- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 27 March 2018 16:40
- Hits: 3894
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 27-03-18
Market Summary 26/03/2018
Market Summary 26/03/2018
Close 1,801.10 Volume Bt41,778M
Change 6.89 P/E 18.55
%Change 0.38% P/BV 2.10
Change 6.89 P/E 18.55
%Change 0.38% P/BV 2.10
หุ้นแนะนำพิเศษ
GPI (ราคาปิด 3.44 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 4.20 บาท)
ใกล้เข้ามาทุกขณะ สำหรับงาน “Bangkok International Motor Show 2018” ในระหว่างวันที่ 28 มี.ค. – 8 เม.ย. 61 ซึ่งเป็นการจัดงานโดย GPI เป็นครั้งที่ 39 ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานโลก โดยบริษัทได้รับเงินสดล่วงหน้าก่อนจัดงานที่มีการปรับอัตราค่าเช่าบริการขึ้น 7% ตั้งแต่ในช่วง 4Q60
จัดเป็น Event ที่อยู่ในกระแสของการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ รวมไปถึงการให้ข้อมูลเกี่ยวกับรถ EV ที่มากขึ้น ผนวกกับผู้ประกอบการปล่อยสินเชื่อยังมีการแข่งขันสูง (อาทิ การให้ดอกเบี้ย 0%) หนุนให้งานมหกรรมมีโอกาสคึกคักสูง และจะส่งผลให้แนวโน้มการเช่าใช้พื้นที่ส่วนอื่นนอกเหนือจากพื้นที่จัดแสดง มีอัตราเช่าได้เต็มที่
โดยรวมยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” GPI ด้วย Valuation ที่ยังอยู่ใน lower band ของ PER กล่าวคือ มี Cash Adjusted PER เพียง 11 – 12 เท่า พร้อมด้วย Upside Potential จากทั้งการรับงาน Air Race 1 และงาน Motor Show ที่ประเทศเมียนมาร์ 2 ครั้งในช่วงปลายปี
หลักทรัพย์เริ่มซื้อขายวันแรก : BMSCG
ตลาดรอง : SET / ETF
กองทุนเปิด BCAP MID SMALL CG ETF (BMSCG) เข้าซื้อขายใน SET ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค.61 มีจำนวนหน่วยลงทุน 200 ล้านหน่วย พาร์ 10 บาท/หน่วย มีราคาเสนอขาย 10 บาท/หน่วย โดยกองทุนจะใช้กลยุทธ์การบริหารกองทุนเชิงรับ (Passive Management Strategy) เน้นลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี BCAP Mid Small Cap CG Index TR รวมถึงหุ้นที่อยู่ระหว่างการเข้าหรือออกจากการเป็นหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิงดังกล่าวด้วย โดยกองทุนมีนโยบายการลงทุนซึ่งส่งผลให้มี net exposure ในหุ้นของบริษัทขนาดกลางและบริษัทขนาดเล็กที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมถึงบริษัทที่ได้รับการรับรองเป็นสมาชิกแนวร่วมปฎิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น (CAC) ซึ่งการพิจารณาการกำกับดูแลกิจการที่ดีอาจพิจารณาจากการจัดอันดับ CG Scoring ของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย หรือหน่วยงานอื่นใด โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้ กองทุนอาจพิจารณาเลือกใช้กลยุทธ์แบบ Full Replication หรือ Optimization เพื่อให้กองทุนสามารถสร้างอัตราผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับดัชนี BCAP Mid Small Cap CG Index TR
บริษัทจัดการ : บลจ.บางกอกแคปปิตอล จำกัด
ผู้ดูแลสภาพคล่อง : บล. บัวหลวง
Market View : คลายกังวลสงครามการค้า
หุ้นแนะนำพิเศษ : GPI
หุ้นมีข่าว : BMSCG SEAFCO TVD
Technical Insight : FSMART SF
ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ฟื้นตัวในกรอบแคบจากวันทำการก่อนหน้า หลังคลายความกังวลการชัทดาวน์สหรัฐฯอย่างต่อเนื่อง น้ำมันดิบดีดตัวขึ้น โดยรวม SET Index หนุนโดยกลุ่ม ENERG และ ICT เป็นหลักตามลำดับ ถูกหักล้างบางส่วนโดย TRANS และ BANK ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,801.10 จุด (+6.89 จุด) Volume 4.18 หมื่นลบ.โดย Foreign Net -2,189.50 ลบ. TFEX Net -1,918 สัญญา ตราสารหนี้ +190.24 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+ดาวโจนส์ปิดพุ่งหลังจากมีรายงานว่า จีนได้ประกาศความพร้อมที่จะเปิดการเจรจากับสหรัฐเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า โดยข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า
+ยอดขายรถยนต์เดือน ก.พ. +10.2%YoY แนวโน้มเดือน มี.ค.ยังคงเติบโต
-น้ำมันดิบปิดลบเนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นราว 5.7% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังถูกกดดันจากแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว
-ทรัมป์ ประกาศขับนักการทูตรัสเซีย 60 คนออกจากสหรัฐ ตอบโต้วางยาอดีตสายลับที่อังกฤษ
+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 5.65 หมื่นล้านบาท ขณะที่เงินบาทแข็งค่าสู่ 31.15 บาท/USD
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้มีปัจจัยหนุนจากตลาดต่างประเทศและตลาดหุ้นภูมิภาคดีดตัวจากคลายกังวลสงครามการค้า โดยยังมีปัจจัยกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง และ Fund Flow ผันผวน คาด SET จะปรับตัวขึ้นในกรอบ 1,793-1,813 จุด
กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
- กลุ่มทีวีดิจิติล คสช.เตรียมพิจารณาใช้ ม.44 ช่วยผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลพักชำระค่าสัมปทาน 3 ปี
- KKP TISCO TCAP ได้ประโยชน์จากตลาดรถยนต์ฟื้นและงานมอเตอร์โชว์หนุนสินเชื่อเช่าซื้อเร่งตัวขึ้น
- PTTEP PTTGC IVL ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง 65.55 $/bbl
- CENTEL TOP TMB CPN ROBINS คาดเป็น target ทำ window dressing
- GFPT TFG จีนรับรองมาตรฐานโรงงานผลิตไก่ไทย
- CENTEL ERW ได้ประโยชน์จากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 19% ในเดือนก.พ.
- หุ้นปันผลเด่น BAFS CRD FTE GLOW KKP NYT SIS SPRC TISCO QH PDI PL AIT AP KIAT
- หลีกเลี่ยงกลุ่มยางพาราและกลุ่ม NGV ราคายางพาราปรับตัวลง 10%MTD สู่ 168เยน/KG / ยอดใช้ NGV หดตัว 5.8% ใน 1Q61
หุ้นมีข่าว
(+) CBG คาดกำไรปีนี้ดีกว่าปีก่อนตามยอดขายที่คาดโตกว่า 30% โดยเฉพาะตลาดตปท. เตรียมขออนุมัติผถห.ออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 5 พันลบ.ใน Q3/61 เพื่อรีไฟแนนซ์ลดภาระดบ.ราว 15-30 ลบ. (ที่มา อินโฟเควสท์)
SEAFCO บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 25% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.9 พันล้านบาท โดยปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) ที่ 2,557.07 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ปีนี้ราว 2,047.64 ล้านบาท และที่เหลือจะรับรู้ในปีถัดไป โดย Backlog ดังกล่าวยังไม่รวมโครงการ One Bangkok ที่บริษัทเพิ่งได้งานมา 2 เฟส จาก 4 เฟส มูลค่า 1,200 ล้านบาท
