- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 08 September 2014 16:09
- Hits: 1752
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แม้ว่า SET ยังผันผวนแต่ก็ลุ้นขึ้นหา 1600 จุด เพื่อให้หาจังหวะขายได้!!
กลยุทธ์ : ถึงแม้ว่า SET จะมีจังหวะแกว่งตัวผันผวนและย้อนลบให้เห็นบ้าง แต่ FSS ยังคาดว่าตลาดมีโอกาสที่จะขยับเข้าใกล้ระดับดัชนีเป้าหมายที่ 1600 จุด(+/-) ได้อยู่ ดังนั้นช่วงนี้ยังสามารถเลือกหุ้นซื้อช่วงลบเพื่อเทรดดิ้งสั้นตามรอบได้ แต่ในจังหวะบวกขึ้นใกล้หรือสูงกว่า 1600 จุดขึ้นไป แนะนำให้มองหาจังหวะขายทำกำไรมากกว่าซื้อตามต่อ
หุ้นเด่นทางเทคนิค : TWZ, PCA, SPCG(buy back)
แนวโน้ม : ถึงแม้ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือน ส.ค. ที่ประกาศเมื่อคืนวันศุกร์ จะเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด แต่ก็ช่วยสร้างความหวังที่ว่าเฟดจะยังไม่รีบร้อนขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาอันใกล้ ทำให้ยังมีแรงซื้อในตลาดหุ้นสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปจะค่อนข้างผันผวนและมีหลายแห่งปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนยังกังวลว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ ECB อาจจะไม่มากพอที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน รวมทั้งยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนไม่มีการขยายตัวในไตรมาส 2 ด้วย จึงทำให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ยังเปิดตัวค่อนข้างผันผวนในกรอบบวก/ลบแคบๆ อยู่ ส่งผลให้ SET วันนี้ยังมีโอกาสแกว่งตัวผันผวนต่อเนื่องได้ อย่างไรก็ตาม FSS คาดว่า SET มีสิทธิที่จะมีแรงซื้อเข้ามาหนุนให้ขึ้นต่อ จากแรงซื้อเก็งกำไรเพื่อลุ้นโอกาสที่ คสช.อาจจะประกาศผ่อนคลายการใช้กฏอัยการศึก หลังจากเราเริ่มมีรัฐบาลชุดใหม่ รวมทั้งรอติดตามการแถลงนโยบายของ ครม.ชุดใหม่ในช่วงท้ายสัปดาห์นี้ด้วย โดย FSS ยังคงเป้าหมายของระดับดัชนีรอบนี้ไว้ที่ 1600 จุด(+/-) เช่นเดิมไว้ก่อน
แนวรับ 1582-1580 , 1576-1574 จุด แนวต้าน 1587-1590 , 1595-1600 จุด
Fund Flow สัปดาห์ที่ผ่านมาไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาค US$1,308 ล้าน ลดลงเล็กน้อยจาก US$1,535 ล้านเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า ส่วนศุกร์ที่ผ่านมายังไหลเข้าติดต่อกันเป็นวันที่ 9 โดยนักลงทุนซื้อสุทธิในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ US$105.7 ล้าน ไต้หวัน US$72.9 ล้าน ไทย US$49 ล้าน อินโดนีเซีย US$25.8 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$2.3 ล้าน แต่ขายหุ้นเวียดนาม US$7.4 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้แข็งค่าเล็กน้อย Flow น่าจะไหลเข้าต่อ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) ตลาดน่าจะแกว่งแคบรอความชัดเจนของ Fed สัปดาห์หน้า แม้ว่า ECB ประกาศลดดอกเบี้ยไปแล้วและกำลังจะออก QE ในเดือน ต.ค. ซึ่งจะบอกรายละเอียดของ QE ในการประชุมครั้งถัดไปคือ 2 ต.ค. เมื่อรวมกับมาตรการ LTRO ที่ประกาศในเดือน มิ.ย. จะยิ่งกดดันค่าเงินยูโรและเงินเยน (เยนอ่อนเมื่อเทียบดอลลาร์) ทำให้มีโอกาสเกิด Euro และ Yen carry trade เป็นบวกต่อตลาดหุ้นเกิดใหม่ในระยะถัดไป ตลาดหุ้นไทยจึงมีโอกาสไปต่อจากเม็ดเงินฝั่งยุโรปที่เข้ามาเพิ่ม แต่ระยะสั้นเชื่อว่าตลาดหุ้นและค่าเงินบาทแกว่งแคบรอการประชุม Fed 17-18 ก.ย. ว่าอาจขยายระยะเวลาการขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ เพราะการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้นน้อยสุดในรอบ 8 เดือน ที่ 1.42 แสนราย ต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าที่เพิ่ม 2.12 แสนราย และต่ำกว่าตลาดคาดที่ 2.25 แสนราย
(+) ครม.ประชุมนัดแรกอังคารนี้ เพื่อกำหนดวันแถลงนโยบายต่อสนช.อีกครั้ง และสัปดาห์หน้า 17-18 ก.ย. คาดว่าร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2558 จะถูกนำเสนอต่อสนช.เพื่อพิจารณาในวาระ 2-3 พัฒนาการทางการเมืองที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เป็นบวกกับกลุ่ม Domestic plays แทบทั้งหมด โดยเฉพาะกลุ่มรับเหมาก่อสร้างและธนาคารขนาดใหญ่ที่อาจกลับมาอยู่ในความนิยมอีกครั้ง แต่หุ้นในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ปรับขึ้นจนเกินหรือใกล้เต็มมูลค่าแล้ว หุ้นที่ยังเหลือ upside กว่า 5% ได้แก่ KTB, SCC, CK, PYLON, DCON
