- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 19 April 2018 17:23
- Hits: 2188
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ภาพตลาดและแนวโน้ม
เลือกลงทุนรายตัว (ต่อ)
เมื่อวาน กลุ่มสินเชื่อ Non-Bank รีบาวด์แรง (MTLS SAWAD) หลังจากงบ TISCO และ KTC ช่วยเรียกความมั่นใจกลับคืน ส่วนหุ้นนิคมฯ (WHA AMATA) มาตามนัด จากข่าว อาลีบาบา มาเซ็นบันทึกความความร่วมมือ ลงทุน EEC ในวันนี้ และกลุ่มแบงก์ที่ ก.คลังถือหุ้น รีบาวด์ตามคาด ทั้ง TMB KTB จากโอกาสเกิด M&A ...
คาดวันนี้ ตลาดยังคงเลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัวต่อ ด้วยปัจจัยต่างประเทศ และในประเทศ ยังไม่ได้มีข่าวลบใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติม... ขณะที่หุ้นที่ลงแรงก่อนหน้านี้ เริ่มเห็นการซื้อคืน (เมื่อวาน หุ้นสินเชื่อ Non-bank, นิคมฯ) คาดวันนี้ หุ้นมีประเด็นหนุนต่อการปรับกำไรขึ้น จะขึ้นได้ดีกว่าตลาด อาทิ 1) M&A: DDD
2) สะสมหุ้นผลการดำเนินงาน 1Q18 เติบโตโดดเด่น และมีโอกาสที่จะกำไรดีกว่าคาด จนต้องปรับกำไรขึ้น เช่น BDMS MINT CENTEL M // หุ้นที่งบโตเด่นอย่าง VGI PLANB COM7 UTP ORI // และงบพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ SIMAT (เบื้องต้นคาด SIMAT พลิกกำไรราว 8 ลบ. มีกำไรบนธุรกิจให้บริการอินเตอร์เน็ต จาก 4Q17 ขาดทุนสุทธิ 12 ลบ.)
What to watch
(+) วันนี้ รัฐบาลไทย จะเซ็น MOU กับ Alibaba Group ร่วมมือ ด้าน Smart Digital Hub 4 ด้าน 1) ลงทุนใน EEC เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ดิจิตอล 2) ลงทุน Smart digital hub ระหว่าง EEC กับ กรมศุลกากร 3) ร่วมพัฒนา SME กับ กรมอุตฯและส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ 4) หนุนการพัฒนาการท่องเที่ยวผ่านดิจิทัล
(*) อีกประเด็นที่เชื่อมโยงกับ EEC theme คือร่าง TOR รถไฟความเร็วสูง 220 กม.เชื่อม 3 สนามบิน คาดจะอีก 2 สัปดาห์จะแล้วเสร็จ และให้เอกชนยื่นข้อเสนอ 4 เดือน ตัดสินอีก 1 เดือน คาดจะได้ผู้ชนะประมูล เดือน พย.(กลุ่มที่มีลุ้นงาน O&M: BTS BEM)
(+/-) ราคา น้ำมันดิบ พุ่งขึ้นไม่หยุด เมื่อวาน Brent +2.7% / คาดเป็นบวกต่อราคาหุ้นพลังงานต้นน้ำอย่าง PTTEP SGP แต่ถ้าน้ำมันขึ้นไปเรื่อยๆแบบนี้ จะกลายเป็นปัจจัยกดดันต้นทุนค่าการกลั่นของ TOP SPRC ESSO BCP มากสุด
ภาพตลาดและแนวโน้ม
เลือกลงทุนรายตัว (ต่อ)
เมื่อวาน กลุ่มสินเชื่อ Non-Bank รีบาวด์แรง (MTLS SAWAD) หลังจากงบ TISCO และ KTC ช่วยเรียกความมั่นใจกลับคืน ส่วนหุ้นนิคมฯ (WHA AMATA) มาตามนัด จากข่าว อาลีบาบา มาเซ็นบันทึกความความร่วมมือ ลงทุน EEC ในวันนี้ และกลุ่มแบงก์ที่ ก.คลังถือหุ้น รีบาวด์ตามคาด ทั้ง TMB KTB จากโอกาสเกิด M&A ...
