- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 30 March 2018 17:55
- Hits: 6237
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“เลือกซื้อหุ้นดีจังหวะอ่อนตัว”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : VGI (จากถือเป็น Fully Valued)
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศ : ต่างประเทศ – Sentiment ดีขึ้นหลังตลาดหุ้นสหรัฐรีบาวด์ เป็นผลจาก 1. นักลงทุนสถาบันทำราคาปิดสิ้นไตรมาส 1/61(Window dressing) 2. หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดขึ้นหลังผู้ประกอบการประกาศแผนงานการรักษาความลับลูกค้าที่ใช้งาน 3.การปรับขึ้นของราคาน้ำมัน (BRENT กลับมาเหนือ 70 US$/bbl) หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน และ 4. ดัชนี Core PCE ก.พ. +0.2% ชะลอลงจาก +0.3% ในเดือนม.ค.ทำให้ความกังวลเรื่องเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งผ่อนคลายลง ในประเทศ – วานนี้หุ้นไทยดิ่งแรงกว่าภูมิภาค หลัง Outperform ในช่วงก่อนหน้า ปิดตลาด SET -18.07 จุดที่ 1766.92 (ซึ่งดีกว่าระดับต่ำสุดในวันที่ 1756.62) นำโดยที่มี Market cap เกือบ 40% ของตลาด รวมทั้งหุ้นใหญ่อย่าง AOT, SCC, EA, AMATA, WHA ฯลฯ ก็ร่วงลงด้วย
เราประเมินว่าหุ้นกลุ่มแบงค์ที่ร่วงแรงมา 2 วันนั้นสะท้อนเรื่องการยกเลิกค่าธรรมเนียมโอนผ่านระบบ Application และ Internet banking ไปพอควรแล้ว โดยคาดว่าเรื่องนี้ทำให้รายได้ค่าธรรมเนียมแบงค์ปี 61 ลดลงราว 2% แต่ราคาหุ้นร่วงเกินกว่า 2% ไปมาก ส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากการเข้าใจผิดว่าบัตร ATM ก็ได้รับยกเว้นค่าธรรเนียมด้วยซึ่งไม่ใช่ แนะนำทยอยซื้อจังหวะอ่อนตัว หุ้นเด่นเป็น BBL, KBANK, TMB
ส่วนภาพรวมตลาด - สั้นๆมีลุ้นรีบาวด์ แต่ปัจจัยที่กังวลเกี่ยวกับการเลือกตั้งว่าจะเลื่อนออกไปอีกหรือไม่ หลังสนช.ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างกม.การได้มาซึ่งส.ว.และส.ส. และความไม่แน่นอนภายนอกก็อาจทำให้การปรับขึ้นจำกัด ปัจจัยติดตาม คือ ผลประชุมกบง.เกี่ยวกับการกำหนดราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นใหม่
วิเคราะห์เทคนิค : ภาพตลาดเป็นลบ การซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวก แนวต้าน 1770-1780, 1790-1800 จุด ต่ำกว่า 1760 จุดลดพอร์ตตาม สำหรับหุ้นที่ราคามีโอกาสทำ New High ที่เข้ามาใหม่เป็น KTC, BLAND, TOA, ECF, COM7, RJH ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ MAJOR, AOT, PTT, ILINK, MBK, VGI, GLOBAL หุ้นที่หลุด List คือ THANI, SCC, CPN, ECL และหุ้นแนะนำไปแล้วให้หาจังหวะ Take profit –ไม่มี-
ปัจจัยต่างประเทศ
+ ภาวะตลาดหุ้น : ดาวโจนส์ปิดบวก 254.69 จุด
# นักลงทุนบางกลุ่มเข้าซื้อหุ้นเพื่อตกแต่งบัญชี (window dressing) ในการซื้อขายวันสุดท้ายของไตรมาส 1/61 และตลาดจะปิดทำการซื้อขายในวันศุกร์ที่ 30 มี.ค. เนื่องในวัน Good Friday
# ดัชนี DJIA ปิด 24,103.11 จุด +254.69 จุด หรือ +1.07% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,640.87 จุด เพิ่มขึ้น 35.87 จุด หรือ +1.38% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,063.44 จุด เพิ่มขึ้น 114.22 จุด หรือ +1.64%
+ สหรัฐ : หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับขึ้น นำโดยเฟซบุ๊ก หลังประกาศแผนการรักษาข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งาน
# หุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 4.4% หลังจากบริษัทประกาศแผนการรักษาข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน ซึ่งรวมถึงการควบคุมข้อมูลที่แลกเปลี่ยนกับบริษัทต่างๆ ซึ่งรวมถึง Acxiom Corp และ Oracle Corp โดยบริษัทเหล่านี้ทำงานร่วมกับเฟซบุ๊กในการรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคเข้าสู่ระบบระบุเป้าหมายสำหรับการโฆษณา และทำให้หุ้นเทคโนโลยีอื่นๆ ปรับขึ้นตามไปด้วย
+ สหรัฐ : ดัชนี Core PCE ปรับขึ้นในอัตราชะลอตัวลง...ความกังวลเรื่องเฟดขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งผ่อนคลาย
# ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ +0.2% ในเดือนก.พ. หลัง +0.3% ในเดือนม.ค.
# การใช้จ่ายผู้บริโภคปรับตัว +0.2% ในเดือนก.พ. สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
# จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 12,000 ราย สู่ระดับ 215,000 ราย ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด
วันที่ 24 มี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2516 โดยตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 158 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2513
+ ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคารีบาวด์…BRENT กลับมายืนเหนือ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 64.94 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 70.27 ดอลลาร์/บาร์เรล หนุนโดยสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสู้กันระหว่างซาอุดิอาระเบียและกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน
# กลุ่มโอเปกและรัสเซียก็กำลังจัดทำข้อตกลงระยะยาวในการร่วมมือกันจำกัดการผลิตน้ำมันในช่วงหลายสิบปีข้างหน้า
- ภาวะตลาดทองคำ : ราคาอ่อนตัวต่อ
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 2.7 ดอลลาร์ หรือ 0.20% ปิดที่ 1,327.30 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวเด่นบจ.
• กลุ่มธนาคารพาณิชย์ : การยกเลิกค่าธรรมเนียมดิจิตอลแบงค์กิ้งกระทบช่วงสั้นแต่เป็นดีในระยะยาว
# ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าในปี 60 อุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์มีรายได้ค่าธรรมเนียมรวม 1.9 แสนล้านบาท (20% ของรายได้รวม) โดยเป็นรายได้ส่วนของค่าโอนเงินและบริการเรียกเก็บ 1.5-2.0 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 2% ของรายได้รวม ส่วนกำไรสุทธิเท่ากับ 1.74 แสนล้านบาท
# จากข้อมูลข้างต้นทาง DBSV นำมาประเมินต่อว่า ถ้ารายได้ส่วนการโอนและบริการเรียกเก็บหายไปทั้งหมดและรายได้ค่าธรรมเนียมอื่นๆ เช่น รายได้ค่าธรรมเนียมเป็นตัวแทนนายหน้าต่างๆ ค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับสินเชื่อและส่งออก ฯลฯ เติบโต 3% (จากปี 60 ที่ขยายตัว 7%) ก็จะทำให้รายได้ค่าธรรมเนียมกลุ่มแบงค์ปี 61 ลดลงประมาณ 2% (ถ่วงน้ำหนักด้วยเวลา) แต่ส่วนหนึ่งจะได้รับการชดเชยจากลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ปริมาณธุรกรรมผ่านธนาคารที่สูงขึ้น ที่สามารถนำไปต่อยอดรายได้ในผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ ต่อไป รวมทั้งในระยะกลาง-ยาว ธนาคารก็จะมีค่าใช้จ่ายด้านสาขาและการดำเนินงานลดลงด้วย
# ในเชิงกลยุทธ์มองว่าการอ่อนตัวแรงของราคาหุ้นเป็นจังหวะในการซื้อ หุ้นเด่นเป็น BBL (ราคาพื้นฐาน 222 บาท), KBANK (ราคาพื้นฐาน 257 บาท) ส่วน TMB เราเห็นว่าการที่ธนาคารอื่นๆ ยกเลิกการคิดค่าธรรมเนียมธุรกรรมผ่านดิจิตอลแบงค์กิ้งอาจกระทบธนาคารบ้าง แต่ไม่มากเพราะบริการ All free ของ TMB ครอบคลุมถึงการใช้บัตร ATM และการใช้บริการทางการเงินของธุรกิจ SME ด้วย ซึ่งธนาคารอื่นๆ ยังคิดค่าธรรมเนียมในส่วนนี้ จึงคงคำแนะนำซื้อ TMB (ราคาพื้นฐาน 3.20 บาท)
- การมืองไทย : กังวลเลื่อนเลือกตั้งหลังสนช.ส่งศาลรธน.ตีความร่างกม.ว่าด้วยการได้มาส.ว.และส.ส.
# ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับพิจารณาวินิจฉัยร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ตามที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) รวม 30 คนยื่นเรื่องผ่านประธาน สนช.เข้ามา
# สมาชิกสนช.พร้อมคณะรวม 27 คน เพื่อขอให้ประธานสนช.ส่งร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ โดยประเด็นสำคัญที่จะยื่น 2 ประเด็น ได้แก่ 1.การตัดสิทธิการดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองของบุคคลที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 2.การอำนวยความสะดวกให้กับคนพิการในการลงคะแนนเลือกตั้ง
# นักกฎหมายกล่าวว่าการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความกฎหมายเลือกตั้งว่าด้วยที่มาของส.ว.และส.ส.อาจจะส่งผลกระทบต่อโรดแมพเลือกตั้งถ้าดำเนินการแต่ละขั้นเต็มขั้นตอน อย่างไรก็ตาม ถ้าหากต้องการเลือกตั้งตามโรดแมพก็ยังสามารถทำได้ด้วยการจัดเลือกตั้งให้เร็วกว่าที่กำหนดไว้ภายใน 150 วันหลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้ เช่น ภายใน 120 วัน เป็นต้น
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
OO7307