- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 17 April 2018 17:59
- Hits: 2527
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Stay on Defensive and Domestic Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET เคลื่อนไหวในกรอบแคบด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง ก่อนเข้าสู่ช่วงหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ กลุ่มนำตลาดเป็นพลังงาน ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง และแรงเก็งกำไรใน PTT ก่อนแตกพาร์ ส่วนกลุ่มที่ฉุดตลาดกลายเป็นแบงก์ ค้าปลีก และท่องเที่ยวที่ปรับขึ้นดีตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ขณะที่นักลงทุนต่างขาติขายสุทธิ 1.5 พันลบ. แต่ Long Hedge ใน Index Futures 2,525 สัญญา
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะอ่อนตัวลงในช่วงแรกโดยอิงจากตลาดหุ้นเพื่อนบ้านที่ปรับตัวลงในช่วงที่บ้านเราปิดทำการ รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ขยับลง อย่างไรก็ตามเชื่อว่ากรอบการลบจะไม่กว้างนักและมีโอกาสเห็นการฟื้นตัวระหว่างวัน โดยประเมินว่าผลกระทบเชิงลบจากประเด็นโจมตีซีเรียจะจำกัดเนื่องจากไม่ได้ทำให้เกิดการเผชิญหน้ระหว่างสหรัฐฯและรัสเซียตามที่กังวล อย่างไรก็ตามจากปัจจัยต่างประเทศที่ยังมีความไม่แน่นอนเราจึงยังมองว่าหุ้นในกลุ่ม Domestic และ Defensive ยังน่าจะเคลื่อนไหวได้แข็งแกร่งกว่าตลาด
กลยุทธ์ : ยังเน้น Defensive และ Domestic Play
หุ้นเด่นเดือน เม.ย. : BDMS, CPN, ERW, KBANK, SYNEX
Fund Flow ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$227ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$346ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$48ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$322ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคติดตามสถานการณ์ในซีเรียที่ล่าสุดยังมีการโจมตีแต่ลดความตึงเครียดลง
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> TISCO <<
แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 98 บาท
ประกาศจ่ายปันผลมากถึง 5 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทน 5.5% ขึ้น XD วันที่ 27 เม.ย. 18
ได้รับผลกระทบจากฟรีค่าธรรมเนียมน้อยสุดในกลุ่ม
คาดกำไร 1Q18 โตทั้ง Q-Q และ Y-Y จากการรับรู้รายได้ SCBT ส่วนทั้งปี 2018 คาด +18% Y-Y เป็น 7.18 พันลบ. จาก (1) คาดการณ์การตั้งสำรองฯที่ลดลง เพราะ Coverage ratio สูงถึง 197% เพียงพอต่อคุณภาพหนี้ปัจจุบันและ IFRS 9 (2) รับรู้รายได้จากพอร์ตสินเชื่อจาก SCBT เต็มปีเป็นปีแรก
กลยุทธ์วันนี้ >> Stay on Defensive and Domestic Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET เคลื่อนไหวในกรอบแคบด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง ก่อนเข้าสู่ช่วงหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ กลุ่มนำตลาดเป็นพลังงาน ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง และแรงเก็งกำไรใน PTT ก่อนแตกพาร์ ส่วนกลุ่มที่ฉุดตลาดกลายเป็นแบงก์ ค้าปลีก และท่องเที่ยวที่ปรับขึ้นดีตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ขณะที่นักลงทุนต่างขาติขายสุทธิ 1.5 พันลบ. แต่ Long Hedge ใน Index Futures 2,525 สัญญา
