- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 10 April 2018 17:09
- Hits: 5697
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
เน้นเก็งกำไรรายตัว
กลยุทธ์วันนี้
เน้นเก็งกำไรรายตัว
Smart Pick
สะสม ADVANC
ราคาปิด 201.00 บาท
ราคาเหมาะสม 250.00 บาท
คาดหุ้นจะตอบรับเชิงบวก หากการประชุมครม.วันนี้มีมติเห็นชอบให้ผู้ชนะการประมูลคลื่น 900MHz แบ่งจ่ายค่าคลื่นงวดสุดท้ายได้ ซึ่งจะช่วยลดความตึงตัวทางการเงิน และอาจส่งผลให้จ่าย Dividend Payout Ratio สูงกว่าปัจจุบันที่ 70%
คาดกำไรปกติ 1Q61 ที่ 8.1 พันล้านบาท +5.2% YoY และ +5.1% QoQ จากรายได้ที่ขยายตัว +5.9% YoY ตามความต้องการใช้ Data ที่เพิ่มมากขึ้น ขณะที่ต้นทุนต่างๆทรงตัวจากการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
เก็งกำไร IRPC
ราคาปิด 7.30 บาท
ราคาเหมาะสม 8.40 บาท
คาดหุ้นกลุ่มพลังงานช่วยหนุนตลาด จากการไต่ระดับขึ้นของน้ำมันดิบ NYMEX +2.2% ปิดที่ US$63.42/barrel จากเหตุการณ์ตึงเครียดในซีเรียเป็นปัจจัยหนุน
ทิศทางกำไรปกติ 1Q61 คาดเติบโตสูง YoY เนื่องจากไม่มีการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น และส่วนต่างราคา HDPE, Propylene ปรับตัวขึ้นเด่น +24% และ 46% YoY ตามลำดับ และอาจมี Stock Gain ราคาน้ำมันดิบดูไบที่เพิ่มขึ้นเป็น US$66.59/barrel สิ้นสุด 1Q61 จาก 4Q60 ที่ US$64.02/barrel
สะสม BANPU
ราคาปิด 20.10 บาท
ราคาเหมาะสม 32.00 บาท
Sentiment บวก หลังราคาถ่านหิน BJI สัปดาห์ล่าสุด สิ้นสุดวันที่ 6 เม.ย. เพิ่มขึ้น US$1.89/ตัน เป็น US$93.57/ตัน และภาวะอากาศแปรปรวนในจีน หนุนราคาถ่านหินทรงตัวระดับสูงต่อเนื่องใน 2Q61 แม้ไม่ใช่ high Season ของราคาถ่าน
คาดกำไรปกติ 1Q61 เติบโตสูง YoY และผลักดันกำไรปกติปี 2561 เติบโตถึง +33% YoY เป็น 1.49 หมื่นล้านบาท ขณะที่ Valuation น่าสนใจที่ระดับ PER2561 เพียง 7 เท่า และให้ Dividend Yield 5.3%
เก็งกำไร TMB
ราคาปิด 2.38 บาท
ราคาเหมาะสม 2.90 บาท
คาดหวังการฟื้นตัวแบบ Technical Rebound หลังราคาหุ้นปรับตัวลงตลอด 4 วันทำการ โดยมีแนวต้านที่ 2.50 บาท แนวรับ 2.34 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 2.30 บาท
ประเมินกำไรปกติ 1Q61 ที่ 2.3 พันล้านบาท +12.3% YoY และ +4.3% QoQ จะขึ้น XD เงินปันผลปี 2560 หุ้นละ 0.06 บาท วันที่ 23 เม.ย. คิดเป็น Dividend Yield 2.5%
Profit - Taking : N/A
กลยุทธ์วันนี้
วานนี้ SET INDEX กลับมายืนที่ระดับ 1750 จุดอีกครั้ง เป็นบวกต่อจิตวิทยาการลงทุนต่อตลาดหุ้นไทย ขณะที่ประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน คลายความตึงเครียดลง เมื่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งสัญญาณประนีประนอมและหาข้อตกลงร่วมกับจีน
ราคาน้ำมันดิบ NYMEX และ Brent ปรับตัวขึ้นแรงราว 2% ได้รับผลบวกเชิง Sentiment จากประเด็น Trade War ที่เริ่มคลี่คลาย รวมถึง เหตุการณ์ความไม่สงบในซีเรีย เราประเมินว่า เป็นโอกาสของการเก็งกำไรระยะสั้นต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน/ปิโตรเคมี โดยเฉพาะหุ้น Laggard อย่าง IRPC
สำหรับปัจจัยพื้นฐานในสัปดาห์หน้า เข้าสู่ฤดูกาลประกาศผลการดำเนินงาน 1Q61 (Earnings Season) ของบริษัทจดทะเบียนไทย เริ่มจากกลุ่มธนาคาร เราประเมินว่าภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยจะกลับมาเคลื่อนไหวตามแนวโน้มผลประกอบการมากขึ้น พร้อมภาพการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในสัปดาห์หน้า ตามสถิติช่วงครึ่งหลังของเดือน เม.ย. SET INDEX มักปรับตัวเพิ่มขึ้นบ่อยถึง 8 จาก 10 ปีหลังสุด
