- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 19 April 2018 17:16
- Hits: 728
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวันกลยุทธ์วันนี้ >> Energy Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET รีบาวด์ได้ตามคาดขึ้นมาปิดเหนือระดับ 1,770 จุดเล็กน้อย โดยได้อานิสงส์จากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวกมากขึ้น รวมถึงแรงซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวโดยเฉพาะ CPALL ที่ลงแรงในวันก่อนหน้า แรงขายของนักลงทุนต่างชาติบางลงเหลือเพียง 339 ลบ. ส่วนสถาบันในประเทศยังซื้อสุทธิถึง 1.7 พันลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัวแกว่งตัวในแดนบวกได้ต่อเนื่องนำโดยกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นแรงกว่า 3% แตะระดับสุงสุดในรอบ 3 ปีครึ่งหลังสต๊อกน้ำมันดิบปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตามวันนี้ต้องติดตามการประกาศกำไรของกลุ่มธนาคาร 7 แห่ง ขณะที่กลุ่มสื่อสารฯต้องจับตาดูสนช.ลงมติเลือก กสทช.ชุดใหม่ ทำให้เรามองว่ากรอบการบวกคาดว่าจะไม่กว้างนัก ระยะสั้นกลุ่มพลังงานโดยเฉพาะต้นน้ำน่าจะเป็นเป้าถูกเก็งกำไรและ Outperform ตลาด
กลยุทธ์ : เก็งกำไรระยะสั้นในกลุ่มพลังงาน ส่วนระยะกลาง-ยาวยังเน้นลงทุนในหุ้น Domestic
หุ้นเด่นเดือน เม.ย. : BDMS, CPN, ERW, KBANK, SYNEX
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$166ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$226ล้าน ขณะที่ไหลออกจากไต้หวัน US$39ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$11ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐและรัสเซียที่เพิ่มขึ้น
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> AMATA <<
แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 30 บาท
แม้ราคาหุ้นจะเริ่มฟื้นกลับมาแล้ว แต่ PE2018 ยังต่ำเพียง 13 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลังที่ 16 เท่า
คาดกำไรปี 2018 โต 22% Y-Y อยู่ที่ 1.7 พันลบ. และโตต่อเนื่อง 15% Y-Y อยู่ที่ 2 พันลบ. ในปี 2019 โดยคาดว่ายอดขายที่ดินจะเร่งตัวใน 2H18 เมื่อ พรบ. EEC เริ่มบังคับใช้ ขณะที่ รายได้จากไฟฟ้าและปะปาที่เป็น Recurring income ปีนี้จะโตไม่น้อยกว่า 10% Y-Y จากทั้งการได้ลูกค้าใหม่ การปรับค่าบริการขึ้น และการ COD โรงไฟฟ้าเพิ่ม
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) TISCO การประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ ผู้บริหารกล่าวเพิ่มเติมถึงรายการรายรับและค่าใช้จ่ายพิเศษที่จะเกิดขึ้นในคราวเดียวใน 1Q18 และไม่น่าเกิดซ้ำใน 2Q18 โดยรวมแล้วทำให้เป็นบวกต่อประมาณการกำไร 2Q18 เราคาดแนวโน้มกำไร 2Q18 จะเพิ่มขึ้นราว 4%Q-Q มาอยู่ที่ 1.84 พันลบ. (+22%Y-Y) ซึ่งเป็นจุดสูงสุดใหม่ คงประมาณการกำไรปี 2018 ที่ 7.18 พันลบ. +18%Y-Y กำไรที่เพิ่มขึ้นมาจากการตั้งสำรองหนี้สูญที่ลดลง และรายได้เพิ่มขึ้นจากพอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ซื้อจาก SCBT เต็มปี คงราคาเหมาะสมเป็น 98 บาท คงคำแนะนำถือ เพราะ Upside ที่น้อยลง
