- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 21 March 2018 17:38
- Hits: 2328
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Summary 20/03/2018
Close 1,799.84 Volume Bt49228M
Change 0.05 P/E 18.52
%Change 0.00% P/BV 2.09
หุ้นแนะนำพิเศษ
PTTEP (ราคาปิด 116.5 Bloomberg Consesus 125.54)
ผลบวกจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นสู่ 63.40$/bbl จากความตึงเครียดระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน ขณะที่ซาอุดิอาระเบียให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันต่อไป นอกจากนี้ IEA ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกขึ้นในปีนี้เป็นปัจจัยหนุนต่อราคาน้ำมันในช่วงเดือนที่ผ่านมา
Bloomberg Consensus คาดผลประกอบการปี 61 อยู่ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท +71%YoY เนื่องจากคาดว่ากำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้น 2 KBD สู่ 302 KBD และราคาจำหน่ายก๊าซฯ ปรับตัวขึ้นจาก 5.6 $/mmbtu สู่ 6.2 $/mmbtu ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นนอกจากนี้ยังมีการปรับราคาจำหน่ายก๊าซฯ ในพม่าเพิ่มเติม ขณะที่ต้นทุนการผลิตคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ 30 $/bbl
หุ้นเริ่มซื้อขายวันแรก : CMAN (ราคา IPO 3.84 บาท) SET/ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์
บมจ. เคมีแมน (CMAN) ประกอบธุรกิจผลิตปูนไลม์และผลิตภัณฑ์เคมีต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชีย มีกำลังการผลิตติดตั้งปูนไลม์รวมประมาณ 800,000 ตันต่อปี และมีฐานลูกค้าอยู่ในอุตสาหกรรมที่หลากหลายทั้งในประเทศ 41% และต่างประเทศ 59% สัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายแต่ละผลิตภัณฑ์ ดังนี้ ปูนควิกไลม์ 72% ปูนไฮเดรต 17% แร่หินปูนเคมีและแร่หินปูนเคมีบด10% ปี 60 มีรายได้รวม 2,215 ลบ. เพิ่มขึ้น 11%YoY และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 109.3 ลบ. ลดลง 29%YoY เนื่องจากราคาถ่านหินที่เป็นต้นทุนหลักในการผลิตปรับตัวสูงขึ้นและมีค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีการขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
จำนวนหุ้นที่เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 240 ล้านหุ้น มูลค่าประมาณ 889.32 ลบ. ใช้ในการขยายธุรกิจปูนไลม์ทั้งในและต่างประเทศ ใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน
ราคา IPO คิดเป็น Current PER ที่ 33.72 เท่า สูงกว่า PER เฉลี่ยชองกลุ่มที่ระดับ 24.09 เท่า
Market View : รีบาวด์ตามเพื่อนบ้าน
หุ้นแนะนำพิเศษ : PTTEP
หุ้นมีข่าว : CMAN TMILL DTAC
Technical Insight : BWG S
ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ฟื้นตัวในกรอบแคบอย่างค่อยเป็นค่อยไป ท่ามกลางปัจจัยบวกลบคละเคล้า ทั้งจากความกังวลรัฐบาลสหรัฐฯที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นทั่วโลก การจับตาการประชุม FED ขณะที่ ศก.ไตรมาส 1 คาดเห็นการฟื้นตัวต่อเนื่องโดยรวม SET Index หนุนโดยกลุ่ม CONMAT ENERG HOT หักล้างโดย BANK และ PROP จึงปิดที่ 1,799.84 จุด (+0.05 จุด) Volume 4.92 หมื่นลบ.โดย Foreign Net -3,255.38 ลบ. TFEX Net +7,336 สัญญา ตราสารหนี้ +2,946.55 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+น้ำมันดิบปิดพุ่งเนื่องจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างอิหร่านและซาอุดิอาระเบีย รวมทั้งแนวโน้มที่ว่า เวเนซุเอลาอาจจะลดกำลังการผลิตน้ำมัน
+ดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นโดยได้ปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ดีดตัวขึ้น หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กทะยานขึ้นกว่า 2%
+ครม.ไฟเขียวโครงการสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน ระยะ 2 ของธนาคารออมสิน วงเงิน 1 หมื่นลบ.