เมื่อปัจจัยต่างประเทศยังคงเปราะบาง อีกทั้งภาวะการลงทุนตลาดหุ้นไทยช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้เงียบเหงา เพราะเป็นช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ดังนั้นเชิงกลยุทธ์ "เน้นปลอดภัยไว้ก่อน" เราแนะนำเก็งกำไรหุ้นที่เกี่ยวข้องกับพื้นฐานเศรษฐกิจในประเทศ หรือ Domestic Play โดยเฉพาะหุ้นในดัชนี SET100 ในกลุ่มค้าปลีก/ สื่อสาร/ โรงแรม/ สายการบิน/ โรงพยาบาล
HOT Topic
1. การประชุมครม. อาจมีการพิจารณามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการมือถือ และ Digital TV
2. ติดตามความเห็นประธานาธิบดีจีนประเด็น Trade War
3. BANPU, BPP, MINT, SCCC ขึ้น XD กระทบ SET INDEX ราว -0.6 จุด
4. ราคาถ่านหินไต่ระดับขึ้นจากภาวะอากาศแปรปรวนในจีน เราคงมุมมองบวกต่อธุรกิจถ่านหิน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ฟื้นตัวเป็นวันที่ 2 บวกอีก 11.35 จุด ปิดที่ 1751.27 จุด นำโดยหุ้นขนาดใหญ่ ได้แก่ PTT(+1.48%) BDMS(+3.46%) SCC(+2.07%) ADVANC(+2.03) และ AOT(+1.08%) เป็นบวกต่อดัชนีราว 7 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.6 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุนนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิราว 1.5 พันล้านบาท เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิต่อเป็นวันที่ 2 อีกราว 3.3 พันล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิทั้งสิ้นราว 5.2 พันล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันอีกราว 9.8 พันสัญญา ขณะที่สถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Short สุทธิเล็กน้อยเป็นวันที่ 2 อีกราว 442 สัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิสะสมราว 3.9 หมื่นสัญญา ขณะที่สถาบันในประเทศและบัญชีบล. มีสถานะ Short สุทธิเล็กน้อยราว 305 สัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันอีกราว 2.3 พันล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิทั้งสิ้น 3.8 พันล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
FBI บุกเข้าตรวจค้นสถานที่ทำงานและบ้านของทนายส่วนตัวประธานาธิบดีสหรัฐฯ และยึดเอกสารต่างๆ ทั้งด้านภาษี ข้อมูลทางธุรกิจ และบันทึกสนทนาระหว่างนายโคเฮนและปธน.ทรัมป์
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คาดจีนจะเป็นฝ่ายที่ยกเลิกมาตรการกีดกันทางการค้า และจะสามารถบรรลุข้อตกลงในเรื่องภาษีนำเข้าและทรัพย์สินทางปัญญาได้
ที่ปรึกษาธนาคารกลางจีนแนะนำให้จีนนำเงินทุนสำรองไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ ที่ไม่ใช่พันธบัตรสหรัฐฯ
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยดอกเบี้ย SME ปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากมีการแข่งขันในการปล่อยสินเชื่อให้ SME ของธนาคารต่างๆ
สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) รายงานดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า ลดลง 16% จากเดือนก่อน เป็น 143.09 ลดลงเป็นเดือนที่ 2 แต่ยังอยู่ในภาวะร้อนแรง (Bullish) เป็นเดือนทื่ 5 ติดต่อกัน
วันนี้ BANPU, BPP, MINT, SCCC จะขึ้นเครื่องหมาย XD ประเมินมีผลกระทบต่อดัชนีราว -0.6 จุด
ติดตามการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีจีน ในการประชุม BOAO Forum วันที่ 10-11 เม.ย.
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อจีน ตลาดคาดขยายตัว 2.6% YoY และการรายงานเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐ ตลาดคาดขยายตัว 2.3% YoY วันที่ 11 เม.ย.
ติดตามรายงานการประชุมเฟด เมื่อ 20-21 มี.ค. วันที่ 11 เม.ย.
ติดตามการรายงานนำเข้า-ส่งออกจีน เดือน มี.ค. ตลาดคาดส่งออกขยายตัว 10.9% YoY และนำเข้าขยายตัว 12.7%YoY วันที่ 13 เม.ย.
