- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 28 March 2018 16:45
- Hits: 2853
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งผันผวน โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีแรงซื้อเด่นใน BBL ภายหลัง NVDR เปิดช่องให้ซื้ออีกครั้ง ในขณะที่มีแรงซื้อในกลุ่มค้าปลีกบางตัวอย่าง CPALL , MEGA, COM7 และกลุ่มบัตรอย่าง KTC, AEONTS อย่างไรก็ตาม SET เผชิญกับแรงขายเด่นในกลุ่ม ICT, TV Digital ภายหลัง นายกเลื่อนพิจารณาใช้มาตรา 44 ส่งผลให้เกิดแรงขายใน ADVANC, TRUE, WORK, BEC, MONO ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,802.5 จุด (+1.4 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 6.0 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 4.1 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 40 ล้านบาท และเปิด Short SET50 index future ที่ 9,852 สัญญา
Investment theme
ปัจจัยการเมืองต่างประเทศยังไม่จบ : ปัจจุบันอยู่ระหว่าง 15-45 วัน ที่ทางสหรัฐกำลังพิจารณาสินค้าและประเทศที่จะตั้งกำแพงภาษีจากต่างประเทศ เราเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นภายหลังนาย Li Keqiang นายกรัฐมนตรีจีน และ Steven Mnuchin รัฐมาตรีคลังสหรัฐ ต่างออกมาระบุถึงขั้นตอนการเจรจากำแพงภาษีครั้งนี้ ทำให้สหรัฐอาจไม่ต้องเก็บภาษีสูงกว่า 5 หมื่นล้านเหรียญจากจีน อย่างไรก็ตาม เราแนะนักลงทุนให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าวจนกว่าจะได้ข้อสรุป ล่าสุดได้มีปัจจัยใหม่เกิดขึ้น ภายหลัง Trump ลงนามแต่งตั้ง John Bolton เป็นที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติคนที่ 3 ในสมัยปธน. Trump ส่งผลให้นานาประเทศออกมาประนาม กังวลถึงความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น โดยสื่อต่างประเทศระบุนาย Bolton เป็นผู้อยู่เบื้องหลังหลายเหตุการณ์ในตะวันออกกลาง และการคุกคามเกาหลีเหนือ ประเด็นดังกล่าว ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มกังวลเหตุการณ์ความรุนแรงในอนาคตระหว่างสหรัฐกับนานาประเทศ ภายใต้ตำแหน่งที่ปรึกษาความมั่นคงของสหรัฐ โดยใน 2Q61 เราคาดตลาดหุ้นทั่วโลกจะผันผวนมากขึ้น จาก Event play ต่างๆ โดยเฉพาะจากนโยบายที่ไม่แน่นอนใน Trump
Investment Theme: สัปดาห์นี้เราคงมุมมอง SET แกว่งตัวบริเวณ 1,780-1,810 จุด โดยคงคำแนะนำถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 20% และใช้กลยุทธ์ซื้อที่แนวรับ 1,780 จุด และขายทำกำไรบริเวณ 1,810 จุด เพื่อรอดูปัจจัยสนับสนุนจากในประเทศใหม่อีกครั้ง
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – เลขา กสทช. เผย คสช. ชะลอการออกม.44 ผ่อน TV digital และคลื่น 900 Mhz เนื่องจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ได้เสนอความเห็นว่าอาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้เอกชนมากเกินไป / ทริสลดอันดับ rating BEC จาก A+ เป็น A / ครม.ไฟเขียวรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน รูปแบบ PPP Net cost / นาย Kim เดินทางไปประเทศจีนพบปะ Xi Jinping
