บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 
 
กลยุทธ์วันนี้
          เน้นเก็งกำไรรายตัว

Smart Pick
เก็งกำไร PTTEP
  ราคาปิด 123.00 บาท
  ราคาเหมาะสม 115.00 บาท
          กลุ่มพลังงานมี Sentiment บวกจากเหตุการณ์ตึงเครียดในซีเรีย ส่งผลให้น้ำมันดิบ BRENT ปรับตัวขึ้น +3.7% ปิดที่ US$71.21/barrel ทำระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2557
          คาดกำไรปกติ 1Q61 ที่ 8.2 พันล้านบาท +11% YoY และ +22% QoQ จากราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นเป็น US$44.5/BOE  (+7% QoQ และ +17% YoY) และปัจจัยบวกที่รออยู่คือการประมูลปิโตรเลียมรอบใหม่ คาดมีความคืบหน้าในการประชุม กพช.วันที่ 23 เม.ย.
เก็งกำไร SCB
  ราคาปิด 140.50 บาท
  ราคาเหมาะสม 153.00 บาท
          Sentiment เชิงบวก หลัง PACE มีมติอนุมัติขายสินทรัพย์มูลค่าไม่เกิน 1.4 หมื่นล้านบาทให้กับบริษัทคิง พาวเวอร์ ได้แก่ ที่ดิน, โรงแรม, อาคารจุดชมวิว, อาคารรีเทลคิวบ์ เมื่อสภาพคล่องของ PACE ดีขึ้น ย่อมบวกต่อ SCB ในฐานะเจ้าหนี้เช่นกัน
          ขึ้น XD เงินปันผลหุ้นละ 4.00 บาท ในวันที่ 17 เม.ย. คิดเป็น Dividend Yield 2.8% ขณะที่ราคาหุ้นลงมา 7% YTD ทำให้มี Downside Risk ที่จำกัด
สะสม BANPU
  ราคาปิด 20.10 บาท
  ราคาเหมาะสม 32.00 บาท
          Sentiment เชิงบวก หลังราคาถ่านหิน BJI สัปดาห์ล่าสุด สิ้นสุดวันที่ 6 เม.ย. เพิ่มขึ้น US$1.89/ตัน เป็น US$93.57/ตัน และภาวะอากาศแปรปรวนในจีน หนุนราคาถ่านหินทรงตัวระดับสูงต่อเนื่องใน 2Q61 แม้ไม่ใช่ high Season ของธุรกิจ
          คาดกำไรปกติ 1Q61 เติบโตสูง YoY และผลักดันกำไรปกติปี 2560 ให้เติบโตสูงถึง +33% YoY เป็น 1.49 หมื่นล้านบาท ขณะที่ Valuation น่าสนใจที่ระดับ PER2561 เพียง 7 เท่า และให้ Dividend Yield 5.3%
เก็งกำไร TIPCO
  ราคาปิด 13.30 บาท
  ราคาเหมาะสม 17.40 บาท
          การปรับตัวผ่าน 13.20 บาทวานนี้ เป็นปัจจัยหนุนทางเทคนิค คาดปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 14.00 บาท แนวรับ 13.10 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 12.90 บาท
หุ้นกลุ่มเครื่องดื่มได้ Sentiment บวกจากการเข้าสู่ High Season ฤดูร้อน ช่วยหนุนยอดขายของน้ำแร่ AURA และน้ำผลไม้ TIPCO ให้เติบโตได้ใน 2Q61
Profit - Taking  :  N/A
กลยุทธ์วันนี้
          วาทกรรมสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และ จีน ลดความร้อนแรงลง หลังประธานาธิบดีจีน ประกาศจีนพร้อมดำเนินนโยบายเศรษฐกิจแบบเสรีมากขึ้น เพิ่มโอกาสที่สหรัฐฯ และจีนหาทางออกร่วมกันได้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตอบรับในเชิงบวก DJIA +1.8% กลับมายืนเหนือแนว 24000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 3 วันทำการ พร้อมดัชนีวัดความเสี่ยงหรือ VIX INDEX ลดลงราว 6%
          ด้วย Sentiment เชิงบวกดังกล่าว บวกกับราคาน้ำมันดิบ Brent พุ่งขึ้นแรงกว่า 3.5% ทำระดับสูงสุดตั้งแต่ปลายปี 2557 จากความตึงเครียดในซีเรีย คาดว่าเงินทุนวันนี้จะไหลเข้าสู่หุ้นกลุ่มพลังงาน/ ปิโตรเคมี ซึ่งมีสัดส่วนมากถึง 27% ของ Market Cap. รวมของตลาดหุ้นไทย ช่วยจำกัด Downside ในระยะสั้น
          ปัจจัยข้างต้น เราเชื่อว่า ตลาดหุ้นเอเชียรวมถึง SET INDEX เช้านี้จะได้รับเชิงบวก ทำให้ SET INDEX มีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนว 1770 จุดระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย แต่อาจมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นเข้ามาบ้าง หลังจาก SET INDEX บวกตลอด 3 วันทำการที่ผ่านมา ประเมินกรอบการเคลื่อนไหววันนี้ 1755-1770 จุด
          ดังนั้นเชิงกลยุทธ์วันนี้ กลุ่ม Commodity Play กลับมาโดดเด่น ด้วยราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่ง เราแนะนำเก็งกำไรกลุ่มต้นน้ำ PTT/ PTTEP และกลุ่มโรงกลั่นที่ราคายัง Laggard อย่าง IRPC สำหรับ PTT มีประเด็นบวกเชิงจิตวิทยาเฉพาะตัวคือ การประชุมผู้ถือหุ้น วันพรุ่งนี้ (12 เม.ย.) พิจารณาการแตกพาร์ จาก 10 เหลือ 1 บาท เพื่อเสริมสภาพคล่องในการซื้อขาย และแผนการนำ PTTOR เข้าจดทะเบียนในตลท.