(+) CENTEL เราคาดกำไรปกติ 1Q18 +88% Q-Q, +10% Y-Y อยู่ที่ 830 ลบ. และเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีจากอานิสงส์ของ Peak Season โดยธุรกิจโรงแรมจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตของกำไรในปีนี้จากภาวะอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งและเริ่มมีการลงทุนใหม่ๆเข้ามาหนุน ขณะที่ธุรกิจอาหารจะค่อยๆฟื้นตัวตามการบริโภคในประเทศ เรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2018 โต 19% Y-Y อยู่ที่ 2.3 พันลบ. ราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside ไม่กว้างนัก แต่จากโมเมนตัมของกำไรที่ดี จึงแนะนำซื้อเก็งกำไร ราคาเหมาะสมที่ 54 บาท
(+) M คาดกำไรสุทธิ 1Q18 อยู่ที่ 603 ลบ. (+10.4% Q-Q, +9% Y-Y) จากการทั้งเติบโตของยอดขายสาขาเดิมของร้าน MK และ Yayoi รวมถึงการเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่อง และคาดยังรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับสูงใกล้เคียงไตรมาสก่อน แนวโน้มกำไรจะดีขึ้นต่อใน 2Q18 เพราะเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดยาว และคาดกำไรจะดีจนอาจเป็นจุดสูงสุดของปีใน 4Q18 ซึ่งเป็น High Season ของธุรกิจ เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2018 +16% Y-Y และคงราคาเป้าหมายที่ 90 บาท แนะนำซื้อ
(+) IT เรายังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2018 เท่ากับ 6.90 บาท โดยระยะสั้นมีปัจจัยหนุนจากผลประกอบการ 1Q18 ที่คาด +9% Q-Q และ +145% Y-Y อยู่ที่ 15 ลบ. จากการเติบโตเร็วของตลาดเกมมิ่ง และการเพิ่มสินค้าอัตรากำไรสูง รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายได้มีประสิทธิภาพ ส่วนแนวโน้มทั้งปีนี้ เรายังคาดกำไรสุทธิ Turnaround +33% Y-Y อยู่ที่ 84 ลบ. เพราะแผนการเพิ่มอัตรากำไรทั้งการเพิ่มสินค้าใหม่ และการควบคุมค่าใช้จ่ายจะเห็นผลเต็มปี ราคาปัจจุบันแม้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาแล้ว แต่ PE2018 และ PEG ยังต่ำเพียง 15 เท่า และ 0.5 เท่า อีกทั้ง ราคายังใกล้เคียงมูลค่าทางบัญชี และความเสี่ยงทางธุรกิจที่วัดจาก Cash Cycle ยังต่ำสุดในกลุ่มซื้อขายสินค้าไอทีด้วย
(+) RSP คาดกำไรสุทธิ 1Q18 อยู่ที่ 63 ลบ. (+8.6% Q-Q, -21.3% Y-Y) โดยคาดอัตรากำไรขั้นต้นอาจขยับขึ้นได้เล็กน้อย จากผลบวกของ Product Mix และอานิสงส์ค่าเงินบาทแข็งค่า ช่วยหักล้างผลลบจากต้นทุนการนำเข้าที่สูงกว่าการผลิตเองได้ทั้งหมด และคาดกำไรจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 2H18 นอกจากการฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศแล้ว คาดเห็นรายได้ในกัมพูชาทยอยเพิ่มขึ้นจนบรรลุเป้าหมายที่ราว 100 ล้านบาทในปีนี้ได้ เรายังคาดกำไรสุทธิปี 2018 +19.5% Y-Y โดยมี Upside จากแผนเข้าซื้อกิจการอย่างน้อย 1 ดีล ยังคงราคาเป้าหมาย 8.4 บาท แนะนำซื้อ (FSS เป็นแกนนำการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ RSP)
(0) TISCO การประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ ผู้บริหารกล่าวเพิ่มเติมถึงรายการรายรับและค่าใช้จ่ายพิเศษที่จะเกิดขึ้นในคราวเดียวใน 1Q18 และไม่น่าเกิดซ้ำใน 2Q18 โดยรวมแล้วทำให้เป็นบวกต่อประมาณการกำไร 2Q18 เราคาดแนวโน้มกำไร 2Q18 จะเพิ่มขึ้นราว 4%Q-Q มาอยู่ที่ 1.84 พันลบ. (+22%Y-Y) ซึ่งเป็นจุดสูงสุดใหม่ คงประมาณการกำไรปี 2018 ที่ 7.18 พันลบ. +18%Y-Y กำไรที่เพิ่มขึ้นมาจากการตั้งสำรองหนี้สูญที่ลดลง และรายได้เพิ่มขึ้นจากพอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ซื้อจาก SCBT เต็มปี คงราคาเหมาะสมเป็น 98 บาท คงคำแนะนำถือ เพราะ Upside ที่น้อยลง