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งผันผวน โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีแรงซื้อเด่นใน BBL ภายหลัง NVDR เปิดช่องให้ซื้ออีกครั้ง ในขณะที่มีแรงซื้อในกลุ่มค้าปลีกบางตัวอย่าง CPALL , MEGA, COM7 และกลุ่มบัตรอย่าง KTC, AEONTS อย่างไรก็ตาม SET เผชิญกับแรงขายเด่นในกลุ่ม ICT, TV Digital ภายหลัง นายกเลื่อนพิจารณาใช้มาตรา 44 ส่งผลให้เกิดแรงขายใน ADVANC, TRUE, WORK, BEC, MONO ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,802.5 จุด (+1.4 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 6.0 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 4.1 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 40 ล้านบาท และเปิด Short SET50 index future ที่ 9,852 สัญญา
Investment theme
ปัจจัยการเมืองต่างประเทศยังไม่จบ : ปัจจุบันอยู่ระหว่าง 15-45 วัน ที่ทางสหรัฐกำลังพิจารณาสินค้าและประเทศที่จะตั้งกำแพงภาษีจากต่างประเทศ เราเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นภายหลังนาย Li Keqiang นายกรัฐมนตรีจีน และ Steven Mnuchin รัฐมาตรีคลังสหรัฐ ต่างออกมาระบุถึงขั้นตอนการเจรจากำแพงภาษีครั้งนี้ ทำให้สหรัฐอาจไม่ต้องเก็บภาษีสูงกว่า 5 หมื่นล้านเหรียญจากจีน อย่างไรก็ตาม เราแนะนักลงทุนให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าวจนกว่าจะได้ข้อสรุป ล่าสุดได้มีปัจจัยใหม่เกิดขึ้น ภายหลัง Trump ลงนามแต่งตั้ง John Bolton เป็นที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติคนที่ 3 ในสมัยปธน. Trump ส่งผลให้นานาประเทศออกมาประนาม กังวลถึงความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น โดยสื่อต่างประเทศระบุนาย Bolton เป็นผู้อยู่เบื้องหลังหลายเหตุการณ์ในตะวันออกกลาง และการคุกคามเกาหลีเหนือ ประเด็นดังกล่าว ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มกังวลเหตุการณ์ความรุนแรงในอนาคตระหว่างสหรัฐกับนานาประเทศ ภายใต้ตำแหน่งที่ปรึกษาความมั่นคงของสหรัฐ โดยใน 2Q61 เราคาดตลาดหุ้นทั่วโลกจะผันผวนมากขึ้น จาก Event play ต่างๆ โดยเฉพาะจากนโยบายที่ไม่แน่นอนใน Trump
Investment Theme: สัปดาห์นี้เราคงมุมมอง SET แกว่งตัวบริเวณ 1,780-1,810 จุด โดยคงคำแนะนำถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 20% และใช้กลยุทธ์ซื้อที่แนวรับ 1,780 จุด และขายทำกำไรบริเวณ 1,810 จุด เพื่อรอดูปัจจัยสนับสนุนจากในประเทศใหม่อีกครั้ง
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – เลขา กสทช. เผย คสช. ชะลอการออกม.44 ผ่อน TV digital และคลื่น 900 Mhz เนื่องจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ได้เสนอความเห็นว่าอาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้เอกชนมากเกินไป / ทริสลดอันดับ rating BEC จาก A+ เป็น A / ครม.ไฟเขียวรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน รูปแบบ PPP Net cost / นาย Kim เดินทางไปประเทศจีนพบปะ Xi Jinping
กลยุทธ์การลงทุนกลุ่ม TV Digital / ICT
ภายหลังนายกเลื่อนพิจารณาใช้ มาตรา 44 กรณี การพักค่าใช้จ่าย TV digital และ ขยายเวลาชำระคลื่น 900 mhz กับ ADVANC และ TRUE ออกไป 1 สัปดาห์ โดยให้ดร.วิษณุ เป็นประธารคณะทำงานเรียกประชุมเพื่อหารือและแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ส่งผลให้เรามองว่ากลุ่ม ICT อาจพักฐานเพื่อรอดูแนวทางความชัดเจน (ไม่สามารถคาดการณ์ได้)
