- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 25 April 2018 16:46
- Hits: 607
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย มีแรงเก็งกำไรในช่วงเช้าและ Sell on fact ในช่วงบ่ายใน PTT (แตกพาร์) ในขณะที่พบแรงขายเด่นใน SCC และกลุ่มธนาคารอย่าง KBANK, SCB และ BBL อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายมีแรงเก็งกำไรเด่นมากในกลุ่ม TV Digital นำโดย WORK, BEC, MONO ภายหลังคสช.ตัดสินใจเข้าช่วยเหลือกลุ่ม โดย ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,788.2 จุด (-1.9 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 7.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 6.3 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 2,672 ล้านบาท แต่กลับมาเปิดสถานะ Long SET50 index future ที่ 8,461 สัญญา
Investment theme
SET แกว่งตัวตามกลุ่มพลังงานมากเกินไป ในระยะกลางถือเป็นความเสี่ยง: ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา SET มีทิศทางสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรอย่างเด่นชัด (อ้างอิงจาก Bloomberg เราพบว่า กลุ่มพลังงานเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับ SET ที่มีค่า R-square YTD สูงกว่า 0.81 ในขณะที่ค่าเฉลี่ย 5 ปีอยู่ที่ 0.50) โดยเฉพาะกลุ่ม PTT อย่างเช่น PTT, PTTEP และ PTTGC นอกเหนือจากเรื่องการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบโลกแล้ว อีกสาเหตุหนึ่งเกิดจากหุ้นกลุ่มอื่นๆ เผชิญกับความเสี่ยงจากทั้งนโยบายภาครัฐและปัจจัยพื้นฐานไม่เอื้ออำนวย เช่น กลุ่มธนาคารปรับตัวลงจากต้นปี 9%, กลุ่มอาหาร -9%, กลุ่มก่อสร้าง -18% , กลุ่มอสังหา -3% และ MAI -10% โดยภาพรวม SET ปรับตัวขึ้นประมาณ 2% เรามีมุมมองเชิงลบจากประเด็นดังกล่าว และมองว่าการที่ SET ปรับขึ้นจากกลุ่มพลังงานอย่างเดียว ในขณะที่กลุ่มอื่นๆ ที่สะท้อนภาพเศรษฐกิจในประเทศอย่าง ก่อสร้าง, อสังหา และ MAI ที่สะท้อน กลุ่ม SME ติดลบ ถือเป็นความเสี่ยงในระยะยาวและทำให้ SET ปรับขึ้นอย่างไม่มีเสถียรภาพ
Investment Theme: คาด SET แกว่งตัวบริเวณ 1,780+/- จุด รอดูผลประกอบการกลุ่มพลังงาน และแนะทยอยสะสมกลุ่ม Defensive อย่างกลุ่มรถไฟฟ้า, กลุ่ม ICT และ กลุ่มโรงพยาบาล
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – คสช.ไฟเขียวช่วยเหลือกลุ่ม TV digital โดยพักจ่ายค่าธรรมเนียม 3 งวด และช่วยเหลือค่า MUX และสำหรับกลุ่ม ICT ยังไม่มีข้อสรุป / Exxon เตรียมหาที่ดิน EEC 900 ไร่ลงทุน Petro-complex / อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีสหรัฐปรับขึ้นทะลุ 3.0% ในรอบ 4 ปี / ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าอีกครั้งที่ 31.45 บาท
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย มีแรงเก็งกำไรในช่วงเช้าและ Sell on fact ในช่วงบ่ายใน PTT (แตกพาร์) ในขณะที่พบแรงขายเด่นใน SCC และกลุ่มธนาคารอย่าง KBANK, SCB และ BBL อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายมีแรงเก็งกำไรเด่นมากในกลุ่ม TV Digital นำโดย WORK, BEC, MONO ภายหลังคสช.ตัดสินใจเข้าช่วยเหลือกลุ่ม โดย ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,788.2 จุด (-1.9 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 7.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 6.3 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 2,672 ล้านบาท แต่กลับมาเปิดสถานะ Long SET50 index future ที่ 8,461 สัญญา
Investment theme