คาดวันนี้ ตลาดยังคงเลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัวต่อ ด้วยปัจจัยต่างประเทศ และในประเทศ ยังไม่ได้มีข่าวลบใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติม... ขณะที่หุ้นที่ลงแรงก่อนหน้านี้ เริ่มเห็นการซื้อคืน (เมื่อวาน หุ้นสินเชื่อ Non-bank, นิคมฯ) คาดวันนี้ หุ้นมีประเด็นหนุนต่อการปรับกำไรขึ้น จะขึ้นได้ดีกว่าตลาด อาทิ 1) M&A: DDD
2) สะสมหุ้นผลการดำเนินงาน 1Q18 เติบโตโดดเด่น และมีโอกาสที่จะกำไรดีกว่าคาด จนต้องปรับกำไรขึ้น เช่น BDMS MINT CENTEL M // หุ้นที่งบโตเด่นอย่าง VGI PLANB COM7 UTP ORI // และงบพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ SIMAT (เบื้องต้นคาด SIMAT พลิกกำไรราว 8 ลบ. มีกำไรบนธุรกิจให้บริการอินเตอร์เน็ต จาก 4Q17 ขาดทุนสุทธิ 12 ลบ.)
What to watch
(+) วันนี้ รัฐบาลไทย จะเซ็น MOU กับ Alibaba Group ร่วมมือ ด้าน Smart Digital Hub 4 ด้าน 1) ลงทุนใน EEC เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ดิจิตอล 2) ลงทุน Smart digital hub ระหว่าง EEC กับ กรมศุลกากร 3) ร่วมพัฒนา SME กับ กรมอุตฯและส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ 4) หนุนการพัฒนาการท่องเที่ยวผ่านดิจิทัล
(*) อีกประเด็นที่เชื่อมโยงกับ EEC theme คือร่าง TOR รถไฟความเร็วสูง 220 กม.เชื่อม 3 สนามบิน คาดจะอีก 2 สัปดาห์จะแล้วเสร็จ และให้เอกชนยื่นข้อเสนอ 4 เดือน ตัดสินอีก 1 เดือน คาดจะได้ผู้ชนะประมูล เดือน พย.(กลุ่มที่มีลุ้นงาน O&M: BTS BEM)
(+/-) ราคา น้ำมันดิบ พุ่งขึ้นไม่หยุด เมื่อวาน Brent +2.7% / คาดเป็นบวกต่อราคาหุ้นพลังงานต้นน้ำอย่าง PTTEP SGP แต่ถ้าน้ำมันขึ้นไปเรื่อยๆแบบนี้ จะกลายเป็นปัจจัยกดดันต้นทุนค่าการกลั่นของ TOP SPRC ESSO BCP มากสุด
หุ้นแนะนำวันนี้
PTTEP SGP ราคาพลังงาน น้ำมันดิบ พุ่งขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลบวกต่อหุ้นพลังงานต้นน้ำที่เชื่อมโยง
DDD แจ้งซื้อ ธุรกิจ เวชสำอางค์ "Oxe Cure" กลุ่มยารักษาสิว ที่ขายผ่าน Watson และร้านขายยาทั่วไป / เราคาดดีลนี้จะเพิ่มกำไรสุทธิ ปี 2018-2020 ให้ DDD ราว 3.8%, 8.7%, และ 11.6% จากเปาหมายยอดขายใน 2018-2020 ที่ 100-300-500 ลบ. โดยเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งเรายังไม่ได้รวม Upside นี้ไว้ในประมาณการณ์กำไร คาดจะเป็น Upside risk ต่อการปรับกำไรขึ้นในอนาคต...โดยดีลการซื้อกิจการครั้งนี้ มองเป็นการส่งสัญญาณในการขยายกิจการแบบ "In-Organic" คาดจะมีดีล M&A เพิ่มเติมอีกในอนาคต
BTS BEM ลุ้นงาน O&M รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน คาดร่าง TOR ออกก่อนสิ้นเดือน เมย. (SEAFCO มีลุ้นงานเสาเข็ม)
รายงานวันนี้
ORI: Buy for 2Q18 recovery
ราคาหุ้นปรับตัวลงมาตามกลุ่มอุตสาหกรรมจากแนวโน้มกำไร 1Q18 ที่คาดอ่อนตัวลงตามปัจจัยฤดูกาล เรามองว่าปัจจัยดังกล่าวได้สะท้อนมาในราคาหุ้นแล้ว ขณะที่ใน 1Q18 นี้เราคาดบริษัทจะมีกำไรที่เติบโตสูงถึง 74%YoY อยู่ที่ 300 ล้านบาท และ 2Q18 กำไรจะดียิ่งขึ้นจากโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอนที่จะมีมากขึ้น และยังมีปัจจัยหนุนราคาหุ้นจากการเปิดตัว 2 โครงการแบรนด์ Park ได้แก่ Park พญาไท และ Park ทองหล่อ ในช่วง 2Q-3Q18 ตามลำดับ ซึ่งจะหนุนยอด Pre-sales และ Backlog เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ ปัจจุบันหุ้นเทรดบน P/E 10.3 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 12.1 เท่า