(+) CENTEL เราคาดกำไรปกติ 1Q18 +88% Q-Q, +10% Y-Y อยู่ที่ 830 ลบ. และเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีจากอานิสงส์ของ Peak Season โดยธุรกิจโรงแรมจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตของกำไรในปีนี้จากภาวะอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งและเริ่มมีการลงทุนใหม่ๆเข้ามาหนุน ขณะที่ธุรกิจอาหารจะค่อยๆฟื้นตัวตามการบริโภคในประเทศ เรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2018 โต 19% Y-Y อยู่ที่ 2.3 พันลบ. ราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside ไม่กว้างนัก แต่จากโมเมนตัมของกำไรที่ดี จึงแนะนำซื้อเก็งกำไร ราคาเหมาะสมที่ 54 บาท
(+) M คาดกำไรสุทธิ 1Q18 อยู่ที่ 603 ลบ. (+10.4% Q-Q, +9% Y-Y) จากการทั้งเติบโตของยอดขายสาขาเดิมของร้าน MK และ Yayoi รวมถึงการเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่อง และคาดยังรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับสูงใกล้เคียงไตรมาสก่อน แนวโน้มกำไรจะดีขึ้นต่อใน 2Q18 เพราะเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดยาว และคาดกำไรจะดีจนอาจเป็นจุดสูงสุดของปีใน 4Q18 ซึ่งเป็น High Season ของธุรกิจ เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2018 +16% Y-Y และคงราคาเป้าหมายที่ 90 บาท แนะนำซื้อ
(+) IT เรายังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2018 เท่ากับ 6.90 บาท โดยระยะสั้นมีปัจจัยหนุนจากผลประกอบการ 1Q18 ที่คาด +9% Q-Q และ +145% Y-Y อยู่ที่ 15 ลบ. จากการเติบโตเร็วของตลาดเกมมิ่ง และการเพิ่มสินค้าอัตรากำไรสูง รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายได้มีประสิทธิภาพ ส่วนแนวโน้มทั้งปีนี้ เรายังคาดกำไรสุทธิ Turnaround +33% Y-Y อยู่ที่ 84 ลบ. เพราะแผนการเพิ่มอัตรากำไรทั้งการเพิ่มสินค้าใหม่ และการควบคุมค่าใช้จ่ายจะเห็นผลเต็มปี ราคาปัจจุบันแม้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาแล้ว แต่ PE2018 และ PEG ยังต่ำเพียง 15 เท่า และ 0.5 เท่า อีกทั้ง ราคายังใกล้เคียงมูลค่าทางบัญชี และความเสี่ยงทางธุรกิจที่วัดจาก Cash Cycle ยังต่ำสุดในกลุ่มซื้อขายสินค้าไอทีด้วย
(+) RSP คาดกำไรสุทธิ 1Q18 อยู่ที่ 63 ลบ. (+8.6% Q-Q, -21.3% Y-Y) โดยคาดอัตรากำไรขั้นต้นอาจขยับขึ้นได้เล็กน้อย จากผลบวกของ Product Mix และอานิสงส์ค่าเงินบาทแข็งค่า ช่วยหักล้างผลลบจากต้นทุนการนำเข้าที่สูงกว่าการผลิตเองได้ทั้งหมด และคาดกำไรจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 2H18 นอกจากการฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศแล้ว คาดเห็นรายได้ในกัมพูชาทยอยเพิ่มขึ้นจนบรรลุเป้าหมายที่ราว 100 ล้านบาทในปีนี้ได้ เรายังคาดกำไรสุทธิปี 2018 +19.5% Y-Y โดยมี Upside จากแผนเข้าซื้อกิจการอย่างน้อย 1 ดีล ยังคงราคาเป้าหมาย 8.4 บาท แนะนำซื้อ (FSS เป็นแกนนำการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ RSP)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
17-27 เม.ย.- ไทย: ผลประกอบการ 1Q18 ของกลุ่มแบงก์
19 เม.ย.- ไทย: สนช. ลงมติเลือก กสทช. ชุดใหม่
20 เม.ย.- ไทย: กบง. พิจารณาสูตรราคาน้ำมันใหม่
- ญี่ปุ่น: อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)
23 เม.ย.- ไทย: ดุลการค้า (มี.ค.)