SET แกว่งตัวตามกลุ่มพลังงานมากเกินไป ในระยะกลางถือเป็นความเสี่ยง: ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา SET มีทิศทางสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรอย่างเด่นชัด (อ้างอิงจาก Bloomberg เราพบว่า กลุ่มพลังงานเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับ SET ที่มีค่า R-square YTD สูงกว่า 0.81 ในขณะที่ค่าเฉลี่ย 5 ปีอยู่ที่ 0.50) โดยเฉพาะกลุ่ม PTT อย่างเช่น PTT, PTTEP และ PTTGC นอกเหนือจากเรื่องการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบโลกแล้ว อีกสาเหตุหนึ่งเกิดจากหุ้นกลุ่มอื่นๆ เผชิญกับความเสี่ยงจากทั้งนโยบายภาครัฐและปัจจัยพื้นฐานไม่เอื้ออำนวย เช่น กลุ่มธนาคารปรับตัวลงจากต้นปี 9%, กลุ่มอาหาร -9%, กลุ่มก่อสร้าง -18% , กลุ่มอสังหา -3% และ MAI -10% โดยภาพรวม SET ปรับตัวขึ้นประมาณ 2% เรามีมุมมองเชิงลบจากประเด็นดังกล่าว และมองว่าการที่ SET ปรับขึ้นจากกลุ่มพลังงานอย่างเดียว ในขณะที่กลุ่มอื่นๆ ที่สะท้อนภาพเศรษฐกิจในประเทศอย่าง ก่อสร้าง, อสังหา และ MAI ที่สะท้อน กลุ่ม SME ติดลบ ถือเป็นความเสี่ยงในระยะยาวและทำให้ SET ปรับขึ้นอย่างไม่มีเสถียรภาพ
Investment Theme: คาด SET แกว่งตัวบริเวณ 1,780+/- จุด รอดูผลประกอบการกลุ่มพลังงาน และแนะทยอยสะสมกลุ่ม Defensive อย่างกลุ่มรถไฟฟ้า, กลุ่ม ICT และ กลุ่มโรงพยาบาล
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – คสช.ไฟเขียวช่วยเหลือกลุ่ม TV digital โดยพักจ่ายค่าธรรมเนียม 3 งวด และช่วยเหลือค่า MUX และสำหรับกลุ่ม ICT ยังไม่มีข้อสรุป / Exxon เตรียมหาที่ดิน EEC 900 ไร่ลงทุน Petro-complex / อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีสหรัฐปรับขึ้นทะลุ 3.0% ในรอบ 4 ปี / ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าอีกครั้งที่ 31.45 บาท
กลยุทธ์การลงทุน
การปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ที่ 3.0% เป็นเรื่องที่ถูกตลาดคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว เพียงแต่มาถึงเร็วกว่าคาด โดยสรุปเรามองประเด็นดังกล่าวเป็นการจำกัด Upside ของตลาดหุ้นในระยะกลาง แต่ในระยะสั้นเรามองผลกระทบจำกัด (แนวรับบริเวณ 1,770) คงคำแนะนำ ถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 30% และทยอยซื้อ กลุ่มพลังงาน, กลุ่มโรงพยาบาล และกลุ่มค้าปลีก
กลุ่มพลังงานและปิโตร เป็นกลุ่มที่เราคาดผลประกอบการ 1Q18 เด่น และต่อเนื่องถึง 2Q18 แนะรอซื้อ PTT บริเวณ 55.0 บาท +/- และ IVL บริเวณ 59.0 บาท +/-
กลุ่มโรงพยาบาล เป็นกลุ่มที่เรามองว่า Defensive และ มี Downside ของประมาณการค่อนข้างต่ำ แนะทยอยสะสม BH, BDMS
กลุ่มค้าปลีก ถือเป็นกลุ่มที่เรามองว่าได้ประโยชน์จาก Policy risk มากที่สุด แนะทยอยสะสม CPALL 94.0 บาท, CPN เป้าหมาย 89.0 บาท
Trading idea – – กลุ่ม TV Digital เรามองเป็นเพียงการเก็งกำไรระยะสั้น WORK ได้ประโยชน์เรื่อง MUX , BEC ได้ประโยชน์การผ่อนค่าชำระ
Technical View
แกว่งพักฐานในกรอบ 1780-1805 รอเลือกทาง: แรงซื้อจากกลุ่มพลังงานและสื่อสาร ทำให้ดัชนีปรับตัวขึ้นปะทะแนวต้านกรอบ Sideway ที่ 1805 อีกครั้ง แต่ยังไม่สามารถ Break ขึ้นได้อย่างเด็ดขาด แต่ขณะนี้ MACD ยังส่งสัญญาณบวก จึงมองว่าดัชนีอาจแกว่งตัวออกข้างเพื่อปรับฐาน ระยะสั้นมองกรอบการแกว่งบริเวณ 1780-1805 หากดัขนีพักตัวไม่หลุด 1780 ยังคาดมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1805 และ 1820
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: Trading ในกรอบ 1780-1805 เน้นขึ้นขาย-ลงซื้อ ระยะสั้นพิจารณาแรงขายที่ 1805 2) ไม่มีหุ้น: จังหวะอ่อนระหว่างวัน หากไม่หลุด 1780 มองเป็นโอกาสซื้อเพื่อเล่น Trading
แนวรับ : 1780, 1760 แนวต้าน : 1805, 1820
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: การประชุม ECB 26 เม.ย.