+ครม.ผ่านแผนบริหารหนี้สาธารณะปี 2561 เพิ่ม 9.5 หมื่นล้าน ดันหนี้ต่อจีดีพีแตะ 42.8% ซึ่งยังต่ำกว่าเพดาน
-"ทรัมป์" เตรียมประกาศมาตรการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี
+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 5.48 หมื่นล้านบาท ขณะที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นสู่ 31.19 บาท/USD
**21 มี.ค. ธนาคารกลางสหรัฐ (FED)แถลงมติการประชุม ผลการสำรวจของนักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 94.4% ที่ FED จะปรับขึ้นดบ.
**23 มี.ค. จับตาชัตดาวน์สหรัฐ
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้มีปัจจัยบวกจากการดีดตัวของตลาดหุ้นทั่วโลก และราคาน้ำมันปิดพุ่งขึ้น แต่มีแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ FED ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกของปี และ Fund Flow ผันผวน จึงคาด SET จะรีบาวด์ในกรอบ 1,793-1,813 จุด
กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
- PTTEP PTTGC IVL ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นสู่ 63.4 $/bbl
- CPF GFPT TFG จีนรับรองมาตรฐานโรงงานผลิตไก่ไทย
- ERW ได้ประโยชน์จากการส่งเสริมท่องเที่ยวเมืองรองและนักท่องเที่ยวจีน
- หุ้นปันผลเด่น BAFS CRD FTE GLOW KKP NYT SIS SPRC TISCO QH PDI PL AIT TKS AP KIAT
- BEC เรตติ้งรวมปรับขึ้นยกแผงช่วง prime time ขายโฆษณาขยับเป็น 100%
- หุ้นที่ควรหลีกเลี่ยง กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์จากค่าเงินบาทแข็งค่าสู่ 31.19 บาท/$ (ต้นปี 17 อยู่ที่ 34 บาท/$) และราคาทองแดงทรงตัวในระดับสูง 6,819 $/Ton(ต้นปี 17 อยู่ที่ 5,600 $/Ton)
หุ้นมีข่าว
TMILL Opp Day มองผลประกอบการดีขึ้น QoQ แต่ทั้งปียังต้องลุ้น
กำไร 4Q60 อ่อนตัวลงสู่ 12.5 ล้านบาท -53%QoQ และ -47%YoY เนื่องจากในไตรมาส 4 ต้นทุนวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้นทำให้ GP ปรับตัวลงจาก 22.6% เหลือเพียง 18.1% นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงโรงงานและการจ่ายภาษีที่เพิ่มขึ้นรวม 15 ล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าวบริษัทจะมีกำไรปกติที่ 27.5 ล้านบาท +2%QoQ และ +17%YoY
ผู้บริหารตั้งเป้ากำลังการผลิตปี 61 ใช้กำลังการผลิตเพิ่มจาก 65% สู่ 75% โดยเน้นขยายฐานลูกค้าใหม่ทั้งในและต่างประเทศรวมถึงเพิ่มไลน์สินค้าพร้อมรับประทาน(มีอัตรากำไรสูงกว่าการขายแป้ง) นอกจากนี้อยู่ระหว่างเจรจาร่วมทุนกับพันธมิตรปลายน้ำในไทย 1 รายคาดมีความชัดเจน มี.ค. นี้
ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการ 1Q61 เนื่องจากราคาข้าวสาลีปรับตัวขึ้น 7%YTD (ซึ่งบริษัทสามารถนำสต็อกสินค้าเก่ามาขายได้) และค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น 4% ช่วยลดต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มเติม โดยผู้บริหารแจ้งว่าใน 1Q61 ยังใช้กำลังการผลิตได้ตามเป้าหมาย ซึ่งเราคาดว่าอยู่ที่ระดับ 70-75% เพิ่มขึ้นจาก 4Q61 ที่ 60% อีกทั้งไม่มีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงเครื่องจักรเข้ามากดดันเพิ่มเติม