Food (Restaurant): Main course first, dessert later
เราประเมินกำไรใน 1Q18 ของ M จะเติบโตโดเด่นกว่า AU โดยประเมินกำไรของ M ไว้ที่ 623 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% YoY และ 14% QoQ ในด้านของ AU เรามองกำไรไว้ที่ 32 ล้านบาท เติบโต 47% YoY แต่ลดลง 7% QoQ ซึ่งเราประเมินว่ารายได้ของทั้งคู่จะเติบโต YoY แต่ลดลง QoQ จากฐานที่สูงใน 4Q17 แต่อัตรากำไรของ M จะกลับมาอยู่ในระดับปกติหลังจากการจ่ายโบนัสพนักงานใน 4Q17 สำหรับ 2Q18 จะเป็นช่วง High season ของกลุ่ม เราคาด SSSG จะฟืนตัวต่อเนื่อง จาก seasonal menu และคาดกำไรของ AU จะกลับมาเติบโตโดดเด่นทั้ง YoY และ QoQ เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ทั้ง M (ราคาเป้าหมาย 96 บาท) และ AU (ราคาเปาหมาย 15 บาท)
TISCO: Earnings forecast upgrade
ประเด็นจากการประชุมนักวิเคราห์วานนี้ 1) การขายพอร์ตสินเชื่อให้กับ Citibank คาดจะเกิดขึ้นใน 3Q-4Q18 ซึ่งคาดจะมีกำไรบางส่วน, 2) กำไรพิเศษใน 1Q18 เกิดจากการขายสินทรัพย์บางส่วน ทำให้เราปรับประมาณการกำไรปี 2018 ขึ้น 3% มาที่ 7.1 พันล้านบาท, 3) คุณภาพสินเชื่อค่อนข้างดี มีสัดส่วน loss coverage ratio สูงถึง 204% ทำให้เรามองว่าจะมีการตั้งสำรองลดลงในอนาคต และผู้บริหารมอง Credit cost ที่ 1.1-1.2% เทียบกับประมาณการของเราที่ 1.3% ส่งผลให้มีอัพไซด์ต่อประมาณการ และ 4) เราคาดมีอัพไซด์ต่อการจ่ายเงินปันผล เนื่องจากมีสัดส่วนเงินกองทุนสูงถึง 21.6% ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่ม เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ปรับราคาเป้าหมายขึ้นจา 96 บาทเป็น 104 บาท
KTC: Big result beat; upgrade to BUY
KTC รายงานกำไรไตรมาส 1/61 ที่ 1.2 พันล้านบาท ทะยานขึ้น 65% YoY และ 29% QoQ โดยผลประกอบการออกมาดีกว่าที่เราคาด 37% และสูงกว่าที่ตลาดประเมิน 32% เนื่องจากมีการตั้งสำรองฯ น้อยกว่าประมาณการ เราคาดกำไรไตรมาส 2/61 จะเติบโตในระดับกลาง YoY หนุนโดยแนวโน้มสินเชื่อขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาสที่แล้วและแนวโน้มการตั้งสำรองฯ ลดลง จากการบริหารคุณภาพสินทรัพย์ในไตรมาส 1/61 ที่ดี กอปรกับอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสะสมต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่อยู่ในระดับสูง เราปรับลดการตั้งสำรองฯ สุทธิปี 2561 ของ KTC ลง 14% มาอยู่ที่ 3.0 พันล้านบาท ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2561 ขึ้น 14% เป็น 4.4 พันล้านบาท เราจึงปรับเพิ่มคำแนะนำสำหรับ KTC ขึ้นจาก "ถือ" เป็น "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 351 บาท (จาก 283 บาท)
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
(+) BBL KKP โอสถสภา ยื่น Filing IPO 603.75 ล้านหุ้น เข้า SET โดยมี PHATRA (KKP) และ BLS (BBL) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (ที่มา ASPEN)
(+) หุ้นนิคมฯและโลจิสติกส์ การลงทุนของกลุ่มอาลีบาบา ในพื้นที่ EEC เพื่อสนับสนุนการตลาด E-Commerce ให้ SME ไทย โดยจะมีการเซ็นบันทึกความร่วมมือ กับ ก.อุตสาหกรรม 4 ฉบับ วันนี้