สะสม ADVANC
ราคาปิด 201.00 บาท
ราคาเหมาะสม 250.00 บาท
คาดหุ้นจะตอบรับเชิงบวก หากการประชุมครม.วันนี้มีมติเห็นชอบให้ผู้ชนะการประมูลคลื่น 900MHz แบ่งจ่ายค่าคลื่นงวดสุดท้ายได้ ซึ่งจะช่วยลดความตึงตัวทางการเงิน และอาจส่งผลให้จ่าย Dividend Payout Ratio สูงกว่าปัจจุบันที่ 70%
คาดกำไรปกติ 1Q61 ที่ 8.1 พันล้านบาท +5.2% YoY และ +5.1% QoQ จากรายได้ที่ขยายตัว +5.9% YoY ตามความต้องการใช้ Data ที่เพิ่มมากขึ้น ขณะที่ต้นทุนต่างๆทรงตัวจากการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
เก็งกำไร IRPC
ราคาปิด 7.30 บาท
ราคาเหมาะสม 8.40 บาท
คาดหุ้นกลุ่มพลังงานช่วยหนุนตลาด จากการไต่ระดับขึ้นของน้ำมันดิบ NYMEX +2.2% ปิดที่ US$63.42/barrel จากเหตุการณ์ตึงเครียดในซีเรียเป็นปัจจัยหนุน
ทิศทางกำไรปกติ 1Q61 คาดเติบโตสูง YoY เนื่องจากไม่มีการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น และส่วนต่างราคา HDPE, Propylene ปรับตัวขึ้นเด่น +24% และ 46% YoY ตามลำดับ และอาจมี Stock Gain ราคาน้ำมันดิบดูไบที่เพิ่มขึ้นเป็น US$66.59/barrel สิ้นสุด 1Q61 จาก 4Q60 ที่ US$64.02/barrel
สะสม BANPU
ราคาปิด 20.10 บาท
ราคาเหมาะสม 32.00 บาท
Sentiment บวก หลังราคาถ่านหิน BJI สัปดาห์ล่าสุด สิ้นสุดวันที่ 6 เม.ย. เพิ่มขึ้น US$1.89/ตัน เป็น US$93.57/ตัน และภาวะอากาศแปรปรวนในจีน หนุนราคาถ่านหินทรงตัวระดับสูงต่อเนื่องใน 2Q61 แม้ไม่ใช่ high Season ของราคาถ่าน
คาดกำไรปกติ 1Q61 เติบโตสูง YoY และผลักดันกำไรปกติปี 2561 เติบโตถึง +33% YoY เป็น 1.49 หมื่นล้านบาท ขณะที่ Valuation น่าสนใจที่ระดับ PER2561 เพียง 7 เท่า และให้ Dividend Yield 5.3%
เก็งกำไร TMB
ราคาปิด 2.38 บาท
ราคาเหมาะสม 2.90 บาท
คาดหวังการฟื้นตัวแบบ Technical Rebound หลังราคาหุ้นปรับตัวลงตลอด 4 วันทำการ โดยมีแนวต้านที่ 2.50 บาท แนวรับ 2.34 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 2.30 บาท
ประเมินกำไรปกติ 1Q61 ที่ 2.3 พันล้านบาท +12.3% YoY และ +4.3% QoQ จะขึ้น XD เงินปันผลปี 2560 หุ้นละ 0.06 บาท วันที่ 23 เม.ย. คิดเป็น Dividend Yield 2.5%
Profit - Taking : N/A
กลยุทธ์วันนี้
วานนี้ SET INDEX กลับมายืนที่ระดับ 1750 จุดอีกครั้ง เป็นบวกต่อจิตวิทยาการลงทุนต่อตลาดหุ้นไทย ขณะที่ประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน คลายความตึงเครียดลง เมื่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งสัญญาณประนีประนอมและหาข้อตกลงร่วมกับจีน
ราคาน้ำมันดิบ NYMEX และ Brent ปรับตัวขึ้นแรงราว 2% ได้รับผลบวกเชิง Sentiment จากประเด็น Trade War ที่เริ่มคลี่คลาย รวมถึง เหตุการณ์ความไม่สงบในซีเรีย เราประเมินว่า เป็นโอกาสของการเก็งกำไรระยะสั้นต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน/ปิโตรเคมี โดยเฉพาะหุ้น Laggard อย่าง IRPC
สำหรับปัจจัยพื้นฐานในสัปดาห์หน้า เข้าสู่ฤดูกาลประกาศผลการดำเนินงาน 1Q61 (Earnings Season) ของบริษัทจดทะเบียนไทย เริ่มจากกลุ่มธนาคาร เราประเมินว่าภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยจะกลับมาเคลื่อนไหวตามแนวโน้มผลประกอบการมากขึ้น พร้อมภาพการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในสัปดาห์หน้า ตามสถิติช่วงครึ่งหลังของเดือน เม.ย. SET INDEX มักปรับตัวเพิ่มขึ้นบ่อยถึง 8 จาก 10 ปีหลังสุด
เมื่อปัจจัยต่างประเทศยังคงเปราะบาง อีกทั้งภาวะการลงทุนตลาดหุ้นไทยช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้เงียบเหงา เพราะเป็นช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ดังนั้นเชิงกลยุทธ์ "เน้นปลอดภัยไว้ก่อน" เราแนะนำเก็งกำไรหุ้นที่เกี่ยวข้องกับพื้นฐานเศรษฐกิจในประเทศ หรือ Domestic Play โดยเฉพาะหุ้นในดัชนี SET100 ในกลุ่มค้าปลีก/ สื่อสาร/ โรงแรม/ สายการบิน/ โรงพยาบาล