HOT Topic
          1. คลายกังวล Trade War เป็นบวกให้หุ้นกลุ่ม Logistic ให้ฟื้นตัว
          2. น้ำมันขึ้นแรงจากเหตุการณ์ตึงเครียดในซีเรีย หนุนน้ำมันดิบ BRENT ทำระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2557 เราชอบหุ้นตัวใดในกลุ่มพลังงาน
          3. PACE มีมติขายสินทรัพย์ให้คิงพาวเวอร์ ไม่เกิน 1.4 หมื่นล้านบาท หุ้นตัวใดได้ Sentiment บวก?
          4. พรุ่งนี้ PTT ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติแตกพาร์
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
          วานนี้ SET INDEX ฟื้นตัวต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 อีก 9.68 จุด มาปิดที่ 1760.95 จุด โดยหุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ยังเป็นตัวหนุนตลาด นำโดย AOT (+2.13%), EA (+17.07%), CPN (+4.18%) และ KBANK (+2.07) มีผลบวกต่อดัชนีรวมกันราว 6.5 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 6 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุนนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 อีกราว 500 ล้านบาท รวม 2 วันซื้อสุทธิทั้งสิ้น 2 พันล้านบาท เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 อีกราว 576 ล้านบาท รวม 3 วันซื้อสุทธิทั้งสิ้นราว 5.8 พันล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิวันที่ 3 ติดต่อกันอีกราว 2.2 พันสัญญา รวม 3 วันทำการ มีสถานะ Long สุทธิทั้งสิ้น 3.4 หมื่นสัญญา ขณะที่สถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Long สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ ราว 603 สัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิราว 4.2 หมื่นสัญญา ขณะที่สถาบันในประเทศและบัญชีบล. มีสถานะ Long สุทธิราว 298 สัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิวันแรกในรอบ 3 วันทำการราว 6.2 พันล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ประธานาธิบดีจีน กล่าวสุนทรพจน์ในงาน BOAO Forum สาระสำคัญเกี่ยวกับสงครามทางการค้าว่า การเจรจาเป็นทางออกของการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง และจีนพร้อมที่จะลดภาษีนำเข้าสินค้าบางชนิด รวมถึงรถยนต์ นอกจากนี้ จีนจะเปิดเสรีทางการค้าและการลงทุนให้มากขึ้น พร้อมปกป้องสินทรัพย์ทางปัญญา
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทวีตชื่นชมการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีจีน
ประธาน ECB เผยภาวะเศรษฐกิจโลกที่เติบโตได้ดีในปัจจุบัน ส่งผลให้ไม่จำเป็นต้องใช้นโยบายทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากปี 2561
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คาด คสช. จะออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลภายใน 1 สัปดาห์
ทางการจีนได้ยื่นฟ้องต่อ WTO กรณีสหรัฐฯขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม โดยทางจีนเรียกร้องให้มีการพิจารณาภายใน 60 วัน
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อจีน ตลาดคาดขยายตัว 2.6% YoY และการรายงานเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐ ตลาดคาดขยายตัว 2.3% YoY วันนี้
ติดตามรายงานการประชุมเฟด เมื่อ 20-21 มี.ค. วันนี้
ติดตามศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมเพื่อพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับ ตีความ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญการเลือกตั้ง ส.ส. ในวันนี้
ติดตามการรายงานนำเข้า-ส่งออกจีน เดือน มี.ค. ตลาดคาดส่งออกขยายตัว 10.9% YoY และนำเข้าขยายตัว 12.7%YoY วันที่ 13 เม.ย.
         
Strategist Team
          Mayuree Chowvikran   Head of Research  , 662-009-8050
          Padon Vannarat    Strategist , 662-009-8060
          Piyapat Patarapuvadol      Strategist , 662-009-8062
          Nutt Treepoonsuk         Strategist  , 662-009-8059
OO7391