- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 21 March 2018 17:37
- Hits: 1687
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“Selective Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “Sideway Up” ต้าน 1809/1813จุด รับ 1793/1787จุด ราคาน้ำมันดิบ Brent +2.07% รับสต๊อกน้ำมันดิบลดลงสวนคาด หนุนกลุ่มพลังงานนำตลาดได้ ประกอบกับแรงหนุนในประเทศ ครม.เห็นชอบโครงการสินเชื่อรายย่อยฉุกเฉินเฟส2 หวังลดหนี้นอกระบบ ผสานสนช.พิจารณางบกลางปีแก้ปัญหายากจน 7.6 หมื่นล้าน คาดช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก หนุนการบริโภคฟื้นในระยะกลาง-ยาว ส่วนวันนี้ ติดตามผลการประชุม FOMC ซึ่ง Nomura คาด FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ย และติดตามการเปลี่ยนแปลงของ Dot Plot กลยุทธ์วันนี้แนะ Theme “Selective Play” : BEC, BLAND, KBANK
Nomura : Key Factors
(+) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI +2.16% สู่ $63.40/bbl / BRT +2.07% สู่ $67.42/bbl
(+) OIL: API รายงานสต๊อกน้ำมันดิบลดลง -2.74 ล้านบาร์เรล ลดลงมากสุดในรอบ 3 เดือน
(+) OIL: ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและซาอุ และเวเนซุเอลาอาจจะลดกำลังการผลิต
(+) TH: ครม.เห็นชอบโครงการสินเชื่อรายย่อยใช้จ่ายฉุกเฉินระยะ2 หวังลดหนี้นอกระบบ
(+) TH: สนช.พิจารณางบประมาณกลางปี โดยแบ่งสำหรับแก้ปัญหายากจน 7.6 หมื่นลบ.
(*) US: จับตาผลการประชุม FOMC คืนนี้ ซึ่ง Nomura คาด FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ย
(*) Fund Flow:ล่าสุดขายหุ้น-3,255ลบ, Long Future+7,336สัญญา, ซื้อBond+2,946ลบ.
Nomura Daily Top Picks: BEC, BLAND, KBANK
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Sideway Up” แนวต้าน 1809/1813จุด รับ 1793/1787จุด ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้นแรงกว่า +2.07% สู่ระดับ 67.42 เหรียญ/บาร์เรล รับ API รายงานสต๊อกน้ำมันดิบลดลง -2.74 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบ 3 เดือน และสวนทางกับคาดการณ์จาก Consensus ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น +3.25 ล้านบาร์เรล ประกอบกับความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างอิหร่านและซาอุดิอาระเบีย และแนวโน้มที่เวเนซุเอลาอาจจะลดกำลังการผลิต เป็นปัจจัยกระตุ้นราคาน้ำมันดิบฟื้นเด่น หนุนกลุ่มพลังงานนำตลาดได้ ส่วนปัจจัยในประเทศ รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากต่อเนื่อง โดยล่าสุด ครม.เห็นชอบโครงการสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน ระยะที่2 วงเงินสินเชื่อ 1 หมื่นล้านบาท หวังลดหนี้นอกระบบ ผสานสนช.พิจารณางบประมาณกลางปี 1.5 แสนล้านบาท โดยแบ่งสำหรับแก้ปัญหายากจน 7.6 หมื่นล้านบาท คาดจะช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศฟื้นตัวได้ในระยะกลาง-ยาว เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทย ส่วนวันนี้ จับตาผลการประชุม FOMC คืนนี้ ซึ่ง Nomura และ Consensus คาด FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 1.5-1.75% หลังเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งภาคแรงงานและภาคอุตสาหกรรมเติบโตดีตามเป้า ทั้งนี้ จับตาการเปลี่ยนแปลงของ Dot Plot เพื่อบ่งชี้ทิศทางดอกเบี้ยในช่วงถัดไปเพิ่มเติม
Asset allocation : ถือหุ้น 65% และเงินสด 17.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%
Daily Strategy : ถือหุ้น 65% Sector Rotation เน้นสะสม Domestic Play KBANK, BBL, TMB, TOA, CK, STEC, PYLON, CPALL, HMPRO, BH, AOT, ERW, MONO และ ปิโตรเคมี(IVL, IRPC) วันนี้เน้น “Selective Play”
ศูนย์สิริกิตติ์เตรียมปิดซ่อมบำรุง 3 ปี (เริ่มปลายปีนี้) หนุน BLAND(TP2.9) ทำให้การจัดงาน Event จะมาที่อิมแพ็คมากขึ้น (Occupancy rate ปัจจุบันที่ 53%)
รอยเตอร์รายงานข่าวว่า MINT อยู่ระหว่างเจรจาซื้อ NH Group 29.5% จากผู้ถือหุ้น HNA มูลค่าราว 2.6หมื่นล้านบาท คาดบวกต่อกลุ่มธนาคาร KBANK, SCB