(+) DDD แจ้งซื้อ ธุรกิจ เวชสำอางค์ Oxe Cure กลุ่มยารักษา สิว ที่ขายผ่าน Watson และร้านขายยา / เราคาดดีลนี้จะเพิ่มกำไรสุทธิ ปี 2018-2020 ให้ DDD ราว 3.8%, 8.7%, และ 11.6% จากเปาหมายยอดขายใน 2018-2020 ที่ 100-300-500 ลบ. โดยเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งเรายังไม่ได้รวม Upside นี้ไว้ในประมาณการณ์กำไร คาดจะเป็น Upside risk ต่อการปรับกำไรขึ้นในอนาคต
(+) SGP (ที่มา สนข.อินโฟเควสท์) นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน ได้แจ้งต่อ ปตท.ว่าไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอรับซื้อ LNG จากแหล่งโมซัมบิกเพื่อนำเข้ามาเป็นข้อตกลงของรัฐบาลในการจัดทำเป็นระบบสัญญาระยะยาว โดยเห็นว่าการนำเข้า LNG ในอนาคตควรเป็นรูปแบบแข่งขันเสรีทั้งหมด เพื่อให้ประชาชนได้ค่าไฟฟาที่ต่ำสุด จึงจะไม่มีการเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพื่อขออนุมัติแต่อย่างใด
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
OO7715
PTTEP SGP ราคาพลังงาน น้ำมันดิบ พุ่งขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลบวกต่อหุ้นพลังงานต้นน้ำที่เชื่อมโยง
DDD แจ้งซื้อ ธุรกิจ เวชสำอางค์ "Oxe Cure" กลุ่มยารักษาสิว ที่ขายผ่าน Watson และร้านขายยาทั่วไป / เราคาดดีลนี้จะเพิ่มกำไรสุทธิ ปี 2018-2020 ให้ DDD ราว 3.8%, 8.7%, และ 11.6% จากเปาหมายยอดขายใน 2018-2020 ที่ 100-300-500 ลบ. โดยเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งเรายังไม่ได้รวม Upside นี้ไว้ในประมาณการณ์กำไร คาดจะเป็น Upside risk ต่อการปรับกำไรขึ้นในอนาคต...โดยดีลการซื้อกิจการครั้งนี้ มองเป็นการส่งสัญญาณในการขยายกิจการแบบ "In-Organic" คาดจะมีดีล M&A เพิ่มเติมอีกในอนาคต
BTS BEM ลุ้นงาน O&M รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน คาดร่าง TOR ออกก่อนสิ้นเดือน เมย. (SEAFCO มีลุ้นงานเสาเข็ม)
รายงานวันนี้
ORI: Buy for 2Q18 recovery
ราคาหุ้นปรับตัวลงมาตามกลุ่มอุตสาหกรรมจากแนวโน้มกำไร 1Q18 ที่คาดอ่อนตัวลงตามปัจจัยฤดูกาล เรามองว่าปัจจัยดังกล่าวได้สะท้อนมาในราคาหุ้นแล้ว ขณะที่ใน 1Q18 นี้เราคาดบริษัทจะมีกำไรที่เติบโตสูงถึง 74%YoY อยู่ที่ 300 ล้านบาท และ 2Q18 กำไรจะดียิ่งขึ้นจากโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอนที่จะมีมากขึ้น และยังมีปัจจัยหนุนราคาหุ้นจากการเปิดตัว 2 โครงการแบรนด์ Park ได้แก่ Park พญาไท และ Park ทองหล่อ ในช่วง 2Q-3Q18 ตามลำดับ ซึ่งจะหนุนยอด Pre-sales และ Backlog เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ ปัจจุบันหุ้นเทรดบน P/E 10.3 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 12.1 เท่า
Food (Restaurant): Main course first, dessert later
เราประเมินกำไรใน 1Q18 ของ M จะเติบโตโดเด่นกว่า AU โดยประเมินกำไรของ M ไว้ที่ 623 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% YoY และ 14% QoQ ในด้านของ AU เรามองกำไรไว้ที่ 32 ล้านบาท เติบโต 47% YoY แต่ลดลง 7% QoQ ซึ่งเราประเมินว่ารายได้ของทั้งคู่จะเติบโต YoY แต่ลดลง QoQ จากฐานที่สูงใน 4Q17 แต่อัตรากำไรของ M จะกลับมาอยู่ในระดับปกติหลังจากการจ่ายโบนัสพนักงานใน 4Q17 สำหรับ 2Q18 จะเป็นช่วง High season ของกลุ่ม เราคาด SSSG จะฟืนตัวต่อเนื่อง จาก seasonal menu และคาดกำไรของ AU จะกลับมาเติบโตโดดเด่นทั้ง YoY และ QoQ เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ทั้ง M (ราคาเป้าหมาย 96 บาท) และ AU (ราคาเปาหมาย 15 บาท)
