- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 18 April 2018 19:40
- Hits: 1174
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Stay on Defensive and Domestic Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET อ่อนตัวลงตามคาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงบ่ายตามตลาดหุ้นเอเชีย รวมถึงลบชดเชยในช่วงปิดเทศกาลสงกรานต์ นอกจากนี้ยังมีประเด็นกดดันเข้ามากระทบหุ้นในกลุ่มสื่อสาร รวมถึงแรงขายในตัว CPALL แรงขายส่วนใหญ่มาจากนักลงทุนต่างชาติกว่า 3.8 พันลบ. ส่วนสถาบันในประเทศและรายย่อยเป็นฝ่ายซื้อสุทธิ 2.2 พันลบ.และ 1.8 พันลบ. ตามลำดับ
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะรีบาวด์ขึ้นทดสอบระดับ 1,760-1,770 จุดได้จากบรรยากาศการลงทุนที่สดใสขึ้นจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง และความกังวลประเด็นซีเรียที่เริ่มผ่อนคลายลงบ้าง ขณะที่ฝั่งบ้านเราตลอดสัปดาห์นี้ต้องติดตามผลประกอบการกลุ่มธนาคาร โดยวานนี้เริ่มประกาศวันแรกซึ่ง TISCO ถือว่าทำได้ดีตามคาด อย่างไรก็ตามจากปัจจัยความเสี่ยงของโลกที่ยังมีทั้งเรื่องการค้าและการเมือง เราจึงเน้นการลงทุนในกลุ่ม Domestic น่าจะปลอดภัยมากกว่าโดยอิงจาก GDP ของประเทศที่โตในอัตราเร่ง
กลยุทธ์ : ยังเน้นลงทุนในกลุ่ม Domestic และ Defensive Play
หุ้นเด่นเดือน เม.ย. : BDMS, CPN, ERW, KBANK, SYNEX
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$788ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$341ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$122ล้าน ไม่มีประเทศใดที่มีเม็ดเงินไหลเข้า แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคแต่อาจชะลอตัวลงเพราะอยู่ในระหว่างการประกาศผลประกอบการของหลายประเทศ
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> ADVANC <<
แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 220 บาท
คาดกำไรปกติ 1Q18 ที่ 7.9 พันลบ. +3% Q-Q, +5% Y-Y ซึ่งเป็นการโตแบบ Y-Y เป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน จากรายได้ที่โตเพราะ ARPU ยังขึ้น และได้ผลดีจากการรวม CSL รวมถึงค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่ลดลงตามฤดูกาล ส่วนกำไรทั้งปี 2018 คาดโตครั้งแรกในรอบ 3 ปี 8% Y-Y อยู่ที่ 3.3 หมื่นลบ.
ยอด Short Sales ลดลงเหลือเพียง 5 หมื่นหุ้นต่อวัน จากค่าเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีที่ 1.3 แสนหุ้นต่อวัน ถือเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกระยะสั้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) TISCO กำไร 1Q18 เป็นไปตามคาดที่ 1.77 พันลบ. +16% Q-Q,
+19% Y-Y รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยแข็งแกร่งเกินคาด เนื่องจากกำไรจากเงินลงทุนและรายได้ค่าธรรมเนียม ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยเติบโตจากทั้งธุรกิจเดิมและพอร์ตใหม่ที่รับโอนมา ส่วนสินเชื่อชะลอตัวจากการจ่ายคืนของสินเชื่อเช่าซื้อ แต่สังเกตว่าสินเชื่อรถแลกเงินมีการเติบโตที่โดดเด่นขึ้น ขณะที่ NPL ทรงตัวและ Coverage ratio แข็งแกร่งเกิน 200% ราคาหุ้นมี upside ที่แคบลง เราจึงปรับคำแนะนำจากซื้อเก็งกำไรเป็นถือ คงราคาเหมาะสมที่ 98 บาท (ปันผล 5 บาทต่อหุ้น XD 27 เมย)
(+) PTTEP คาดกำไรสุทธิ 1Q18 อยู่ที่ 1.2 หมื่นลบ. +23% Q-Q, +4% Y-Y จากราคาขายที่เพิ่มสูงขึ้น และเงินบาทที่แข็งค่า ส่วนแนวโน้มปี 2018-2019 คาด EBITDA +11% Y-Y และ +9% Y-Y ตามลำดับ จากราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวในระดับสูง และปริมาณขายที่จะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 2H18 จากการเพิ่มสัดส่วนในแหล่งบงกชอีก 22.22% เป็น 66.67% อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ราคาหุ้นปรับขึ้นจนแทบไม่เหลือ Upside เมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายที่ 123 บาท จึงแนะนำเพียงซื้อเก็งกำไร โดยมี Upside จากการประมูลสัมปทานรอบใหม่ที่จะเปิด TOR ปลาย เม.ย. นี้ ซึ่งถ้าชนะ จะเพิ่มมูลค่าราว 25 บาท/หุ้น