(+) THCOM ยิงดาวเทียมไทยคม 7 ขึ้นสู่วงโคจรเมื่อ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา เวลา 01.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น ที่สหรัฐ) เรียบร้อยแล้ว หลังเลื่อนจากกำหนดเดิมที่ 27 ส.ค. ปัจจุบันไทยคม 7 มียอดจองแล้วประมาณ 50% คาดเริ่มรับรู้รายได้กลาง 4Q14 เชื่อว่าข่าวนี้จะ ช่วยปลดล็อกราคาหุ้นได้ เรายังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 50 บาท
(-) SIRI ยอด Presales 2 เดือนแรกของ 3Q14 ขายได้เพียง 1.7 พันล้านบาท ค่อนข้างต่ำเพราะไม่มีโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ใหม่ๆที่เปิดขายในช่วงนี้ ขณะที่คอนโดยังมีการคืนเงินจองให้เห็น ทำให้ยอด Presales 8M14 ทำได้เพียง 20% ของเป้าทั้งปี อย่างไรก็ตาม กำไรในช่วง 2H14 มีแนวโน้มดีขึ้นเพราะมีคอนโดรอโอนมากขึ้น เราคาดกำไรปี 2014 โต 25% ปี 2015 โต 29% แนะนำถือ ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 2.20 บาท
(-) AIRA ร่วมทุนกับ AIFUL Corporation ซึ่งทำธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลซึ่งเป็นรายใหญ่ติด 1 ใน 5 ในญี่ปุ่น แต่ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับการซื้อกิจการ เราจึงไม่สามารถประเมินมูลค่าหุ้นได้ แต่หากอิงเป้าหมายของผู้บริหารที่ตั้งเป้าสินทรัพย์ 2 หมื่นล้านบาทในปี 2016 ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย 20% หากบริษัทลงทุนในสัดส่วน 50% จะได้ส่วนแบ่งกำไรประมาณ 600 ล้านบาทหรือ EPS 0.18 บาท เมื่ออิง PE ของกลุ่มที่ 15-20 เท่า จะได้ราคาเหมาะสม 2.30-3.00 บาทในปีนี้ ราคาหุ้น 1 เดือนที่ผ่านมาปรับขึ้น 63% เป็น 3.52 บาท ตอบรับข่าวไปแล้ว AIRA ไม่ได้อยู่ใน FSS coverage แต่เราคิดว่าน่าขายทำกำไร
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมายังปิดบวกได้แม้ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ส.ค. จะเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่ตลาดคาด แต่ในอักนัยหนึ่งอาจทำให้ FED ยังไม่เร่งรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาอันใกล้
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ส่วนใหญ่ปิดในแดนลบโดยมีแรงขายทำกำไรออกมาหลังจาก ECB ลดดอกเบี้ย นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจภาคแรงงานของสหรัฐฯที่ออกมาต่ำกว่าตลาดคาด
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในกรอบแคบโดยนักลงทุนจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจของจีนและญี่ปุ่น
ค่าเงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น ล่าสุดแกว่งตัวในกรอบ 31.90-32.04 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. ร่วงลง 1.16 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 93.29 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯออกมาต่ำกว่าตลาดคาด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของเศรษฐกิจที่อาจยังไม่แข็งแกร่งอย่างที่คิด
ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 0.80 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,267.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาน่าผิดหวังซึ่งส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่า นอกจากนี้ตลาดยังจับตาดูพัฒนาการของสถานการณ์ในยูเครนว่ามีทิศทางทีดีขึ้นหรือไม่
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
8 ก.ย. - จีน: ดุลการค้า (ส.ค.)
- ญี่ปุ่น: 2Q14 GDP
- ตลาดการเงินที่ปิดทำการวันนี้มีไต้หวัน เกาหลีใต้ จีน วันไหว้พระจันทร์ (Mid-autumn festival)
8-10 ก.ย. - เกาหลีใต้: ตลาดการเงินปิดทำการ วัน Harvest Moon Day
9 ก.ย. - ไทย: ประชุมครม.นัดแรก
- ฮ่องกง: ตลาดการเงินปิดทำการ Day after Mid-autumn
10 ก.ย. - จีน: ยอดสินเชื่อใหม่ (ส.ค.)
11 ก.ย. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ส.ค.), CCN เข้าเทรด (ราคา IPO 1.25 บาท)
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลางประชุม
- ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลางประชุม
12 ก.ย. - เกาหลีใต้: ธนาคารกลางประชุม
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ส.ค.)
13 ก.ย. - จีน: Industrial Production, ยอดค้าปลีก (ส.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852