- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 10 April 2018 17:08
- Hits: 4173
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET เกิด Technical rebound สนับสนุนจากแรงซื้อในหุ้นใหญ่อย่าง SCC, ADVANC, PTT และมีแรงซื้อเด่นต่อเนื่องในกลุ่มโรงพยาบาลอย่าง BH, BDMS, BCH และมีแรงซื้อในกลุ่มธนาคารบางตัวภายหลังปรับตัวลงมาเยอะอย่าง KBANK, BBL อย่างไรก็ตามยังคงมีแรงขายต่อเนื่องในกลุ่มนิคมอย่าง AMATA, WHA และโรงไฟฟ้า EA โดย ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,751.2 จุด (+11.3 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.5 หมื่นล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 6.1 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยที่ 1,479 ล้านบาท แลเปิดสถานะ Long SET50 index future ที่ 9,805 สัญญา
Investment theme
จับตาการปรับประมาณการ EPS ของกลุ่มพลังงาน vs กลุ่มธนาคาร : ปัจจุบัน SET ซื้อขายบน PER ประมาณ 15.9 เท่า (ค่าเฉลี่ย TIP ที่ 16.4x) ซึ่งอิง EPS18 ที่ 110x หรือเรียกได้ว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนในตลาดปีนี้เติบโตเฉลี่ยประมาณ 10-11% ส่วนหนึ่งเกิดจากการคาดการณ์กำไรกลุ่มธนาคารปีนี้เติบโตเฉลี่ยสูงกว่า 16% อย่างไรก็เรามองว่ากำไรกลุ่มธนาคารมีโอกาสถูกปรับประมาณการลง จาก รายได้ค่าธรรมเนียมการโอนที่ลดลง ส่งผลต่อกำไรประมาณ 1-2% ,การเติบโตของ Loan growth (%) ที่มีโอกาสออกมาต่ำกว่าเป้าที่ 7% และหากธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ทนแรงกดดันจากกระทรวงการคลังไม่ไหว อาจส่งผลท้ายที่สุดปรับดอกเบี้ยเงินกู้ MRR, MOR ลง บนสมมติฐานปรับลดลง 50bps มีผลในช่วงครึ่งปีหลัง คาดกระทบกำไรธนาคารประมาณ 3% ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงคาดทำให้นักวิเคราะห์ในตลาดอาจพิจารณาปรับประมาณการกำไรกลุ่มนี้ลง (ในช่วงหลังสงกรานต์จะมีการประชุมนักวิเคราะห์) ซึ่งจะกระทบ EPS ของตลาด อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาเดียวกันติดตามการ Preview ผลประกอบการกลุ่มธนาคาร เบื้องต้นคาดมีโอกาสถูกปรับประมาณการขึ้น ซึ่งท้ายสุดต้องดูว่าผลลัพธ์จะส่งต่อ EPS ในด้านใด
Investment Theme: เข้าสู่เทศกาลวันหยุดยาว เราคาดมูลค่าการซื้อขาย SET เบาบางลงประมาณ 5.0 หมื่นล้านบาท และคาดตลาดจะแกว่งตัวในกรอบ 1,760 จุด เพื่อรอดูผลของ Policy risk ต่างๆที่จะมีความคืบหน้าหลังสงกรานต์ นำโดย กลุ่มโรงกลั่น และแถลงจากผู้บริหารกลุ่มธนาคารในประเด็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ แนะหันเข้าสะสมกลุ่ม Defensive อย่างโรงพยาบาลและรถไฟฟ้า
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – ม.หอการค้าเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.ปรับขึ้นเป็น 79.9 (จาก 79.3 ในเดือนก.พ.) /
วันนี้ BANPU ขึ้นเครื่องหมาย XD 0.35 บาท/หุ้น