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะอ่อนตัวลงในช่วงแรกโดยอิงจากตลาดหุ้นเพื่อนบ้านที่ปรับตัวลงในช่วงที่บ้านเราปิดทำการ รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ขยับลง อย่างไรก็ตามเชื่อว่ากรอบการลบจะไม่กว้างนักและมีโอกาสเห็นการฟื้นตัวระหว่างวัน โดยประเมินว่าผลกระทบเชิงลบจากประเด็นโจมตีซีเรียจะจำกัดเนื่องจากไม่ได้ทำให้เกิดการเผชิญหน้ระหว่างสหรัฐฯและรัสเซียตามที่กังวล อย่างไรก็ตามจากปัจจัยต่างประเทศที่ยังมีความไม่แน่นอนเราจึงยังมองว่าหุ้นในกลุ่ม Domestic และ Defensive ยังน่าจะเคลื่อนไหวได้แข็งแกร่งกว่าตลาด
กลยุทธ์ : ยังเน้น Defensive และ Domestic Play
หุ้นเด่นเดือน เม.ย. : BDMS, CPN, ERW, KBANK, SYNEX
Fund Flow ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$227ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$346ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$48ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$322ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคติดตามสถานการณ์ในซีเรียที่ล่าสุดยังมีการโจมตีแต่ลดความตึงเครียดลง
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> TISCO <<
แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 98 บาท
ประกาศจ่ายปันผลมากถึง 5 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทน 5.5% ขึ้น XD วันที่ 27 เม.ย. 18
ได้รับผลกระทบจากฟรีค่าธรรมเนียมน้อยสุดในกลุ่ม
คาดกำไร 1Q18 โตทั้ง Q-Q และ Y-Y จากการรับรู้รายได้ SCBT ส่วนทั้งปี 2018 คาด +18% Y-Y เป็น 7.18 พันลบ. จาก (1) คาดการณ์การตั้งสำรองฯที่ลดลง เพราะ Coverage ratio สูงถึง 197% เพียงพอต่อคุณภาพหนี้ปัจจุบันและ IFRS 9 (2) รับรู้รายได้จากพอร์ตสินเชื่อจาก SCBT เต็มปีเป็นปีแรก
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) คาดผลกระทบสหรัฐฯโจมตีซีเรียจำกัด เพราะประธานาธิบดีสหรัฐฯได้ส่งสัญญาณโจมตีไปแล้วล่วงหน้า และตลาดหุ้นสหรัฐฯก็ปรับฐานมาแล้วพอควร อีกทั้ง กรอบการโจมตีค่อนข้างจำกัดและไม่แตะต้องทรัพย์สินของรัสเซีย จึงไม่น่าจะยืดเยื้อ และเมื่อเทียบกับเหตุการณ์สั่งโจมตีซีเรียครั้งก่อนเมื่อ 7 เม.ย. 17 ทองคำและน้ำมันดิบขึ้นราว 1% ค่าเงินรูเบิ้ลอ่อนค่ามากสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทยที่แทบไม่ได้รับผลกระทบ น้ำหนักกำหนดทิศทางตลาดทั่วโลกจึงอยู่ที่ผลประกอบการ 1Q18 ของ บจ. มากกว่า
(+) SET มักปรับตัวขึ้นได้ดีหลังสงกรานต์ สถิติ 5 ปีย้อนหลังบ่งชี้ว่า SET มักปรับตัวขึ้นได้ดีราว 1-2% ในช่วง 5 วันทำการหลังสงกรานต์ กลุ่มที่เคลื่อนไหวดีกว่า SET คือ แบงก์ โรงพยาบาล ท่องเที่ยว ขณะที่ ยอดซื้อขายของต่างชาติเป็นบวกเฉลี่ย 2.8 พันลบ. ในส่วนของแนวโน้มปี 2018 รูปแบบการเคลื่อนไหวคล้ายปี 2016 ซึ่งเป็นปีที่ SETขึ้นหลังสงกรานต์ 1.8%
(+) คาดการณ์ผลประกอบการ 1Q18 ของกลุ่มแบงก์ เราคาดกำไร 1Q18 ของกลุ่มแบงก์ยังไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับลดค่าธรรมเนียม โดยคาดกำไรทั้งกลุ่มที่ 5 หมื่นลบ. +22% Q-Q จากการตั้งสำรองที่ลดลงทั้ง General Provision และ IFRS 9 แต่คาด -2.5% Y-Y จากแรงกดดันของ CoF ที่สูงขึ้น และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มตามการลงทุนด้านไอที โดยธนาคารที่คาดว่าจะมีกำไรโตทั้ง Q-Q และ Y-Y คือ BBL KBANK BAY TMB และ TISCO