TV digital : ในกรณีที่รัฐบาลไม่สนันสนุน เรามีมุมมองเป็นลบต่อกลุ่ม เนื่องจากมองว่าอุตสาหกรรมกำลังอยู่ในช่วงขาลง ในขณะที่เม็ดเงินโฆษณาเติบโตอย่างจำกัดและกระจุกตัวเพียงบางช่อง ซึ่งผู้ที่จะเป็น Winner คือ Content Premium อย่าง WORK แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัวบริเวณ 60.50 บาท
ICT : ในกรณีที่รัฐบาลไม่สนันสนุน เรามีมุมมองเป็นกลางต่อกลุ่ม และมองว่า Margin Expansion (%) จากการลดการใช้ Handset subsidy เพื่อดึงลูกค้า (Subscriber) และหันไปใช้กลยุทธ์ Digital platform ผ่านเทคโนโลยีในการสร้างรายได้อื่นๆ แนะทยอยสะสม ADVANC เมื่อราคาอ่อนตัวบริเวณ 200.0 บาท
Technical View
ภายหลังนายกเลื่อนพิจารณาใช้ มาตรา 44 กรณี การพักค่าใช้จ่าย TV digital และ ขยายเวลาชำระคลื่น 900 mhz กับ ADVANC และ TRUE ออกไป 1 สัปดาห์ โดยให้ดร.วิษณุ เป็นประธารคณะทำงานเรียกประชุมเพื่อหารือและแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ส่งผลให้เรามองว่ากลุ่ม ICT อาจพักฐานเพื่อรอดูแนวทางความชัดเจน (ไม่สามารถคาดการณ์ได้)
TV digital : ในกรณีที่รัฐบาลไม่สนันสนุน เรามีมุมมองเป็นลบต่อกลุ่ม เนื่องจากมองว่าอุตสาหกรรมกำลังอยู่ในช่วงขาลง ในขณะที่เม็ดเงินโฆษณาเติบโตอย่างจำกัดและกระจุกตัวเพียงบางช่อง ซึ่งผู้ที่จะเป็น Winner คือ Content Premium อย่าง WORK แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัวบริเวณ 60.50 บาท
ICT : ในกรณีที่รัฐบาลไม่สนันสนุน เรามีมุมมองเป็นกลางต่อกลุ่ม และมองว่า Margin Expansion (%) จากการลดการใช้ Handset subsidy เพื่อดึงลูกค้า (Subscriber) และหันไปใช้กลยุทธ์ Digital platform ผ่านเทคโนโลยีในการสร้างรายได้อื่นๆ แนะทยอยสะสม ADVANC เมื่อราคาอ่อนตัวบริเวณ 200.0 บาท
Technical View
แกว่งในกรอบ 1800-1820 หลุด 1800 รอแนวรับถัดไป: ดัชนีเปิดโดดและแกว่ง Sideway Down ตลอดทั้งวัน หุ้น Big Cap. ส่วนใหญ่แกว่งพักตัว แนวโน้มขณะนี้ใช้กรอบ 1800-1820 ในการเทรด หากช่วงเช้าดัชนีหลุด 1800 แนะนำชะลอการลงทุน และรอดูแนวโน้มที่แนวรับ 1793 และ 1780 ระยะกลางหากไม่หลุด 1780 ยังคงแนวโน้มภาพการแกว่งใน กรอบ Ascending Triangle (low ของดัชนียกตัวขึ้น)
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: หากปรับตัวหลุด 1800 แนะนำทยอย Lock Profit และรอดูแนวโน้มตามแนวรับ 2) ไม่มีหุ้น: หากหลุด 1800 แนะนำทยอยสะสมหุ้นบริเวณแนวรับ
แนวรับ : 1793, 1785 แนวต้าน : 1810, 1820
ปัจจัยต่างประเทศ: สหรัฐรายงาน Core PCE วันที่ 29 มี.ค.
ปัจจัยในประเทศ: จับตาศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพ.ร.บ.ประกอบ / รัฐธรรมนูญที่มาส.ว. / 28 มี.ค. ประชุมกนง.
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: หากปรับตัวหลุด 1800 แนะนำทยอย Lock Profit และรอดูแนวโน้มตามแนวรับ 2) ไม่มีหุ้น: หากหลุด 1800 แนะนำทยอยสะสมหุ้นบริเวณแนวรับ
แนวรับ : 1793, 1785 แนวต้าน : 1810, 1820
ปัจจัยต่างประเทศ: สหรัฐรายงาน Core PCE วันที่ 29 มี.ค.
ปัจจัยในประเทศ: จับตาศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพ.ร.บ.ประกอบ / รัฐธรรมนูญที่มาส.ว. / 28 มี.ค. ประชุมกนง.
หุ้นเทคนิค:
CPF (B 24.80-25.00, Tp 26.50//27.50, Cut 24.50)
CPALL (B 89.00, Tp 93.00, Cut 88.00)
CPF (B 24.80-25.00, Tp 26.50//27.50, Cut 24.50)
CPALL (B 89.00, Tp 93.00, Cut 88.00)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO7145
Research Department Tel. 02-658-5000
OO7145