TISCO: Earnings forecast upgrade
ประเด็นจากการประชุมนักวิเคราห์วานนี้ 1) การขายพอร์ตสินเชื่อให้กับ Citibank คาดจะเกิดขึ้นใน 3Q-4Q18 ซึ่งคาดจะมีกำไรบางส่วน, 2) กำไรพิเศษใน 1Q18 เกิดจากการขายสินทรัพย์บางส่วน ทำให้เราปรับประมาณการกำไรปี 2018 ขึ้น 3% มาที่ 7.1 พันล้านบาท, 3) คุณภาพสินเชื่อค่อนข้างดี มีสัดส่วน loss coverage ratio สูงถึง 204% ทำให้เรามองว่าจะมีการตั้งสำรองลดลงในอนาคต และผู้บริหารมอง Credit cost ที่ 1.1-1.2% เทียบกับประมาณการของเราที่ 1.3% ส่งผลให้มีอัพไซด์ต่อประมาณการ และ 4) เราคาดมีอัพไซด์ต่อการจ่ายเงินปันผล เนื่องจากมีสัดส่วนเงินกองทุนสูงถึง 21.6% ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่ม เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ปรับราคาเป้าหมายขึ้นจา 96 บาทเป็น 104 บาท
KTC: Big result beat; upgrade to BUY
KTC รายงานกำไรไตรมาส 1/61 ที่ 1.2 พันล้านบาท ทะยานขึ้น 65% YoY และ 29% QoQ โดยผลประกอบการออกมาดีกว่าที่เราคาด 37% และสูงกว่าที่ตลาดประเมิน 32% เนื่องจากมีการตั้งสำรองฯ น้อยกว่าประมาณการ เราคาดกำไรไตรมาส 2/61 จะเติบโตในระดับกลาง YoY หนุนโดยแนวโน้มสินเชื่อขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาสที่แล้วและแนวโน้มการตั้งสำรองฯ ลดลง จากการบริหารคุณภาพสินทรัพย์ในไตรมาส 1/61 ที่ดี กอปรกับอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสะสมต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่อยู่ในระดับสูง เราปรับลดการตั้งสำรองฯ สุทธิปี 2561 ของ KTC ลง 14% มาอยู่ที่ 3.0 พันล้านบาท ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2561 ขึ้น 14% เป็น 4.4 พันล้านบาท เราจึงปรับเพิ่มคำแนะนำสำหรับ KTC ขึ้นจาก "ถือ" เป็น "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 351 บาท (จาก 283 บาท)
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
(+) BBL KKP โอสถสภา ยื่น Filing IPO 603.75 ล้านหุ้น เข้า SET โดยมี PHATRA (KKP) และ BLS (BBL) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (ที่มา ASPEN)
(+) หุ้นนิคมฯและโลจิสติกส์ การลงทุนของกลุ่มอาลีบาบา ในพื้นที่ EEC เพื่อสนับสนุนการตลาด E-Commerce ให้ SME ไทย โดยจะมีการเซ็นบันทึกความร่วมมือ กับ ก.อุตสาหกรรม 4 ฉบับ วันนี้
(+) DDD แจ้งซื้อ ธุรกิจ เวชสำอางค์ Oxe Cure กลุ่มยารักษา สิว ที่ขายผ่าน Watson และร้านขายยา / เราคาดดีลนี้จะเพิ่มกำไรสุทธิ ปี 2018-2020 ให้ DDD ราว 3.8%, 8.7%, และ 11.6% จากเปาหมายยอดขายใน 2018-2020 ที่ 100-300-500 ลบ. โดยเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งเรายังไม่ได้รวม Upside นี้ไว้ในประมาณการณ์กำไร คาดจะเป็น Upside risk ต่อการปรับกำไรขึ้นในอนาคต
(+) SGP (ที่มา สนข.อินโฟเควสท์) นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน ได้แจ้งต่อ ปตท.ว่าไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอรับซื้อ LNG จากแหล่งโมซัมบิกเพื่อนำเข้ามาเป็นข้อตกลงของรัฐบาลในการจัดทำเป็นระบบสัญญาระยะยาว โดยเห็นว่าการนำเข้า LNG ในอนาคตควรเป็นรูปแบบแข่งขันเสรีทั้งหมด เพื่อให้ประชาชนได้ค่าไฟฟาที่ต่ำสุด จึงจะไม่มีการเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพื่อขออนุมัติแต่อย่างใด
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
OO7715