- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 05 September 2014 16:53
- Hits: 1896
บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
ขายเพื่อรับรู้กำไร
SET ขึ้นทำจุดสูงสุดต่อเนื่องที่ 1586.93 จุด (+3.66 จุด) แต่อ่อนตัวลงท้ายตลาดปิดที่ 1579.73 จุด (-3.54 จุด, -0.22%) ตามทิศทางตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาค SET100 ลดลงมากสุด (-0.26%) เหลือเพียง 5 กลุ่มปรับตัวขึ้นได้แก่ ธนาคาร พลังงาน ปิโตรเคมี เกษตรฯ และอาชีพ ลดลงมากสุดเป็นกลุ่มอิเล็กทรอ นิกส์ อสังหาฯ และสื่อสาร มูลค่าการซื้อขายยังทรงตัวอยู่ในระดับ 52,895 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติยังเป็นการซื้อสุทธิต่อเนื่องอีก 1,011 ล้านบาท (1-4 ก.ย. ซื้อสุทธิ 5257 ล้านบาท) กองทุนในประเทศขายสุทธิต่อเนื่องและเพิ่มเป็น 2,506 ล้านบาท (1-4 ก.ย. ขายสุทธิ 2,711 ล้านบาท)
ปัจจัยการลงทุนวันนี้
ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติคงนโยบายการเงินแม้มีภาวะอ่อนแรงจากผลการปรับขึ้นภาษี VAT ในเดือนเม.ย.และมติจะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อสินทรัพย์ขนานใหญ่จากสถาบันการเงินเพื่ออัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพิ่มและหนุนอัตราเงินเฟ้อให้ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2% ด้าน BOE คงอัตราดอกเบี้ยเดิมที่ 0.5% และคงวงเงินการซื้อสินทรัพย์เดิมที่ 3.75 แสนล้านปอนด์
ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 0.05% จากเดิม 0.15% และปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากติดลบ 0.20% จากเดิมติดลบ 0.10% เพื่อผลักดันให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้ โดยจะเริ่มซื้อตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (asset-backed securities)และตราสาร หนี้ที่ค้ำประกันด้วยสิเชื่อคุณภาพ (covered bonds)จากภาคเอกชนในเดือนต.ค.นี้ เพื่อกระตุ้น การกู้ยืมในยูโรโซนนอกจากนี้ อีซีบียังได้หารือถึงความเป็นไปได้ที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE ในรูปแบบของโครงการซื้อสินทรัพย์ประเภทซื้อขาด (outright purchase)
อัยการสูงสุดมีความเห็นยังมีข้อไม่สมบูรณ์พอที่จะดำเนินคดี/ส่งฟ้องอดีตนายกฯ และมีคำสั่งตั้งผู้แทนอัยการสูงสุดเป็นคณะทำงานร่วมกับผู้แทน ป.ป.ช. เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์ เพื่อหาข้อยุติเกี่ยวกับการฟ้องคดีต่อไป
ภาพรวมข่าวดีในตลาดจากฟากยุโรป (รัฐเซีย-ยูโร-ยูเครน) หรือจากภายในของเราภายหลังการจัดตั้งรัฐบาลเชื่อว่าคงจะรับรู้หมดแล้ว ส่วนข่าวดีที่เหลือจะอยู่จะอิงตามเฉพาะหุ้น-เฉพาะกลุ่ม เรายังคงมองรวมตลาด SET ที่ราคายืนในระดับสูงในปัจจุบันจะมีความเสี่ยงราคา (Price Risk, high valuation) เรายังคงแนะนำขายทำกำไรต่อเนื่องในระยะสั้น
หุ้นแนะนำขายทำกำไรสั้นเชิงเทคนิคเช่น TTA, TMB, QH, AP, และ GUNKUL หุ้นแนะนำเก็งกำไรสั้น ROBINS, BCP, CPALL, และ TUF วันนี้เราปรับลดพอร์ตจำลองเหลือ 50% หุ้น – 50% เงินสด
แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
ลดพอร์ตหุ้นลงอีก 10% เหลือ 50%
น้ำหนักพอร์ตลงทุนระยะกลางอีกครั้งจาก 60% เหลือ 50% และถือเงินสดเพิ่มเป็น 50% โดยเราลดน้ำหนักหุ้น KBANK ลงจาก 10% เหลือ 5% (รับรู้กำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 2.6%) และขายรับรู้กำไร BECL ที่ถือครอง 5% (รับรู้กำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 0.7%) การถือครองหลักทรัพย์ลดลงจาก 10 บริษัทเหลือ 9 บริษัท ประกอบด้วย PTTEP, PTTGC, HMPRO, CPALL, DTAC, ADVANC, TUF, KBANK, และ PS
Accumulate : -- รอจังหวะสะสมหุ้น
Trading : เลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรเหนือ 1580 จุด ต่ำกว่า รอ
สถานะพอร์ตจำลอง (เริ่ม 25 พ.ย. 56)
พอร์ตหุ้น 60% ถือเงินสด 40%
ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (60%) = +13.3%
ผลตอบแทนถือเงินสด (40%) = +0.8%
ผลตอบแทนรวม (100%) = +14.1%
ผลตอบแทนตลาด SET = +16.8%
ผลรวมพอร์ตจำลองสุทธิ < SET
สถานะหลังลดพอร์ตจำลอง เหลือหุ้น 50%
พอร์ตหุ้น 50% ถือเงินสด 50%
Analysts :
Kasamapon Hamnilrat Registration No. 17622
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130