(+) CPALL คาดกำไรสุทธิ 1Q18 +3% Q-Q, +19%Y-Y อยู่ที่ 5.7 พันลบ. จาก SSSG ร้าน 7-11 ที่คาดบวกได้อีกราว 3.5% Y-Y และมีการเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่อง ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นและสัดส่วนค่าใช้จ่ายทรงตัวอยู่ในระดับที่ดี และมีอัตราภาษีจ่ายลดลงจากค่าใช้จ่ายที่นำมาลดหย่อนภาษีได้มากขึ้น แนวโน้มกำไรน่าจะทำได้ดีต่อเนื่องใน 2Q18 และเติบโตโดดเด่นใน 2H18 ที่เป็น High Season และมีการทำ Stamp Promotion เป็นประจำทุกปี เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2018 เติบโต 23% Y-Y เป็น 2.4 หมื่นลบ. และคงราคาเป้าหมายที่ 98 บาท แนะนำซื้อลงทุน
(+) MINT แนวโน้มกำไรปกติ 1Q18 คาดว่าจะ +16% Q-Q จากอานิสงส์ของ Peak Season แต่ -3% Y-Y จากฐานรายได้ของธุรกิจอสังหาฯที่สูงมากในปีก่อน ซึ่งแม้ธุรกิจโรงแรมจะเติบโตได้โดดเด่น แต่อาจชดเชยได้ไม่ทั้งหมด ส่วนธุรกิจอาหารดูฟื้นตัวช้ากว่าที่ประเมิน ทำให้ประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2018 ที่คาดโต 20% Y-Y อาจมี Downside เล็กน้อย อย่างไรก็ตามราคาหุ้นปรับตัวลงค่อนข้างมากจากช่วงต้นปี ทำให้ Upside ยังค่อนข้างเปิดกว้าง เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ ราคาเหมาะสมที่ 48 บาท
(+) ROBINS แนวโน้มกำไร 1Q18 จะเติบโตได้ดี Y-Y แต่จะลดลงในแง่ Q-Q ตามฤดูกาล โดยคาดหวัง SSSG ฟื้นเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส สิ่งที่ดีในไตรมาสนี้ เราน่าจะได้เห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอัตรากำไรขั้นต้น จากความสำเร็จในการเพิ่มสัดส่วนสินค้า House Brand รวมถึงการเติบโตของรายได้ค่าเช่า แนวโน้มกำไรน่าจะโตต่อเนื่องใน 2Q18 และจะกลับมาดีอีกครั้งจนเป็นกำไรสูงสุดของปีนี้ใน 4Q18 เรายังคาดกำไรสุทธิปี 2018 +13.5% Y-Y และคงราคาเป้าหมายที่ 78 บาท แนะนำซื้อ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
17-27 เม.ย.- ไทย: ผลประกอบการ 1Q18 ของกลุ่มแบงก์
18 เม.ย.- สหรัฐฯ: Fed Beige Book
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)
19 เม.ย.- ไทย: สนช. ลงมติเลือก กสทช. ชุดใหม่
20 เม.ย.-ไทย: กบง. พิจารณาสูตรราคาน้ำมันใหม่
- ญี่ปุ่น: อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)
23 เม.ย.- ไทย: ดุลการค้า (มี.ค.)
(+) ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนสหรัฐที่คาดว่าจะออกมามากกว่าที่ตลาดคาดไว้ช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวดีขึ้น รวมไปถึงการโจมตีในซีเรียไม่ได้นำไปสู่การเผชิญหน้ากับทางรัสเซียอย่างที่กังวลกัน
(+) ตลาดยุโรปได้รับโมเมนตัมในเชิงบวกจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนสหรัฐ นอกจากนี้ค่าเงินที่อ่อนค่าลง เป็นปัจจัยบวกระยะสั้นต่อภาคการส่งออกของยุโรป
(+) ภาพรวมในตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ดูสดใส หลังตัวเลข GDP ของจีนออกมาใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดไว้ นอกจากนี้ยังมีข่าวดีหลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าเริ่มมีการพูดคุยกับทางเกาหลีเหนือบ้างแล้ว
() ดอลลาร์สหรัฐเริ่มกลับมาแข็งค่าหลังผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดี ทำให้ล่าสุดค่าเงินเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.20-31.25 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 0.30 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 66.52 ดอลลาร์/ออนซ์ จากปัจจัยความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 1.20 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1,349.50 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังความกังวลในซีเรียได้บรรเทาลง
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB : FINNANSIA SYRUS SECURITIES LINE : @fnsyrus
OO7635