บริษัทยังอยู่ระหว่างยื่นประมูลงานใหม่เข้ามาเพิ่มอีก 10,221 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นงานภาครัฐ ซึ่งปีนี้คาดหวังจะมีสัดส่วนงานภาครัฐเพิ่มขึ้นมาที่ 80% จากปีก่อนอยู่ที่ 30-40% และงานภาคเอกชนปีนี้จะปรับตัวลงอยู่ที่ 20% จากปีก่อนอยู่ที่ 70% อย่างไรก็ตามบริษัทมีการรับงานภาครัฐมากขึ้น โดยเฉพาะงานรถไฟฟ้าสายสีส้มและสีชมพู
ขณะที่งานจากต่างประเทศปีนี้ บริษัทตั้งเป้าจะมีสัดส่วนรายได้เติบโตเป็น 5% หลังจากที่ผ่านมาบริษัทเข้าไปรับงานที่ประเทศเมียนมามูลค่า 140 ล้านบาท และยังอยู่ระหว่างประมูลงานเพิ่มเติม
สำหรับการลงทุนในปีนี้ บริษัทยังไม่มีแผนการลงทุนเครื่องจักรใหม่ แต่จะใช้ในการลงทุนด้านอื่นๆ จึงส่งผลทำให้จะใช้งบลงทุนในระดับที่ต่ำกว่าปีก่อน โดยปีก่อนบริษัทใช้งบลงทุนไปแล้วราว 300-400 ล้านบาท
(+) TVD เซ็นสัญญาร่วมผลิตรายการช่องสปริงนิวส์ 4 ปี เพิ่มสัดส่วนผังรายการแนะนำสินค้า หนุนรายได้เพิ่มอีก 10-20% รุกเจรจาร่วมผลิตรายการกับช่องทีวีดิจิทัลอีก 2 ราย คาดเห็นความชัดเจนภายในปีนี้ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาเข้าร่วมลงทุนธุรกิจสตาร์ทอัพเกี่ยวกับฟินเทค 2-3 รายทั้งในไทย-ตปท. คาดชัดเจนใน 2-3 เดือน
นักวิเคราะห์ 02-672-5999 ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
วิลาสินี บุญมาสูงทรง ext.5937 ระพีพัฒน์ ด่านไพบูลย์
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ext.5936 สรรพกัณฑ์ ปัทมบริสุทธิ์
ธนวินท์ พิเชษฐศิริพร ext.5940 ทศพล วิไลประภากร
OO7093
GPI (ราคาปิด 3.44 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 4.20 บาท)
ใกล้เข้ามาทุกขณะ สำหรับงาน “Bangkok International Motor Show 2018” ในระหว่างวันที่ 28 มี.ค. – 8 เม.ย. 61 ซึ่งเป็นการจัดงานโดย GPI เป็นครั้งที่ 39 ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานโลก โดยบริษัทได้รับเงินสดล่วงหน้าก่อนจัดงานที่มีการปรับอัตราค่าเช่าบริการขึ้น 7% ตั้งแต่ในช่วง 4Q60
จัดเป็น Event ที่อยู่ในกระแสของการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ รวมไปถึงการให้ข้อมูลเกี่ยวกับรถ EV ที่มากขึ้น ผนวกกับผู้ประกอบการปล่อยสินเชื่อยังมีการแข่งขันสูง (อาทิ การให้ดอกเบี้ย 0%) หนุนให้งานมหกรรมมีโอกาสคึกคักสูง และจะส่งผลให้แนวโน้มการเช่าใช้พื้นที่ส่วนอื่นนอกเหนือจากพื้นที่จัดแสดง มีอัตราเช่าได้เต็มที่
โดยรวมยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” GPI ด้วย Valuation ที่ยังอยู่ใน lower band ของ PER กล่าวคือ มี Cash Adjusted PER เพียง 11 – 12 เท่า พร้อมด้วย Upside Potential จากทั้งการรับงาน Air Race 1 และงาน Motor Show ที่ประเทศเมียนมาร์ 2 ครั้งในช่วงปลายปี
หลักทรัพย์เริ่มซื้อขายวันแรก : BMSCG
ตลาดรอง : SET / ETF
กองทุนเปิด BCAP MID SMALL CG ETF (BMSCG) เข้าซื้อขายใน SET ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค.61 มีจำนวนหน่วยลงทุน 200 ล้านหน่วย พาร์ 10 บาท/หน่วย มีราคาเสนอขาย 10 บาท/หน่วย โดยกองทุนจะใช้กลยุทธ์การบริหารกองทุนเชิงรับ (Passive Management Strategy) เน้นลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี BCAP Mid Small Cap CG Index TR รวมถึงหุ้นที่อยู่ระหว่างการเข้าหรือออกจากการเป็นหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิงดังกล่าวด้วย