WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

YuanTaบล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน


กลยุทธ์วันนี้
          เก็งกำไรรายตัวบนผลการดำเนินงาน 1Q61 // Laggard Play
Smart Pick
สะสม BJC
  ราคาปิด 58.25 บาท
  ราคาเหมาะสม 72.00 บาท
          คาดกำไรปกติ 1Q61 ที่ 1.2 พันล้านบาท เติบโต +23% YoY ตามการฟื้นตัวของภาคการบริโภคในประเทศ หนุนรายได้ +4% YoY เป็น 3.7 หมื่นล้านบาท และ GPM เพิ่มเป็น 19.2% ใน 1Q61 จาก 18.5% ใน 1Q60 จากการขายสินค้า Private Brand มากขึ้น
          คาดกำไรปีนี้เติบโต 28.7% YoY เป็น 6.79 พันล้านบาท และมี Upside จากกลุ่ม Thaibev เข้าซื้อกิจการ Sabeco ในเวียดนาม เป็นบวกต่อธุรกิจผลิตขวดแก้วของ BJC
เก็งกำไร BCH
  ราคาปิด 17.50 บาท
  ราคาเหมาะสม 19.60 บาท
          เรามองว่าหุ้นโรงพยาบาลจะทนต่อแรงเสียดทานต่อบรรยากาศการลงทุนทั่วโลกที่เป็นลบในวันนี้ได้ เพราะผลการดำเนินงานไม่ได้เกี่ยวข้องกับภาวะเศรษฐกิจโลก
          คาดกำไรสุทธิ 1Q61 เติบโตเด่น + 34% YoY เป็น 221 ล้านบาท จากแรงหนุนของการปรับขึ้นค่าหัวโครงการประกันสังคมตั้งแต่ ก.ค.2560 และ WMC จะพลิกเป็นกำไรเป็นปีแรก ส่งผลให้กำไรปกติปี 2561 เติบโต +12.5% YoY เป็น 1,032 ล้านบาท
เก็งกำไร ORI
  ราคาปิด 18.40 บาท
  ราคาเหมาะสม 22.90 บาท
          คาดกำไรปกติ 1Q61 ที่ 305 ล้านบาท +78% YoY จากการรับรู้รายได้โครงการ Park 24 และโครงการอื่นๆ เช่น Knightsbridge ติวานนท์ และ Britania ศรีนครินทร์
          จุดเด่นอยู่ที่ประมาณการกำไรมี Downside จำกัด จาก Backlog รองรับประมาณการรายได้ปีนี้ไปแล้วถึง 78% บนกำไรปี 2561 เติบโต +79% YoY เป็น 2.7 พันล้านบาท เติบโตสูงที่สุดในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งการขึ้น XD เงินปันผลหุ้นละ 0.55 บาท ในวันที่ 8 พ.ค. คิดเป็น Dividend Yield 2.9%
เก็งกำไร MINT
  ราคาปิด 40.25 บาท
  ราคาเหมาะสม 50.00 บาท
          ราคาหุ้นปิดเหนือ 40.00 บาทวานนี้ เป็นสัญญาณบวกทางเทคนิค โดยคาดว่ามีโอกาสขึ้นทดสอบ 41.00-42.00 บาท แนวรับ 39.50 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 38.75 บาท
          คาดกำไรปกติ 1Q61 เติบโต +13% YoY จากธุรกิจโรงแรมที่โดดเด่นทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งราคาซื้อขาย ณ ปัจจุบันคิดเป็น EV/EBITDA ที่ 17 เท่า เทียบเท่า -0.5SD ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี
Pair Trade :  n.a
         