เมื่อวานที่ผ่านมา SET เกิด Technical rebound สนับสนุนจากแรงซื้อในหุ้นใหญ่อย่าง SCC, ADVANC, PTT และมีแรงซื้อเด่นต่อเนื่องในกลุ่มโรงพยาบาลอย่าง BH, BDMS, BCH และมีแรงซื้อในกลุ่มธนาคารบางตัวภายหลังปรับตัวลงมาเยอะอย่าง KBANK, BBL อย่างไรก็ตามยังคงมีแรงขายต่อเนื่องในกลุ่มนิคมอย่าง AMATA, WHA และโรงไฟฟ้า EA โดย ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,751.2 จุด (+11.3 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.5 หมื่นล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 6.1 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยที่ 1,479 ล้านบาท แลเปิดสถานะ Long SET50 index future ที่ 9,805 สัญญา
Investment theme
จับตาการปรับประมาณการ EPS ของกลุ่มพลังงาน vs กลุ่มธนาคาร : ปัจจุบัน SET ซื้อขายบน PER ประมาณ 15.9 เท่า (ค่าเฉลี่ย TIP ที่ 16.4x) ซึ่งอิง EPS18 ที่ 110x หรือเรียกได้ว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนในตลาดปีนี้เติบโตเฉลี่ยประมาณ 10-11% ส่วนหนึ่งเกิดจากการคาดการณ์กำไรกลุ่มธนาคารปีนี้เติบโตเฉลี่ยสูงกว่า 16% อย่างไรก็เรามองว่ากำไรกลุ่มธนาคารมีโอกาสถูกปรับประมาณการลง จาก รายได้ค่าธรรมเนียมการโอนที่ลดลง ส่งผลต่อกำไรประมาณ 1-2% ,การเติบโตของ Loan growth (%) ที่มีโอกาสออกมาต่ำกว่าเป้าที่ 7% และหากธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ทนแรงกดดันจากกระทรวงการคลังไม่ไหว อาจส่งผลท้ายที่สุดปรับดอกเบี้ยเงินกู้ MRR, MOR ลง บนสมมติฐานปรับลดลง 50bps มีผลในช่วงครึ่งปีหลัง คาดกระทบกำไรธนาคารประมาณ 3% ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงคาดทำให้นักวิเคราะห์ในตลาดอาจพิจารณาปรับประมาณการกำไรกลุ่มนี้ลง (ในช่วงหลังสงกรานต์จะมีการประชุมนักวิเคราะห์) ซึ่งจะกระทบ EPS ของตลาด อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาเดียวกันติดตามการ Preview ผลประกอบการกลุ่มธนาคาร เบื้องต้นคาดมีโอกาสถูกปรับประมาณการขึ้น ซึ่งท้ายสุดต้องดูว่าผลลัพธ์จะส่งต่อ EPS ในด้านใด
Investment Theme: เข้าสู่เทศกาลวันหยุดยาว เราคาดมูลค่าการซื้อขาย SET เบาบางลงประมาณ 5.0 หมื่นล้านบาท และคาดตลาดจะแกว่งตัวในกรอบ 1,760 จุด เพื่อรอดูผลของ Policy risk ต่างๆที่จะมีความคืบหน้าหลังสงกรานต์ นำโดย กลุ่มโรงกลั่น และแถลงจากผู้บริหารกลุ่มธนาคารในประเด็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ แนะหันเข้าสะสมกลุ่ม Defensive อย่างโรงพยาบาลและรถไฟฟ้า
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – ม.หอการค้าเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.ปรับขึ้นเป็น 79.9 (จาก 79.3 ในเดือนก.พ.) /
วันนี้ BANPU ขึ้นเครื่องหมาย XD 0.35 บาท/หุ้น
Stock pick : BTS
BTS : ทยอยสะสม 10.50 บาท/หุ้น
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการ Conf call เมื่อวานที่ผ่านมา โดยผู้บริหารตั้งเป้าการเติบโตธุรกิจรถไฟฟ้าจากทั้งการปรับขึ้นค่าโดยสารประมาณ 1-2% และ การเปิดส่วนต่อขยายเขียวใต้ คาดรายได้ O&M เพิ่ม 30% จากระยะทางให้บริการที่เพิ่มขึ้น 12กม.เป็น 48ก.ม. ในขณะที่ธุรกิจสื่อโฆษณา( VGI, MACO) และอสังหา (U-city) มีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยวางแผนเพิ่ม U-rate จาก 65-70% เป็น 70-75% สอดคล้องสื่อ Out of home media และธุรกิจอสังหาคาดบันทึกกำไรพิเศษประมาณ 1,800ลบ
ในขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกยังผันผวน กังวลเรื่อง Trade war เราแนะนักลงทุนทยอยสะสมหุ้น 3D (Defensive ,Dividend , Domestic) อย่างธุรกิจรถไฟฟ้า ในขณะที่เชิงเทคนิค ราคาหุ้นได้ Break เส้น 200วัน พร้อมวอลุ่มการซื้อขายที่หนาแน่นอีกครั้ง แนะทยอยซื้อ ราคาเหมาะสม 10.50 บาท/หุ้น
Trading idea – – คงคำแนะนำซื้อ CPN ราคาเหมาะสม 89.0 บาท
Technical View
BTS : ทยอยสะสม 10.50 บาท/หุ้น
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการ Conf call เมื่อวานที่ผ่านมา โดยผู้บริหารตั้งเป้าการเติบโตธุรกิจรถไฟฟ้าจากทั้งการปรับขึ้นค่าโดยสารประมาณ 1-2% และ การเปิดส่วนต่อขยายเขียวใต้ คาดรายได้ O&M เพิ่ม 30% จากระยะทางให้บริการที่เพิ่มขึ้น 12กม.เป็น 48ก.ม. ในขณะที่ธุรกิจสื่อโฆษณา( VGI, MACO) และอสังหา (U-city) มีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยวางแผนเพิ่ม U-rate จาก 65-70% เป็น 70-75% สอดคล้องสื่อ Out of home media และธุรกิจอสังหาคาดบันทึกกำไรพิเศษประมาณ 1,800ลบ
ในขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกยังผันผวน กังวลเรื่อง Trade war เราแนะนักลงทุนทยอยสะสมหุ้น 3D (Defensive ,Dividend , Domestic) อย่างธุรกิจรถไฟฟ้า ในขณะที่เชิงเทคนิค ราคาหุ้นได้ Break เส้น 200วัน พร้อมวอลุ่มการซื้อขายที่หนาแน่นอีกครั้ง แนะทยอยซื้อ ราคาเหมาะสม 10.50 บาท/หุ้น
Trading idea – – คงคำแนะนำซื้อ CPN ราคาเหมาะสม 89.0 บาท
Technical View
SET Index: Rebound ขึ้นในกรอบ Downtrend : แรงซื้อต่อเนื่องจากหุ้นกลุ่ม Big Cap. โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานและโรงพยาบาล ทำให้ดัชนีปิดยืนเหนือ 1740 คอนเฟิร์มสัญญาณกลับตัวของ Hammer ซึ่ง Slow Stochastic ดีดตัวขึ้นจากเขต Oversold เช่นกัน ระยะสั้นกลางจึงมองว่า ดัชนีมีแนวโน้ม Rebound ขึ้นตามกรอบ Downtrend ซึ่งมีแนวต้านหลักของกรอบที่ 1790 ส่วนแนวต้านระยะสั้นทางมองที่ 1760 และ 1775 จังหวะอ่อนตัวมองเป็นโอกาสสะสมตามแนวรับเพื่อ Trading กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: เล่น Rebound ไปที่แนวต้าน ในปริมาณเงินที่จำกัด และใช้จุด Lock Profit ที่ 1740 2) ไม่มีหุ้น: Trading ในกรอบ 1740-1755 เน้นรอซื้อที่แนวรับ และขายทำกำไรภายในวัน
แนวรับ : 1745, 1740 แนวต้าน : 1760, 1775
Keep an eye on…
ปัจจัยต่างประเทศ: 11 เม.ย. เงินเฟ้อจีน / 13 เม.ย. ตัวเลขส่งออก และดุลการค้าจีน
ปัจจัยในประเทศ: -
แนวรับ : 1745, 1740 แนวต้าน : 1760, 1775
Keep an eye on…
ปัจจัยต่างประเทศ: 11 เม.ย. เงินเฟ้อจีน / 13 เม.ย. ตัวเลขส่งออก และดุลการค้าจีน
ปัจจัยในประเทศ: -
หุ้นเทคนิค:
PTT (B 546.00, Tp 560.00//570.00, Cut 540.00)
PTTGC (B 97.00, Tp 100.00, Cut 96.00)
PTT (B 546.00, Tp 560.00//570.00, Cut 540.00)
PTTGC (B 97.00, Tp 100.00, Cut 96.00)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO7332
Research Department Tel. 02-658-5000
OO7332