โดยกองทุนมีนโยบายการลงทุนซึ่งส่งผลให้มี net exposure ในหุ้นของบริษัทขนาดกลางและบริษัทขนาดเล็กที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมถึงบริษัทที่ได้รับการรับรองเป็นสมาชิกแนวร่วมปฎิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น (CAC) ซึ่งการพิจารณาการกำกับดูแลกิจการที่ดีอาจพิจารณาจากการจัดอันดับ CG Scoring ของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย หรือหน่วยงานอื่นใด โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้ กองทุนอาจพิจารณาเลือกใช้กลยุทธ์แบบ Full Replication หรือ Optimization เพื่อให้กองทุนสามารถสร้างอัตราผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับดัชนี BCAP Mid Small Cap CG Index TR
บริษัทจัดการ : บลจ.บางกอกแคปปิตอล จำกัด
ผู้ดูแลสภาพคล่อง : บล. บัวหลวง
Market View : คลายกังวลสงครามการค้า
หุ้นแนะนำพิเศษ : GPI
หุ้นมีข่าว : BMSCG SEAFCO TVD
Technical Insight : FSMART SF
ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ฟื้นตัวในกรอบแคบจากวันทำการก่อนหน้า หลังคลายความกังวลการชัทดาวน์สหรัฐฯอย่างต่อเนื่อง น้ำมันดิบดีดตัวขึ้น โดยรวม SET Index หนุนโดยกลุ่ม ENERG และ ICT เป็นหลักตามลำดับ ถูกหักล้างบางส่วนโดย TRANS และ BANK ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,801.10 จุด (+6.89 จุด) Volume 4.18 หมื่นลบ.โดย Foreign Net -2,189.50 ลบ. TFEX Net -1,918 สัญญา ตราสารหนี้ +190.24 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+ดาวโจนส์ปิดพุ่งหลังจากมีรายงานว่า จีนได้ประกาศความพร้อมที่จะเปิดการเจรจากับสหรัฐเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า โดยข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า
+ยอดขายรถยนต์เดือน ก.พ. +10.2%YoY แนวโน้มเดือน มี.ค.ยังคงเติบโต
-น้ำมันดิบปิดลบเนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นราว 5.7% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังถูกกดดันจากแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว
-ทรัมป์ ประกาศขับนักการทูตรัสเซีย 60 คนออกจากสหรัฐ ตอบโต้วางยาอดีตสายลับที่อังกฤษ
+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 5.65 หมื่นล้านบาท ขณะที่เงินบาทแข็งค่าสู่ 31.15 บาท/USD
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้มีปัจจัยหนุนจากตลาดต่างประเทศและตลาดหุ้นภูมิภาคดีดตัวจากคลายกังวลสงครามการค้า โดยยังมีปัจจัยกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง และ Fund Flow ผันผวน คาด SET จะปรับตัวขึ้นในกรอบ 1,793-1,813 จุด
กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
- กลุ่มทีวีดิจิติล คสช.เตรียมพิจารณาใช้ ม.44 ช่วยผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลพักชำระค่าสัมปทาน 3 ปี
- KKP TISCO TCAP ได้ประโยชน์จากตลาดรถยนต์ฟื้นและงานมอเตอร์โชว์หนุนสินเชื่อเช่าซื้อเร่งตัวขึ้น
- PTTEP PTTGC IVL ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง 65.55 $/bbl
- CENTEL TOP TMB CPN ROBINS คาดเป็น target ทำ window dressing
- GFPT TFG จีนรับรองมาตรฐานโรงงานผลิตไก่ไทย
- CENTEL ERW ได้ประโยชน์จากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 19% ในเดือนก.พ.