HOT Topic
1. การประชุมครม. อาจมีการพิจารณามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการมือถือ และ Digital TV
2. ติดตามความเห็นประธานาธิบดีจีนประเด็น Trade War
3. BANPU, BPP, MINT, SCCC ขึ้น XD กระทบ SET INDEX ราว -0.6 จุด
4. ราคาถ่านหินไต่ระดับขึ้นจากภาวะอากาศแปรปรวนในจีน เราคงมุมมองบวกต่อธุรกิจถ่านหิน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ฟื้นตัวเป็นวันที่ 2 บวกอีก 11.35 จุด ปิดที่ 1751.27 จุด นำโดยหุ้นขนาดใหญ่ ได้แก่ PTT(+1.48%) BDMS(+3.46%) SCC(+2.07%) ADVANC(+2.03) และ AOT(+1.08%) เป็นบวกต่อดัชนีราว 7 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.6 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุนนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิราว 1.5 พันล้านบาท เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิต่อเป็นวันที่ 2 อีกราว 3.3 พันล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิทั้งสิ้นราว 5.2 พันล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันอีกราว 9.8 พันสัญญา ขณะที่สถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Short สุทธิเล็กน้อยเป็นวันที่ 2 อีกราว 442 สัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิสะสมราว 3.9 หมื่นสัญญา ขณะที่สถาบันในประเทศและบัญชีบล. มีสถานะ Short สุทธิเล็กน้อยราว 305 สัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันอีกราว 2.3 พันล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิทั้งสิ้น 3.8 พันล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
FBI บุกเข้าตรวจค้นสถานที่ทำงานและบ้านของทนายส่วนตัวประธานาธิบดีสหรัฐฯ และยึดเอกสารต่างๆ ทั้งด้านภาษี ข้อมูลทางธุรกิจ และบันทึกสนทนาระหว่างนายโคเฮนและปธน.ทรัมป์
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คาดจีนจะเป็นฝ่ายที่ยกเลิกมาตรการกีดกันทางการค้า และจะสามารถบรรลุข้อตกลงในเรื่องภาษีนำเข้าและทรัพย์สินทางปัญญาได้
ที่ปรึกษาธนาคารกลางจีนแนะนำให้จีนนำเงินทุนสำรองไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ ที่ไม่ใช่พันธบัตรสหรัฐฯ
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยดอกเบี้ย SME ปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากมีการแข่งขันในการปล่อยสินเชื่อให้ SME ของธนาคารต่างๆ
สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) รายงานดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า ลดลง 16% จากเดือนก่อน เป็น 143.09 ลดลงเป็นเดือนที่ 2 แต่ยังอยู่ในภาวะร้อนแรง (Bullish) เป็นเดือนทื่ 5 ติดต่อกัน
วันนี้ BANPU, BPP, MINT, SCCC จะขึ้นเครื่องหมาย XD ประเมินมีผลกระทบต่อดัชนีราว -0.6 จุด
ติดตามการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีจีน ในการประชุม BOAO Forum วันที่ 10-11 เม.ย.
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อจีน ตลาดคาดขยายตัว 2.6% YoY และการรายงานเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐ ตลาดคาดขยายตัว 2.3% YoY วันที่ 11 เม.ย.
ติดตามรายงานการประชุมเฟด เมื่อ 20-21 มี.ค. วันที่ 11 เม.ย.
ติดตามการรายงานนำเข้า-ส่งออกจีน เดือน มี.ค. ตลาดคาดส่งออกขยายตัว 10.9% YoY และนำเข้าขยายตัว 12.7%YoY วันที่ 13 เม.ย.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO7333