- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 22 March 2018 16:39
- Hits: 1903
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คงมุมมองบวกภาพระยะกลาง เฟดเพิ่มดอกเบี้ย แต่ไม่เร่งอัตราการขึ้น
ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามตลาดคาด ขณะที่ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 2.7% จากเดิมที่ 2.5% และปี 2562 สู่ระดับ 2.9% จากเดิมที่ระดับ 2.7% ส่วนการขยายตัวในปี 2563 คาดว่าจะชะลอตัวสู่ 2% และการเติบโตระยะยาวยังคงอยู่ที่ระดับ 1.8% แต่ Highlight สำคัญคือมุมมองการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดทั้งปีผ่าน Dot plot ยังคงเดิม คือขึ้นดอกเบี้ยทั้งปี 3 ครั้ง (หรือเพิ่มอีก 2 ครั้ง) ทั้งนี้เศรษฐกิจที่เร่งตัวขึ้น โดยไม่เพิ่มอัตราการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ คาดจะทำให้ตลาดตอบรับเป็นบวก อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่น่าจะอ่อนลงจาก Fed Fund Futures ที่ขึ้นไปสูงกว่าคาดการณ์ดอกเบี้ยสิ้นปี และค่าเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง คาดจะส่งผลบวกต่อการฟื้นของตลาดเกิดใหม่และหุ้นไทย
สินทรัพย์เสี่ยงผ่านช่วงกดดันมากที่สุด ขณะที่ตลาดฯ มีแนวโน้มค่อยๆฟื้นตัว อิงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/61 (ซึ่งเป็น high season) ที่จะประกาศในช่วง เม.ย.-พ.ค. เพราเพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นขึ้นเป็น 70% (จาก 60%) กลุ่มโภคภัณฑ์มีโอกาสฟื้นตัว แต่เรามอง selective buy เน้นในกลุ่มปิโตรเคมี เนื่องจากมีโอกาสรายงานกำไรที่ดีกว่าคาด โดยมีผลจาก stock loss และราคาน้ำมันดิบต่ำ
Investment Theme // กลุ่มธนาคาร หุ้นที่เราชอบได้แก่ BBL, KBANK, KTB //การแพทย์ หุ้นพื้นฐานดีที่ Underperform & Under-owned ในช่วงที่ผ่านมา BDMS, BH, BCH, THG*// หุ้นที่ได้ประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับขึ้น TIP*, THREL* // กลุ่มเดินเรือ ค่าระวางเรือ (BDI) เริ่มขาขึ้นช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. ได้แก่ PSL TTA // กลุ่มพลังงาน top pick 3 อันดับ 1) BANPU, 2) PTTEP และ 3) IRPC, IVL, PTTGC
ภาพรวมกลยุทธ์: เน้นเลือกหุ้นที่ยัง Laggard ขณะที่ทยอยสะสมหุ้นกลุ่มธนาคาร แนะนำเตรียมเงินสดราว 25-30% เพื่อเลือกซื้อรายตัวในจังหวะผันผวน นักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังและกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง รวมถึงตั้งจุดขายล็อคกำไร (trailing stop) ในหุ้นที่ถือครอง // หุ้นแนะนำวันนี้ IVl, VNT / เก็งกำไร BEC (ตัดขาดทุน 12.90 บาท)
แนวรับ 1800 / แนวต้าน : 1820 จุด สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%
คงมุมมองบวกภาพระยะกลาง เฟดเพิ่มดอกเบี้ย แต่ไม่เร่งอัตราการขึ้น
ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามตลาดคาด ขณะที่ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 2.7% จากเดิมที่ 2.5% และปี 2562 สู่ระดับ 2.9% จากเดิมที่ระดับ 2.7% ส่วนการขยายตัวในปี 2563 คาดว่าจะชะลอตัวสู่ 2% และการเติบโตระยะยาวยังคงอยู่ที่ระดับ 1.8% แต่ Highlight สำคัญคือมุมมองการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดทั้งปีผ่าน Dot plot ยังคงเดิม คือขึ้นดอกเบี้ยทั้งปี 3 ครั้ง (หรือเพิ่มอีก 2 ครั้ง) ทั้งนี้เศรษฐกิจที่เร่งตัวขึ้น โดยไม่เพิ่มอัตราการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ คาดจะทำให้ตลาดตอบรับเป็นบวก อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่น่าจะอ่อนลงจาก Fed Fund Futures ที่ขึ้นไปสูงกว่าคาดการณ์ดอกเบี้ยสิ้นปี และค่าเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง คาดจะส่งผลบวกต่อการฟื้นของตลาดเกิดใหม่และหุ้นไทย
สินทรัพย์เสี่ยงผ่านช่วงกดดันมากที่สุด ขณะที่ตลาดฯ มีแนวโน้มค่อยๆฟื้นตัว อิงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/61 (ซึ่งเป็น high season) ที่จะประกาศในช่วง เม.ย.-พ.ค. เพราเพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นขึ้นเป็น 70% (จาก 60%) กลุ่มโภคภัณฑ์มีโอกาสฟื้นตัว แต่เรามอง selective buy เน้นในกลุ่มปิโตรเคมี เนื่องจากมีโอกาสรายงานกำไรที่ดีกว่าคาด โดยมีผลจาก stock loss และราคาน้ำมันดิบต่ำ
Investment Theme // กลุ่มธนาคาร หุ้นที่เราชอบได้แก่ BBL, KBANK, KTB //การแพทย์ หุ้นพื้นฐานดีที่ Underperform & Under-owned ในช่วงที่ผ่านมา BDMS, BH, BCH, THG*// หุ้นที่ได้ประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับขึ้น TIP*, THREL* // กลุ่มเดินเรือ ค่าระวางเรือ (BDI) เริ่มขาขึ้นช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. ได้แก่ PSL TTA // กลุ่มพลังงาน top pick 3 อันดับ 1) BANPU, 2) PTTEP และ 3) IRPC, IVL, PTTGC
