- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 30 March 2018 17:52
- Hits: 5402
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลุ่มธนาคารตอบรับต่อการลดค่าธรรมเนียมมากเกินไป
ดาวโจนส์สหรัฐฯฟื้นตัวดีขึ้นจากแรงหนุนของตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง (จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานแตะระดับต่ำสุดในรอบ 45 ปี) ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น และการดีดกลับของราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหลังจากปรับตัวลงแรงในช่วงก่อนหน้า ขณะที่การลดลงอย่างต่อเนื่องของราคาทองคำจากความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีและข้อพิพาททางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯที่ผ่อนคลายลง คาดเป็นปัจจัยหนุนการฟื้นตัวของราคาสินทรัพย์เสี่ยงในวันนี้
หุ้นไทยวานนี้ปรับลดลงแรง -18 จุด ทำจุดต่ำสุดระหว่างวันที่ 1756 จุด (-27 จุด) ก่อนที่จะกลับมาปิดที่ 1766 เราคาดความกังวลที่ทำให้ตลาดผันผวนเกิดจาก 1) ความเสี่ยงที่การเลือกตั้งจะล่าช้าเนื่องจากการยื่นตีความกฎหมายลูกของ 27 สนช. 2) ความกังวลต่อรายได้ค่าธรรมเนียมกลุ่มธนาคาร หลังธนาคารหลายแห่งยกเว้นค่าธรรมเนียมโอนเงินในช่องทางดิจิตอล และ 3) การซื้อขายวันสุดท้ายของสัญญาล่วงหน้า S50H18 ซึ่งมักจะเห็นความผันผวนของตลาดและหุ้นขนาดใหญ่
เราคาดราคาหุ้นกลุ่มธนาคารตอบรับมากเกินไปจากการงดเว้นค่าธรรมเนียมโอนเงิน ซึ่งกระทบเพียง 4-5% ของรายได้ค่าธรรมเนียม หรือราว 1-2% ของรายได้รวม ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/61 คาดว่าจะอยู่ในทิศทางที่ฟื้นตัวขึ้น ทำให้หุ้นธนาคารน่าจะกลับมาช่วยให้ตลาดเริ่มตั้งหลักที่บริเวณ 1760 จุด โดยยังคงมุมมองว่าการรายงานผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น จะทำให้ภาพรวมตลาดในช่วงหลังสงกรานต์เคลื่อนไหวมีทิศทาง หุ้นปลอดภัย การแพทย์ น่าสนใจทั้ง BH, BDMS, BCH
Investment Theme // กลุ่มธนาคาร หุ้นที่เราชอบได้แก่ BBL, KBANK, KTB //การแพทย์ หุ้นพื้นฐานดีที่ Underperform & Under-owned ในช่วงที่ผ่านมา BDMS, BH, BCH, THG*// หุ้นที่ได้ประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับขึ้น TIP*, THREL* // กลุ่มเดินเรือ ค่าระวางเรือ (BDI) เริ่มขาขึ้นช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. ได้แก่ PSL TTA // กลุ่มพลังงาน top pick 3 อันดับ 1) BANPU, 2) PTTEP และ 3) IRPC, IVL, PTTGC
ภาพรวมกลยุทธ์: ผัวผวนในกรอบ 1750-1800 จุด การลงทุนสามารถเลือกหุ้นที่ยัง Laggard ขณะที่ทยอยสะสมหุ้นกลุ่มธนาคาร แนะนำเตรียมเงินสดราว 25-30% เพื่อเลือกซื้อรายตัวในจังหวะผันผวน นักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังและกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง รวมถึงตั้งจุดขายล็อคกำไร (trailing stop) ในหุ้นที่ถือครอง // หุ้นแนะนำวันนี้ SCC, BH / เก็งกำไร VIH (ตัดขาดทุน 8.3 บาท), AGE (ตัดขาดทุน 1.37)
แนวรับ 1750-1760 / แนวต้าน : 1790 จุด สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%
กลุ่มธนาคารตอบรับต่อการลดค่าธรรมเนียมมากเกินไป
ดาวโจนส์สหรัฐฯฟื้นตัวดีขึ้นจากแรงหนุนของตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง (จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานแตะระดับต่ำสุดในรอบ 45 ปี) ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น และการดีดกลับของราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหลังจากปรับตัวลงแรงในช่วงก่อนหน้า ขณะที่การลดลงอย่างต่อเนื่องของราคาทองคำจากความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีและข้อพิพาททางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯที่ผ่อนคลายลง คาดเป็นปัจจัยหนุนการฟื้นตัวของราคาสินทรัพย์เสี่ยงในวันนี้
หุ้นไทยวานนี้ปรับลดลงแรง -18 จุด ทำจุดต่ำสุดระหว่างวันที่ 1756 จุด (-27 จุด) ก่อนที่จะกลับมาปิดที่ 1766 เราคาดความกังวลที่ทำให้ตลาดผันผวนเกิดจาก 1) ความเสี่ยงที่การเลือกตั้งจะล่าช้าเนื่องจากการยื่นตีความกฎหมายลูกของ 27 สนช. 2) ความกังวลต่อรายได้ค่าธรรมเนียมกลุ่มธนาคาร หลังธนาคารหลายแห่งยกเว้นค่าธรรมเนียมโอนเงินในช่องทางดิจิตอล และ 3) การซื้อขายวันสุดท้ายของสัญญาล่วงหน้า S50H18 ซึ่งมักจะเห็นความผันผวนของตลาดและหุ้นขนาดใหญ่