ปัจจัยในประเทศ: งบ SCC ประกาศวันนี้
การปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ที่ 3.0% เป็นเรื่องที่ถูกตลาดคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว เพียงแต่มาถึงเร็วกว่าคาด โดยสรุปเรามองประเด็นดังกล่าวเป็นการจำกัด Upside ของตลาดหุ้นในระยะกลาง แต่ในระยะสั้นเรามองผลกระทบจำกัด (แนวรับบริเวณ 1,770) คงคำแนะนำ ถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 30% และทยอยซื้อ กลุ่มพลังงาน, กลุ่มโรงพยาบาล และกลุ่มค้าปลีก
กลุ่มพลังงานและปิโตร เป็นกลุ่มที่เราคาดผลประกอบการ 1Q18 เด่น และต่อเนื่องถึง 2Q18 แนะรอซื้อ PTT บริเวณ 55.0 บาท +/- และ IVL บริเวณ 59.0 บาท +/-
กลุ่มโรงพยาบาล เป็นกลุ่มที่เรามองว่า Defensive และ มี Downside ของประมาณการค่อนข้างต่ำ แนะทยอยสะสม BH, BDMS
กลุ่มค้าปลีก ถือเป็นกลุ่มที่เรามองว่าได้ประโยชน์จาก Policy risk มากที่สุด แนะทยอยสะสม CPALL 94.0 บาท, CPN เป้าหมาย 89.0 บาท
Trading idea – – กลุ่ม TV Digital เรามองเป็นเพียงการเก็งกำไรระยะสั้น WORK ได้ประโยชน์เรื่อง MUX , BEC ได้ประโยชน์การผ่อนค่าชำระ
Technical View
แกว่งพักฐานในกรอบ 1780-1805 รอเลือกทาง: แรงซื้อจากกลุ่มพลังงานและสื่อสาร ทำให้ดัชนีปรับตัวขึ้นปะทะแนวต้านกรอบ Sideway ที่ 1805 อีกครั้ง แต่ยังไม่สามารถ Break ขึ้นได้อย่างเด็ดขาด แต่ขณะนี้ MACD ยังส่งสัญญาณบวก จึงมองว่าดัชนีอาจแกว่งตัวออกข้างเพื่อปรับฐาน ระยะสั้นมองกรอบการแกว่งบริเวณ 1780-1805 หากดัขนีพักตัวไม่หลุด 1780 ยังคาดมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1805 และ 1820
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: Trading ในกรอบ 1780-1805 เน้นขึ้นขาย-ลงซื้อ ระยะสั้นพิจารณาแรงขายที่ 1805 2) ไม่มีหุ้น: จังหวะอ่อนระหว่างวัน หากไม่หลุด 1780 มองเป็นโอกาสซื้อเพื่อเล่น Trading
แนวรับ : 1780, 1760 แนวต้าน : 1805, 1820
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: การประชุม ECB 26 เม.ย.
ปัจจัยในประเทศ: งบ SCC ประกาศวันนี้
หุ้นเทคนิค:
ADVANC (B 203.00-206.00, Tp 213.00//220.00, Cut 202.00)
BDMS (B 23.60, Tp 24.50, Cut 23.30)
ADVANC (B 203.00-206.00, Tp 213.00//220.00, Cut 202.00)
BDMS (B 23.60, Tp 24.50, Cut 23.30)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO7962
Research Department Tel. 02-658-5000
OO7962