ภาพรวมกลยุทธ์: เน้นเลือกหุ้นที่ยัง Laggard ขณะที่ทยอยสะสมหุ้นกลุ่มธนาคาร แนะนำเตรียมเงินสดราว 25-30% เพื่อเลือกซื้อรายตัวในจังหวะผันผวน นักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังและกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง รวมถึงตั้งจุดขายล็อคกำไร (trailing stop) ในหุ้นที่ถือครอง // หุ้นแนะนำวันนี้ IVl, VNT / เก็งกำไร BEC (ตัดขาดทุน 12.90 บาท)
แนวรับ 1800 / แนวต้าน : 1820 จุด สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%
ประเด็นการลงทุน
ดัชนีเชื่อมั่นอุตฯส่งสัญญาณบวก - ดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ.ลดลงเล็กน้อย จากความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ลดลง เนื่องจากที่ผ่านมาภาครัฐเบิกจ่ายงบประมาณได้น้อย แต่ส.อ.ท.ชี้ คาดการณ์ 3 เดือน ความเชื่อมั่น ส่งสัญญาณบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 คาดทั้งปีผลิตรถยนต์ได้ 2 ล้านคัน ประธานกลุ่มยานยนต์คนใหม่ ห่วงเวียดนามคุมรถนำเข้าทำไทยส่งออกลดลง
บาทฉุดกำไรส่งออก ติดลบครั้งแรกรอบ1ปี - ส่งออกสินค้าไทยเดือน ก.พ.ปีนี้ มีมูลค่า 2.03 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 10.26% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน เป็นการขยายตัวต่อเนื่อง 12 เดือน แต่เมื่อเทียบในรูปเงินบาทจะมีมูลค่า 6.43 แสนล้านบาท ลดลง 0.56% หรือติดลบครั้งแรกในรอบ 12 เดือน นับตั้งแต่เดือน ก.พ.ปีก่อน ที่ลดลง 5.28%
เที่ยวไทยคึก3แสนล. - ก.พ.ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทย 3,566,898 คน เพิ่มขึ้น 19.33% สร้างรายได้ 195,262.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.78% ขณะที่รวม 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ. 2561) มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 7,111,426 คน ขยายตัว 14.96% YoY สร้างรายได้รวม 384,153.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.47%
จับตากรอบพีดีพีเสร็จสิ้นเดือนนี้ พลังงานหมุนเวียนไร้เงินอุดหนุน - "สนพ." ยืนยันร่างแผนพลังงาน (PDP) ฉบับใหม่ เสร็จสิ้น มี.ค.นี้ กรอบหลักยึดนโยบาย ค่าไฟต้องไม่แพงขึ้นไปจากปัจจุบัน ฃแผนซื้อไฟเอกชนทั้ง IPP-SPP ราคาต้องไม่สูงกว่าราคาขายส่ง กฟผ. ราคาพลังงานหมุนเวียนไร้เงินอุดหนุนเปิดประมูลหมด
ประเด็นติดตาม: 28 มี.ค. TH – ประชุมนโยบายการเงิน (กนง.), 30 มี.ค. TH – ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)
ดัชนีเชื่อมั่นอุตฯส่งสัญญาณบวก - ดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ.ลดลงเล็กน้อย จากความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ลดลง เนื่องจากที่ผ่านมาภาครัฐเบิกจ่ายงบประมาณได้น้อย แต่ส.อ.ท.ชี้ คาดการณ์ 3 เดือน ความเชื่อมั่น ส่งสัญญาณบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 คาดทั้งปีผลิตรถยนต์ได้ 2 ล้านคัน ประธานกลุ่มยานยนต์คนใหม่ ห่วงเวียดนามคุมรถนำเข้าทำไทยส่งออกลดลง
บาทฉุดกำไรส่งออก ติดลบครั้งแรกรอบ1ปี - ส่งออกสินค้าไทยเดือน ก.พ.ปีนี้ มีมูลค่า 2.03 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 10.26% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน เป็นการขยายตัวต่อเนื่อง 12 เดือน แต่เมื่อเทียบในรูปเงินบาทจะมีมูลค่า 6.43 แสนล้านบาท ลดลง 0.56% หรือติดลบครั้งแรกในรอบ 12 เดือน นับตั้งแต่เดือน ก.พ.ปีก่อน ที่ลดลง 5.28%
เที่ยวไทยคึก3แสนล. - ก.พ.ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทย 3,566,898 คน เพิ่มขึ้น 19.33% สร้างรายได้ 195,262.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.78% ขณะที่รวม 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ. 2561) มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 7,111,426 คน ขยายตัว 14.96% YoY สร้างรายได้รวม 384,153.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.47%
จับตากรอบพีดีพีเสร็จสิ้นเดือนนี้ พลังงานหมุนเวียนไร้เงินอุดหนุน - "สนพ." ยืนยันร่างแผนพลังงาน (PDP) ฉบับใหม่ เสร็จสิ้น มี.ค.นี้ กรอบหลักยึดนโยบาย ค่าไฟต้องไม่แพงขึ้นไปจากปัจจุบัน ฃแผนซื้อไฟเอกชนทั้ง IPP-SPP ราคาต้องไม่สูงกว่าราคาขายส่ง กฟผ. ราคาพลังงานหมุนเวียนไร้เงินอุดหนุนเปิดประมูลหมด
ประเด็นติดตาม: 28 มี.ค. TH – ประชุมนโยบายการเงิน (กนง.), 30 มี.ค. TH – ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)