กลยุทธ์วันนี้
          ความผันผวนของตลาดหุ้นโลกกลับมาสูงขึ้น หลัง DJIA ปรับฐานลง 1.7% และดัชนีวัดความเสี่ยง VIX INDEX พุ่งขึ้น 10.3% หลังจาก US 10-Year Bond Yield แตะ 3% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2557 รวมถึงแรงขายทำกำไรสะท้อนงบการเงินของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานการลงทุนของตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง ผลการดำเนินงาน 1Q61 ที่ทยอยประกาศออกมานั้นอยู่ในกรอบที่ตลาดประเมินไว้ ลด downside risk ของประมาณการ อีกทั้งต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิ QTD กว่า 7.4 หมื่นสัญญาใน SET50 Index Futures สะท้อนมุมมองต่อ downside risk ของหุ้นขนาดใหญ่ของไทยจำกัดเช่นกัน เราประเมินกรอบ SET INDEX วันนี้ระหว่าง 1,770-1,790 จุด
          สำหรับกลุ่มทีวีดิจิทัลขึ้นเด่นบ่ายวานนี้ ตอบรับต่อมาตรการช่วยเหลือของทางการไปบ้างแล้ว ราคาหุ้นวันนี้อาจมี upside ระยะสั้นจำกัด เชิงปัจจัยพื้นฐานเราแนะนำซื้อ MONO และ WORK (อ่านรายละเอียดบทวิเคราะห์วันนี้) ส่วนบทวิเคราะห์ Sector Update วันนี้เป็นกลุ่มอสังหาฯ เราคาดกำไรปกติงวด 1Q61 โดยรวม -40% QoQ จากปัจจัยฤดูกาล แต่ขยายตัว 11% YoY แนวโน้มกำไรปกติจะเติบโตเด่นตั้งแต่ 2Q61 เป็นต้นไป และทำระดับสูงสุดของปีใน 4Q61 เราเลือก ORI (ซื้อ, ราคาเหมาะสม 22.90 บาท) และ SPALI (ซื้อ, ราคาเหมาะสม 27 บาท) เป็น Top Picks ของกลุ่มฯ
          ช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นไทยโดยรวมยังแกว่งตัวในกรอบและไร้ทิศทางที่ชัดเจน ภาพการหมุนเปลี่ยนกลุ่มหุ้น (Sector Rotation) ชัดเจนขึ้น ประเมินว่า หุ้นขนาดกลางในดัชนี SET100 จะกลับมาเด่น และยิ่งหากผลการดำเนินงาน 1Q61 เติบโตแข็งแกร่ง (Earnings Play) ด้วยแล้วจะเป็นทางเลือกของการเข้าเก็งกำไรในรอบนี้
HOT Topic
          1. รัฐใช้มาตรา 44 ช่วยเหลือผู้ประกอบการ Digital TV หุ้นใดเป็น Top pick ของเรา
          2. เดินหน้าประมูลคลื่น 1800MHz หรือไม่? ขึ้นอยู่กับการประชุม กสทช.วันนี้
          3. Bond Yield 10 ปีสหรัฐฯ ไต่ระดับขึ้นแตะ 3% เป็นปัจจัยกดดันภาพรวมการลงทุนทั่วโลก
          4. SCC รายงานงบวันนี้ คาดกำไรปกติ 1Q61 ที่ 13,348 ล้านบาท
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
          วานนี้ SET INDEX ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1803.21 จุด ก่อนมีแรงขายทำกำไรลงมาปิดที่ 1788.20 จุด ลดลง 1.94 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 7.9 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันอีกราว 2.7 พันล้านบาท รวม 3 วันทำการขายสุทธิสะสมราว 6.7 พันล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิเล็กน้อยราว 617 ล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิหนาแน่นราว 8.5 พันสัญญา เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการราว 2.3 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิสะสมราว 7.6 หมื่นสัญญา ขณะที่สถาบันในประเทศและบัญชีบล. มีสถานะ Short สุทธิราว 1 หมื่นสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 3 ราว 5.1 พันล้านบาท รวม 3 วันขายสุทธิสะสมราว 1 หมื่นล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
คสช.เผยไทยมีแนวโน้มที่จะเข้าร่วมข้อตกลง CPTPP โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาสิทธิประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับ
คสช.เผยได้ข้อสรุปมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการออกคำสั่งใช้มาตรการดังกล่าวภายในเดือน พ.ค. 61
คสช.มีมติใช้ ม.44 ยกเลิกกระบวนการสรรหาและคัดเลือกกรรมการ กสทช. ชุดใหม่ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง และให้ กสทช. ชุดปัจจุบันปฏิบัติหน้าที่ไปก่อน
ประธานาธิบดีสหรัฐฯเผยการเจรจาข้อตกลง NAFTA ฉบับใหม่เป็นไปได้ด้วยดี และคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ เตรียมเข้าเจรจาต่อรองประเด็นการค้าระหว่างประเทศกับจีนในวันนี้
ติดตามการประชุม ECB ในวันที่ 26 เม.ย.
ติดตามการประชุม BOJ ในวันที่ 26-27 เม.ย.
ติดตามการรายงาน GDP 1Q61 ของสหรัฐ ตลาดคาดขยายตัว 2.1% วันที่ 27 เม.ย.
ติดตามการประชุมของผู้นำระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ วันที่ 27 เม.ย.
         
Strategist Team
          Mayuree Chowvikran  Head of Research , 662-009-8050
          Padon Vannarat    Strategist , 662-009-8060
          Piyapat Patarapuvadol   Strategist , 662-009-8062
          Nutt Treepoonsuk  Strategist  , 662-009-8059
OO7963

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!