- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 22 March 2018 16:41
- Hits: 1837
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selections >> HMPRO, PTTEP, THG
Stock S R Comment
HMPRO 13.90 14.40 คาด SSSG 4% จากกำลังซื้อเริ่มฟื้นตัว
PTTEP 115.50 119.00 น้ำมันปรับขึ้นกว่า 2$/bbl
THG 34.25 35.25 Jin Wellbeing หนุน GP แกร่ง คาดเริ่มโอน 4Q61
Not as good as expected
FOMC : เรามีมุมมอง "เป็นกลาง" ต่อผลการประชุม Fed เมื่อคืนนี้ ซึ่งมีไฮไลท์สำคัญนอกเหนือจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังต่อไปนี้
1) Fed มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อภาวะเศรษฐกิจและการจ้างงาน โดยมีการปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตของ GDP ปี 2018 และ 2019 ขึ้นเป็น 2.7% และ 2.4% จากเดิมที่ 2.5% และ 2.1% ตามลำดับ และปรับลดคาดการณ์อัตราการว่างงานปี 2018 และ 2019 ลงเหลือ 3.8% และ 3.6% จากเดิมที่ 3.9% และ 3.9% ตามลำดับ -> เป็นสัญญาณ Hawkish เล็กๆ
2) Fed มีมุมมองคงเดิมต่ออัตราเงินเฟ้อของประเทศ ทั้งในส่วนของเงินเฟ้อทั่วไปและเงินเฟ้อพื้นฐาน --> เป็นสัญญาณ Dovish
3) ค่า Median ของ Dot plots ในปีนี้ยังคงยืนยันการขึ้นดอกเบี้ยทั้งหมด 3 ครั้ง แต่ค่า Mode กลับกระจายตัวเท่ากันระหว่างการขึ้น 3 ครั้งกับ 4 ครั้ง สะท้อนว่าเริ่มมีกรรมการบางคนมีมุมมองที่ Aggressive มากขึ้นต่อการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ --> เป็นสัญญาณ Hawkish
4) ค่า Median ของ Dot plots ในปี 2019 และ 2020 มีการขยับขึ้นด้วยเช่นกัน โดยล่าสุด Fed ประเมินว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยทั้งหมด 3 ครั้งในปี 2019 และ 2 ครั้งในปี 2020 -> เป็นสัญญาณ Hawkish เล็กๆ
5) หลังการประชุม นาย Jerome Powell ได้กล่าวว่า ณ ขณะนี้เริ่มเห็นราคาสินทรัพย์บางประเภทในตลาดอยู่ในระดับที่สูงจนเกินไป เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต
มุมมองของเรา : ผลการประชุมที่ออกมาถือว่าไม่ได้ดีอย่างที่เราคาดการณ์ไว้ ถึงแม้จะทำให้นักลงทุนบางส่วนเบาใจไปได้บ้างต่อการที่ค่ากลาง Dot plots ยังคงยืนยันการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ 3 ครั้งตามที่เราคาด รวมไปถึงมุมมองเงินเฟ้อของ Fed ที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ดี การกระจายตัวของ Dot plots ที่เอนเอียงไปยังการขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งมากขึ้น รวมไปถึงการปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆไปในทางบวก ทำให้เราประเมินว่าประเด็น Fed จะเป็นประเด็นที่มี Downside risk มากกว่า Upside risk ต่อกระแสทุนต่างชาติในตลาดหุ้นเกิดใหม่ในช่วงที่เหลือปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไตรมาส 3 ต่อเนื่องไตรมาส 4 หาก Fed มีการตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 4 จริง
กลยุทธ์การลงทุน : หาก SET Index ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (1840-1850 จุด) จากการปรับตัวลงของเงินดอลลาร์ฯและ Bond yield สหรัฐฯหลังการประชุม Fed แนะนำให้ใช้จังหวะดังกล่าวในการขายทำกำไรและลดพอร์ตการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากประเด็น Fed อาจกลายมาเป็นความเสี่ยงในระยะยาวต่อการลงทุนในปีนี้ได้ ในทางกลับกัน หากดัชนียังคงแกว่งตัวในกรอบแคบ แนะนำถือหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มโภคภัณฑ์ต่อไป (PTT, BANPU, IRPC, PTTGC, IVL, SCC) ซึ่งคาดว่าจะเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯเพิ่มด้วย
Trade : ตัวเลขส่งออกของไทยที่รายงานออกมาเมื่อวานนี้ (10.3%) ถือว่าดีกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย โดยในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมยังคงเติบโตดีที่ 11.5% โดยเฉพาะยานพาหนะและชิ้นส่วนที่เติบโตถึง 32% อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าเกษตรกลับทรงตัว (0.3%) โดยได้รับผลกดดันจากการส่งออกน้ำตาลที่หดตัวถึง 24% คาดส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำตาลในตลาดโลกที่ลดลง ทั้งนี้ ในส่วนของการนำเข้า พบว่าการนำเข้าสินค้าทุนและสินค้าอุปโภคบริโภคชะลอลงเหลือ 4.8% และ 12.4% ตามลำดับ โดยการขยายตัวของสินค้าทุนถือเป็นตัวเลขต่ำที่สุดในรอบ 1 ปี บ่งชี้ภาวะการลงทุนในประเทศที่ยังคงซบเซา
แนวรับ 1,793 แนวต้าน 1,812
Today's Event
GRAND XD 0.004445 บาท
GRAND XD 25:1
JCP XD 0.14 บาท
MBK XD 0.37 บาท
ML XD 0.05 บาท
PRG XD 0.30 บาท
SKR XD 0.65 บาท
CHAYO เข้าซื้อขายเป็นวันแรก (560mn sh @ Bt2.88) ตลาด MAI
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
OO6852