(+) เม็ดเงินโฆษณาเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้น 23% M-M แต่ลดลง 7% Y-Y ตามสื่อ TV Analog (ส่วนแบ่ง 37%) ที่เพิ่มมาก 32% M-M แต่ยังลดลง 16% Y-Y ขณะที่ช่องทีวีดิจิตอล (ส่วนแบ่ง 26%) เพิ่ม 30% M-M, 28% Y-Y ตามการใช้จ่ายโฆษณาที่กลับมาเข้าช่วง High season รวม 1Q18 เม็ดเงินโฆษณายังลดลง 7% Y-Y โดยสื่อ TV Analog ที่กลับมาเพิ่มมาก M-M เพราะละครบุพเพสันนิวาส แต่ทั้งไตรมาส 1Q18 ยังลดลง 16% Y-Y ขณะที่ช่องทีวีดิจิตอลเพิ่ม 28% Y-Y และสื่อ Outdoor เพิ่ม 9% Y-Y คงมองแนวโน้มผลประกอบการรวมกลุ่ม Media ใน 1Q18 เพิ่มขึ้น Q-Q จากฐานต่ำไตรมาสก่อน แต่อ่อนลง Y-Y Top-pick ในกลุ่ม คือ RS (TP 35) ตามด้วย PLANB (TP 7.10) ส่วน BEC (TP 10.50) และ WORK (TP 98) แนะนำเพียงถือ และแนะนำขาย VGI (TP 6.80)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
17-27 เม.ย.- ไทย: ผลประกอบการ 1Q18 ของกลุ่มแบงก์
16 เม.ย.- สหรัฐฯ: ยอดค้าปลีก (มี.ค.)
17 เม.ย.- จีน: 1Q18 GDP
- สหรัฐฯ: ยอดอนุญาติก่อสร้าง และยอดสร้างบ้านใหม่ (มี.ค.)
18 เม.ย.- สหรัฐฯ: Fed Beige Book
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)
20 เม.ย.- ไทย: กบง. พิจารณาโครงสร้างราคาพลังงาน
- ญี่ปุ่น: อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)
23 เม.ย.- ไทย: ดุลการค้า (มี.ค.)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นตัวขึ้นหลังสถานการณ์การโจมตีในประเทศซีเรียคลี่คลายลง ในขณะที่ตลาดคาดว่าผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐจะออกมาในเชิงบวก
(-) ตลาดยุโรปปรับตัวลง หลังความกังวลในเรื่องความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและรัสเซีย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกำไรบริษัทจดทะเบียนยุโรปที่ไปลงทุนในรัสเซีย
(0) ตลาดเอเชีย เช้านี้เปิดตัวผสมผสานหลังนักลงทุนกังวลเรื่องความไม่แน่นอนทางการเมืองในญี่ปุ่น และตัวเลข GDP ของประเทศจีนที่จะประกาศในวันนี้
() ดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.10-31.20 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. ปรับตัวลง 1.17 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 66.22 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังสถานการณ์ในซีเรียเริ่มคลี่คลายลง
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปรับตัวขึ้น 2.80 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1,350.70 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB : FINNANSIA SYRUS SECURITIES LINE : @fnsyrus
OO7554
(0) คาดผลกระทบสหรัฐฯโจมตีซีเรียจำกัด เพราะประธานาธิบดีสหรัฐฯได้ส่งสัญญาณโจมตีไปแล้วล่วงหน้า และตลาดหุ้นสหรัฐฯก็ปรับฐานมาแล้วพอควร อีกทั้ง กรอบการโจมตีค่อนข้างจำกัดและไม่แตะต้องทรัพย์สินของรัสเซีย จึงไม่น่าจะยืดเยื้อ และเมื่อเทียบกับเหตุการณ์สั่งโจมตีซีเรียครั้งก่อนเมื่อ 7 เม.ย. 17 ทองคำและน้ำมันดิบขึ้นราว 1% ค่าเงินรูเบิ้ลอ่อนค่ามากสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทยที่แทบไม่ได้รับผลกระทบ น้ำหนักกำหนดทิศทางตลาดทั่วโลกจึงอยู่ที่ผลประกอบการ 1Q18 ของ บจ. มากกว่า
