ้น 4.0% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว, 2. การลงทุนด้านเครื่องมือและอุปกรณ์ในภาคธุรกิจชะลอตัวสู่ระดับ 4.7% ในไตรมาส 1 ขณะที่การใช้จ่ายในภาครัฐเพิ่มขึ้นเพียง 1.2% ต่ำกว่าระดับ 3% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว

  # ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐขั้นสุดท้ายในเดือนเม.ย.61 อยู่ที่ 98.8 สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

+ สหรัฐ : บจ.รายงานกำไร 1Q61 สูงกว่า 79%

  # จากข้อมูลล่าสุดโดยบริษัทวิจัย FactSet ของสหรัฐพบว่า การรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนมาจนถึงขณะนี้ โดยรวมแล้วออกมาเป็นบวก โดยผลการสำรวจพบว่า บริษัท 79.4% ในดัชนี S&P 500 ที่ได้รายงานผลประกอบการแล้วมีตัวเลขกำไรที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์

•/+ ภาวะตลาดหุ้น : ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดทรงตัว ส่วนตลาดหุ้นยุโรปรับขึ้น

  # ดัชนี DJIA ปิดที่ 24,311.19 จุด ลดลง 11.15 จุด หรือ -0.05% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,669.91 จุด เพิ่มขึ้น 2.97 จุด หรือ +0.11% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,119.80 จุด เพิ่มขึ้น 1.12 จุด หรือ +0.02% การซื้อขายไม่คึกคักนัก

  # ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (27 เม.ย.) ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.89 จุด หรือ 0.23% ปิดที่ 384.64 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,580.87 จุด เพิ่มขึ้น 80.40 จุด หรือ +0.64% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,483.19 จุด เพิ่มขึ้น 29.61 จุด หรือ +0.54% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,502.21 จุด เพิ่มขึ้น 80.78 จุด หรือ +1.09%

• ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาแกว่งแคบ

  # สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 9 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 68.10 ดอลลาร์/บาร์เรล และลดลง 0.4% ในรอบสัปดาห์ ส่วน BRENT ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 10 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 74.64 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ทั้งสัปดาห์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 0.5% ปัจจัยหนุนในช่วงนี้ คือ การคาดการณ์ว่าสหรัฐจะคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ ซึ่งจะทำให้ Supply น้ำมันในตลาดโลกลดลง และราคาน้ำมันจะปรับขึ้นได้ต่อ

  # เบเกอร์ ฮิวจ์ เปิดเผยจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งานเพิ่มขึ้น 5 แท่น สู่ระดับ 825 แท่นในสัปดาห์นี้

+ ภาวะตลาดทองคำ : ราคาปรับขึ้น 0.4% หลังค่าเงิน US$ อ่อนลง

  # สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ปรับตัวขึ้น 5.50 ดอลลาร์ หรือ 0.42% ปิดที่ 1,323.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลง 0.03% สู่ระดับ 91.537

ปัจจัยในประเทศ

• สศค.ประมาณการเศรษฐกิจของปี 2561 ณ เม.ย.61 เป็น +4.1%

นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]

OO8160

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!