เราคาดราคาหุ้นกลุ่มธนาคารตอบรับมากเกินไปจากการงดเว้นค่าธรรมเนียมโอนเงิน ซึ่งกระทบเพียง 4-5% ของรายได้ค่าธรรมเนียม หรือราว 1-2% ของรายได้รวม ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/61 คาดว่าจะอยู่ในทิศทางที่ฟื้นตัวขึ้น ทำให้หุ้นธนาคารน่าจะกลับมาช่วยให้ตลาดเริ่มตั้งหลักที่บริเวณ 1760 จุด โดยยังคงมุมมองว่าการรายงานผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น จะทำให้ภาพรวมตลาดในช่วงหลังสงกรานต์เคลื่อนไหวมีทิศทาง หุ้นปลอดภัย การแพทย์ น่าสนใจทั้ง BH, BDMS, BCH
Investment Theme // กลุ่มธนาคาร หุ้นที่เราชอบได้แก่ BBL, KBANK, KTB //การแพทย์ หุ้นพื้นฐานดีที่ Underperform & Under-owned ในช่วงที่ผ่านมา BDMS, BH, BCH, THG*// หุ้นที่ได้ประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับขึ้น TIP*, THREL* // กลุ่มเดินเรือ ค่าระวางเรือ (BDI) เริ่มขาขึ้นช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. ได้แก่ PSL TTA // กลุ่มพลังงาน top pick 3 อันดับ 1) BANPU, 2) PTTEP และ 3) IRPC, IVL, PTTGC
ภาพรวมกลยุทธ์: ผัวผวนในกรอบ 1750-1800 จุด การลงทุนสามารถเลือกหุ้นที่ยัง Laggard ขณะที่ทยอยสะสมหุ้นกลุ่มธนาคาร แนะนำเตรียมเงินสดราว 25-30% เพื่อเลือกซื้อรายตัวในจังหวะผันผวน นักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังและกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง รวมถึงตั้งจุดขายล็อคกำไร (trailing stop) ในหุ้นที่ถือครอง // หุ้นแนะนำวันนี้ SCC, BH / เก็งกำไร VIH (ตัดขาดทุน 8.3 บาท), AGE (ตัดขาดทุน 1.37)
แนวรับ 1750-1760 / แนวต้าน : 1790 จุด สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%
ประเด็นการลงทุน
ทรัมป์ต่ออายุ GSP ไทยได้แต้มต่อทางการค้ากว่า 3,400 รายการ – ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯลงนามเห็นชอบร่างกฎหมายต่ออายุโครงการสิทธิพิเศษทางภาษีฯ (GSP) จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.63 โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย. 2561 และย้อนหลัง (Retroactive) ตั้งแต่วันที่โครงการฯปัจจุบันหมดอายุในวันที่ 31 ธ.ค. 2560
สหรัฐฯเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง – สหรัฐฯเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯเดือนมี.ค.แตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 45 ปี
สศค.ชี้เศรษฐกิจไทยโตต่อเนื่อง แต่รายได้เกษตรกรยังชะลอ – สศค.ชี้เศรษฐกิจไทยเดือน ก.พ.61 ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง โดยอุปสงค์เติบโตจากการส่งออกสินค้าและการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวได้ดี ด้านอุปทานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศยังคงขยายตัวในระดับสูง ขณะที่ดัชนีผลผลิตการกษตรขยายตัวดีต่อเนื่อง แต่รายได้เกษตรกรยังชะลอตัวจากราคาสินค้าเกษตรที่ลดลง
ประเด็นติดตาม: 30 มี.ค. TH – ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย, 02 เม.ย. TH – ตัวเลขเงินเฟ้อ เดือน มี.ค.,
ทรัมป์ต่ออายุ GSP ไทยได้แต้มต่อทางการค้ากว่า 3,400 รายการ – ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯลงนามเห็นชอบร่างกฎหมายต่ออายุโครงการสิทธิพิเศษทางภาษีฯ (GSP) จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.63 โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย. 2561 และย้อนหลัง (Retroactive) ตั้งแต่วันที่โครงการฯปัจจุบันหมดอายุในวันที่ 31 ธ.ค. 2560
สหรัฐฯเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง – สหรัฐฯเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯเดือนมี.ค.แตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 45 ปี
สศค.ชี้เศรษฐกิจไทยโตต่อเนื่อง แต่รายได้เกษตรกรยังชะลอ – สศค.ชี้เศรษฐกิจไทยเดือน ก.พ.61 ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง โดยอุปสงค์เติบโตจากการส่งออกสินค้าและการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวได้ดี ด้านอุปทานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศยังคงขยายตัวในระดับสูง ขณะที่ดัชนีผลผลิตการกษตรขยายตัวดีต่อเนื่อง แต่รายได้เกษตรกรยังชะลอตัวจากราคาสินค้าเกษตรที่ลดลง
ประเด็นติดตาม: 30 มี.ค. TH – ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย, 02 เม.ย. TH – ตัวเลขเงินเฟ้อ เดือน มี.ค.,
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)