DTAC (ราคาปิด 44.75 บาท Bloomberg Consensus 52.34 บาท) ผู้บริหาร มองเรื่องสำคัญที่บริษัทจะต้องเร่งดำเนินการ คือ การทำงานอย่างหนักเพื่อให้ได้เซ็นสัญญาคลื่น 2300 MHz กับ TOT ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของอัยการสูงสุดเป็นผู้ตรวจสัญญา คาดว่าจะได้ข้อสรุปและเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการได้ในไตรมาส 2Q61 และการเจรจากับ CAT เพื่อเช่าอุปกรณ์โครงข่ายทั้งหมด ซึ่งเดิมจะทำเป็น JV (DTAC ถือ 51% CAT ถือ 49%) แต่ขัดรัฐธรรมนูญที่รัฐฯต้องเป็นผู้ถือหุ้นมากกว่า 50% จึงปรับเปลี่ยนมาเป็นสัญญาพันธมิตรในการเช่าระยะยาวในการใช้โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่เดิม โดยเบื้องต้นจะเป็นการทำสัญญาใหม่หลังสิ้นสัมปทาน 15 ก.ย. 61 ส่วนการสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน คลื่น 850 MHz และ 1800 MHz ในวันเดียวกัน จะเข้าสู่กระบวนการตามประกาศ กสทช.จนกว่าจะมีการเปิดประมูลคลื่น 900 MHz และ 1800 MHz (ข่าวหุ้น)
ความเห็น ประเด็นสำคัญที่ตลาดให้น้ำหนักมากสุดน่าจะอยู่ที่ การทำสัญญากับ TOT ซึ่งรอเพียงสำนักงานอัยการสูงสุดรับรอง และตามมาด้วยการเป็นพันธมิตรกับ CAT ในการเช่าโครงสร้างพื้นฐานในปลายงวด 3Q61 ทั้งนี้ หากพิจารณาจากราคาปัจจุบันของ DTAC ที่ยังคงอยู่เหนือจากระดับที่พึ่งจะได้รับการเลือกจาก TOT ให้เป็นพันธมิตร (กลาง พ.ค. 60) ที่ราว 40 บาท เพียงราว 10% อาจสะท้อน Downside ที่จำกัด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยังเป็นผู้ประกอบการโทรคมนาคมที่ยังคงเป็นรอง อีก 2 รายที่ปราศจากความกังวลด้านคลื่น พร้อมทั้งได้รับโอกาสการขยายระยะเวลาชำระค่าสัมปทานใบอนุญาตซึ่งอาจจะมีการบังคับใช้ด้วย ม.44 ในวันที่ 27 มี.ค. 61 นี้ ในแง่กลยุทธ์ จึงแนะนำให้ "ซื้อสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว" DTAC ขณะที่ "ซื้อเก็งกำไร" TRUE (Bloomberg Consensus 7.16 บาท)
(+) BPP เร่ง 4 โครงการจ่ายไฟเพิ่มอีก 96.5 เมกะวัตต์ปีนี้มั่นใจปี 2566 COD แตะ 2789 MW พร้อมเตรียมงบพิเศษไล่ควบรวมลงทุนโรงไฟฟ้าเพิ่มเติม เน้นโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ปลื้มกำลังผลิตหงสาสูงเกินคาด (ทันหุ้น)
(+) TVD อัดฉีดงบลงทุน 700 ล้านบาทรุกโฆษณาทีวีดิจิทัล เตรียมผนึกพันธมิตรสถานีโทรทัศน์ 3 ช่องร่วมธุรกิจมากกว่าการซื้อแอร์ไทม์ คาดชัดเจนในเดือนเมษายนนี้ ส่งซิกงบโค้งแรกพีคสุด หนุนผลงานทั้งปีเทิร์นอะราวด์ เตรียมขออนุมัติที่ประชุมผู้ถือหุ้น 30 มี.ค. ล้างขาดทุนสะสม 33 ล้านบาท
(+) SAWAD ลูบปากรับกำไรปีนี้กลับมาฟื้นตัว คาดรับ 3.69 พันล้านบาท เพิ่ม 28.4% จับตากลุ่ม Cathay United Bank แบงก์ใหญ่สุดจากไต้หวันเข้าเก็บหุ้นเพิ่ม หลังซื้อไปแล้ว 5% มั่นใจส่งผลดีต่อ SAWAD ในด้านเครดิตเรตติ้ง และการออกหุ้นกู้จะมีต้นทุนลดลง (ที่มา ข่าวหุ้น)
ประเด็นบวกกลุ่มไฟแนนซ์ : คลัง เผยอนุญาตนิติบุคคลปล่อยสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์แก้หนี้นอกระบบแล้ว 294 รายใน 60 จังหวัด โดยดำเนินการอย่างจริงจังกับเจ้าหนี้นอกระบบที่กระทำผิดกฎหมาย
นักวิเคราะห์ 02-672-5999 ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
วิลาสินี บุญมาสูงทรง ext.5937 ระพีพัฒน์ ด่านไพบูลย์
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ext.5936 สรรพกัณฑ์ ปัทมบริสุทธิ์
ธนวินท์ พิเชษฐศิริพร ext.5940 ทศพล วิไลประภากร
OO6794