(+) SET มักปรับตัวขึ้นได้ดีหลังสงกรานต์ สถิติ 5 ปีย้อนหลังบ่งชี้ว่า SET มักปรับตัวขึ้นได้ดีราว 1-2% ในช่วง 5 วันทำการหลังสงกรานต์ กลุ่มที่เคลื่อนไหวดีกว่า SET คือ แบงก์ โรงพยาบาล ท่องเที่ยว ขณะที่ ยอดซื้อขายของต่างชาติเป็นบวกเฉลี่ย 2.8 พันลบ. ในส่วนของแนวโน้มปี 2018 รูปแบบการเคลื่อนไหวคล้ายปี 2016 ซึ่งเป็นปีที่ SETขึ้นหลังสงกรานต์ 1.8%
(+) คาดการณ์ผลประกอบการ 1Q18 ของกลุ่มแบงก์ เราคาดกำไร 1Q18 ของกลุ่มแบงก์ยังไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับลดค่าธรรมเนียม โดยคาดกำไรทั้งกลุ่มที่ 5 หมื่นลบ. +22% Q-Q จากการตั้งสำรองที่ลดลงทั้ง General Provision และ IFRS 9 แต่คาด -2.5% Y-Y จากแรงกดดันของ CoF ที่สูงขึ้น และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มตามการลงทุนด้านไอที โดยธนาคารที่คาดว่าจะมีกำไรโตทั้ง Q-Q และ Y-Y คือ BBL KBANK BAY TMB และ TISCO
(+) เม็ดเงินโฆษณาเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้น 23% M-M แต่ลดลง 7% Y-Y ตามสื่อ TV Analog (ส่วนแบ่ง 37%) ที่เพิ่มมาก 32% M-M แต่ยังลดลง 16% Y-Y ขณะที่ช่องทีวีดิจิตอล (ส่วนแบ่ง 26%) เพิ่ม 30% M-M, 28% Y-Y ตามการใช้จ่ายโฆษณาที่กลับมาเข้าช่วง High season รวม 1Q18 เม็ดเงินโฆษณายังลดลง 7% Y-Y โดยสื่อ TV Analog ที่กลับมาเพิ่มมาก M-M เพราะละครบุพเพสันนิวาส แต่ทั้งไตรมาส 1Q18 ยังลดลง 16% Y-Y ขณะที่ช่องทีวีดิจิตอลเพิ่ม 28% Y-Y และสื่อ Outdoor เพิ่ม 9% Y-Y คงมองแนวโน้มผลประกอบการรวมกลุ่ม Media ใน 1Q18 เพิ่มขึ้น Q-Q จากฐานต่ำไตรมาสก่อน แต่อ่อนลง Y-Y Top-pick ในกลุ่ม คือ RS (TP 35) ตามด้วย PLANB (TP 7.10) ส่วน BEC (TP 10.50) และ WORK (TP 98) แนะนำเพียงถือ และแนะนำขาย VGI (TP 6.80)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
17-27 เม.ย.- ไทย: ผลประกอบการ 1Q18 ของกลุ่มแบงก์
16 เม.ย.- สหรัฐฯ: ยอดค้าปลีก (มี.ค.)
17 เม.ย.- จีน: 1Q18 GDP
- สหรัฐฯ: ยอดอนุญาติก่อสร้าง และยอดสร้างบ้านใหม่ (มี.ค.)
18 เม.ย.- สหรัฐฯ: Fed Beige Book
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)
20 เม.ย.- ไทย: กบง. พิจารณาโครงสร้างราคาพลังงาน
- ญี่ปุ่น: อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)
23 เม.ย.- ไทย: ดุลการค้า (มี.ค.)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นตัวขึ้นหลังสถานการณ์การโจมตีในประเทศซีเรียคลี่คลายลง ในขณะที่ตลาดคาดว่าผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐจะออกมาในเชิงบวก
(-) ตลาดยุโรปปรับตัวลง หลังความกังวลในเรื่องความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและรัสเซีย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกำไรบริษัทจดทะเบียนยุโรปที่ไปลงทุนในรัสเซีย
(0) ตลาดเอเชีย เช้านี้เปิดตัวผสมผสานหลังนักลงทุนกังวลเรื่องความไม่แน่นอนทางการเมืองในญี่ปุ่น และตัวเลข GDP ของประเทศจีนที่จะประกาศในวันนี้
() ดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.10-31.20 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. ปรับตัวลง 1.17 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 66.22 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังสถานการณ์ในซีเรียเริ่มคลี่คลายลง
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปรับตัวขึ้น 2.80 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1,350.70 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB : FINNANSIA SYRUS SECURITIES LINE : @fnsyrus
OO7554