- หุ้นปันผลเด่น BAFS CRD FTE GLOW KKP NYT SIS SPRC TISCO QH PDI PL AIT AP KIAT
- หลีกเลี่ยงกลุ่มยางพาราและกลุ่ม NGV ราคายางพาราปรับตัวลง 10%MTD สู่ 168เยน/KG / ยอดใช้ NGV หดตัว 5.8% ใน 1Q61
หุ้นมีข่าว
(+) CBG คาดกำไรปีนี้ดีกว่าปีก่อนตามยอดขายที่คาดโตกว่า 30% โดยเฉพาะตลาดตปท. เตรียมขออนุมัติผถห.ออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 5 พันลบ.ใน Q3/61 เพื่อรีไฟแนนซ์ลดภาระดบ.ราว 15-30 ลบ. (ที่มา อินโฟเควสท์)
SEAFCO บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 25% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.9 พันล้านบาท โดยปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) ที่ 2,557.07 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ปีนี้ราว 2,047.64 ล้านบาท และที่เหลือจะรับรู้ในปีถัดไป โดย Backlog ดังกล่าวยังไม่รวมโครงการ One Bangkok ที่บริษัทเพิ่งได้งานมา 2 เฟส จาก 4 เฟส มูลค่า 1,200 ล้านบาท
บริษัทยังอยู่ระหว่างยื่นประมูลงานใหม่เข้ามาเพิ่มอีก 10,221 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นงานภาครัฐ ซึ่งปีนี้คาดหวังจะมีสัดส่วนงานภาครัฐเพิ่มขึ้นมาที่ 80% จากปีก่อนอยู่ที่ 30-40% และงานภาคเอกชนปีนี้จะปรับตัวลงอยู่ที่ 20% จากปีก่อนอยู่ที่ 70% อย่างไรก็ตามบริษัทมีการรับงานภาครัฐมากขึ้น โดยเฉพาะงานรถไฟฟ้าสายสีส้มและสีชมพู
ขณะที่งานจากต่างประเทศปีนี้ บริษัทตั้งเป้าจะมีสัดส่วนรายได้เติบโตเป็น 5% หลังจากที่ผ่านมาบริษัทเข้าไปรับงานที่ประเทศเมียนมามูลค่า 140 ล้านบาท และยังอยู่ระหว่างประมูลงานเพิ่มเติม
สำหรับการลงทุนในปีนี้ บริษัทยังไม่มีแผนการลงทุนเครื่องจักรใหม่ แต่จะใช้ในการลงทุนด้านอื่นๆ จึงส่งผลทำให้จะใช้งบลงทุนในระดับที่ต่ำกว่าปีก่อน โดยปีก่อนบริษัทใช้งบลงทุนไปแล้วราว 300-400 ล้านบาท
(+) TVD เซ็นสัญญาร่วมผลิตรายการช่องสปริงนิวส์ 4 ปี เพิ่มสัดส่วนผังรายการแนะนำสินค้า หนุนรายได้เพิ่มอีก 10-20% รุกเจรจาร่วมผลิตรายการกับช่องทีวีดิจิทัลอีก 2 ราย คาดเห็นความชัดเจนภายในปีนี้ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาเข้าร่วมลงทุนธุรกิจสตาร์ทอัพเกี่ยวกับฟินเทค 2-3 รายทั้งในไทย-ตปท. คาดชัดเจนใน 2-3 เดือน
นักวิเคราะห์ 02-672-5999 ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
วิลาสินี บุญมาสูงทรง ext.5937 ระพีพัฒน์ ด่านไพบูลย์
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ext.5936 สรรพกัณฑ์ ปัทมบริสุทธิ์
ธนวินท์ พิเชษฐศิริพร ext.5940 ทศพล วิไลประภากร
OO7093