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐปิดผสมผสาน แม้ว่าจะมีข่าวดีจากการนัดเจรจาระหว่างปธ.ทรัมป์ และ คิม จอง อึน แต่ก็ถูกหักล้างด้วยแรงกดดันจาก Yield Curve ของสหรัฐที่อาจจะกลับหัวลง (Inverted) ใน 6 เดือนหน้า
(+) บรรยากาศในตลาดหุ้นยุโรปยังคงสดใส หลังคลายความกังวลเรื่องข้อพิพาทระหว่างสหรัฐ ซีเรีย และ รัสเซีย
(+) ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดบวก หลังการเข้าเจรจาข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังคงต้องจับตาดูตัวเลขการจ้างงานในออสเตรเลียและการกำหนดนโยบายอัตราดอกเบี้ยของอินโดนีเซีย
() ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอีกเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินบาท ล่าสุดยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.20-31.25 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 1.95 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 68.47 ดอลลาร์/บาเรลล์ สูงสุดในรอบ 3 ปีหลังตัวเลขสต็อคน้ำมันดิบในสหรัฐปรับลดลงกว่า 1 ล้านบาเรลล์
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 4.00 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1,353.50 ดอลลาร์/ออนซ์
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB : FINNANSIA SYRUS SECURITIES LINE : @fnsyrus
OO7705
17-27 เม.ย.- ไทย: ผลประกอบการ 1Q18 ของกลุ่มแบงก์
19 เม.ย.- ไทย: สนช. ลงมติเลือก กสทช. ชุดใหม่
20 เม.ย.- ไทย: กบง. พิจารณาสูตรราคาน้ำมันใหม่
- ญี่ปุ่น: อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)
23 เม.ย.- ไทย: ดุลการค้า (มี.ค.)
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐปิดผสมผสาน แม้ว่าจะมีข่าวดีจากการนัดเจรจาระหว่างปธ.ทรัมป์ และ คิม จอง อึน แต่ก็ถูกหักล้างด้วยแรงกดดันจาก Yield Curve ของสหรัฐที่อาจจะกลับหัวลง (Inverted) ใน 6 เดือนหน้า
(+) บรรยากาศในตลาดหุ้นยุโรปยังคงสดใส หลังคลายความกังวลเรื่องข้อพิพาทระหว่างสหรัฐ ซีเรีย และ รัสเซีย
(+) ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดบวก หลังการเข้าเจรจาข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังคงต้องจับตาดูตัวเลขการจ้างงานในออสเตรเลียและการกำหนดนโยบายอัตราดอกเบี้ยของอินโดนีเซีย
() ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอีกเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินบาท ล่าสุดยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.20-31.25 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 1.95 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 68.47 ดอลลาร์/บาเรลล์ สูงสุดในรอบ 3 ปีหลังตัวเลขสต็อคน้ำมันดิบในสหรัฐปรับลดลงกว่า 1 ล้านบาเรลล์
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 4.00 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1,353.50 ดอลลาร์/ออนซ์
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB : FINNANSIA SYRUS SECURITIES LINE : @fnsyrus
OO7705