Thailand future fund คาดยื่นไฟลิ่ง พ.ค. - มิ.ย. 61 ผสานรัฐเตรียมรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มูลค่า 2 แสนลบ. เข้าครม. (+CK, STEC, PYLON) กอรปกับ พรบ EEC ใกล้มีผลบังคับใช้ พค 2018 รมว. อุตสาหกรรมเตรียมโรดโชว์ต่างชาติ(+AMATA, WHA)
Media Play : โอกาสคืน License ทีวีดิจิตอล ผสาน กสทช. เตรียมเสนอ คสช. ใช้ ม.44 ช่วย DTV พักชำระค่าใบอนุญาต 3ปี และลดค่าเช่าโครงข่าย (Mux) ลง 50% เป็นเวลา 2 ปี ผสานเม็ดเงินโฆษณาผ่าน DTV เดือน มค-กพ 2018 +15.23%y-y และ 18.2%y-y เป็นรองแค่โรงหนัง +32%y-y และ 22%yy หนุน BEC, MONO เด่น รองลงมาเป็น MAJOR และ PLANB ที่สื่อนอกบ้านโตเฉลี่ย +10%y-y
หุ้นในประเทศน่าจะ Outperform รับความเชื่อมั่นการเมือง : AOT, KBANK, BBL, TMB, CPALL, ROBINS, HMPRO, AMATA, STEC, SCC, SC
กลุ่มการบริโภคคาดทิศทาง SSG เดือน กพ ฟื้นตัวรับกำลังซื้อ : CPALL, ROBINS, HMPRO
MAR 2018 Top Picks : TOA, BH, CPALL, M, SNC, STEC
Investment Theme:
1H18F : Domestic - Infrastructure Related Play : STEC, CK, HMPRO, TOA, KBANK, AOT, MONO, PTTEP, IRPC, FN
1) Investment Related : STEC, CK, HMPRO, TOA, KBANK
2) Tourism & Consumer : AOT, MONO, FN
3) Global Play : PTTEP, IRPC
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
BEC (Trading): Support 12.8/12.4 Resistant 13.9/14.5
Theme: Industrial Structural Reform
Earnings outlook: คาดกำไรสุทธิปี 2018F อยู่ที่ 421 ลบ. +590% จากฐานต่ำปี 2017 จาก 1) หลายรายการมีตอบรับที่ดีขึ้น เช่น ละคร “เงินปากผี” และ “บุพเพสันนิวาส” เป็นต้น 2)บริษัทพยายามบริหาร สินทรัพย์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการนำ Content ไปหารายได้จากช่องทางอื่นๆ เพิ่มขึ้น เช่น LINE, Youtube และ Tencent ในประเทศจีน เป็นต้น
Valuation: ราคาหุ้นที่ปรับลงกว่า 81% ในรอบ 5 ปี MKt cap หายไป 1.2 แสนลบ. ถือว่าตอบรับปัจจัยพื้นฐานที่แย่ลงไปมากแล้ว ขณะที่ธุรกิจก้าวมาถึงจุดเปลี่ยนที่น่าสนใจ มี Catalyst ทั้งระยะสั้นและระยะยาว
Catalyst: 1)กสทช.พักชำระค่าธรรมเนียมในอนุญาตเป็นเวลา 3 ปี และลดค่าเช่าโครงข่ายลง 50% เป็นเวลา 24 เดือน 2) ศาลตัดสินให้คืนช่องทีวีพูลได้ เป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของอุตสาหกรรม (ปรับสมดุล ลดแข่งขันและการดึงตัวบุคลากร + ลดขาดทุนของผู้ประกอบการที่มีหลายช่อง) 3) Rating (12-18 มี.ค.2018) ช่อง3HD อยู่ที่อันดับ 2 ของกลุ่มฯ ที่ระดับ 1.805 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 1.796 ในสัปดาห์ก่อน
BLAND (TP18F 2.9*): Support 1.82/1.80 Resistant 1.88/1.91
Theme : Infrastructure play
Earnings Outlook : เข้าสู่ช่วงพัฒนาพื้นที่เมืองทองอีกครั้ง และเพิ่มสัดส่วน Recurring income จากโครงการใหม่ๆอาทิ IBIS,The portal (ศูนย์การค้าบริเวณศูนย์ประชุม), Cosmo Bazaar (แหล่งShopping), Cosmo Office Park (ออฟฟิศให้เช่า) และวิทยาเขตใหม่ของมหาวิทยาศิลปากร รวมถึง รถไฟฟ้าสีชมพูที่จะเกิดขึ้น โดยรวมแม้ประเมินกำไรใน 3 ปีนี้อิง Conservative คาดทรงตัว แต่คุณภาพของกำไรช่วง 3 ปีนี้ดีขึ้นจากอดีต + มี Upside risk จากหลายโครงการที่จะทยอยเกิดขึ้น
Valuation : ราคาหุ้นยังอยู่ในจุดที่มีความคาดหวังต่ำ โดยซื้อขาย P/BV ต่ำราว 0.69 เท่า Vs Book value @2.63 บาท เทียบกับโอกาสที่ราคาที่ดินยังมีโอกาสเพิ่มอีกมากหากรถไฟฟ้าให้บริการ
Catalyst : โครงการซื้อหุ้นคืนรอบใหม่ วงเงินไม่เกิน 3.7 พันลบ. จำนวน 1.8 พันล้านหุ้น (คิดเป็นราคาหุ้นเฉลี่ย 2.0 บาท) เริ่ม 29 มี.ค.นี้ + ศูนย์สิริกิตติ์จะปิดซ่อมบำรุง 3 ปี (เริ่มปลายปีนี้) ทำให้การจัดงาน Event จะมาที่อิมแพ็คมากขึ้น ซึ่งยังมี Occupancy rate เหลืออีกมาก จากปัจจุบันที่ 53%
KBANK (TP18F 256*): Support 222/218 Resistant 228/233
Theme : Earnings Play
Earnings outlook : เป็น Top pick จากคาดผลประกอบการเติบโตโดดเด่นใน 2018F ที่ +28% y-y (กลุ่มอยู่ที่ 14%y-y) กอปรกับคาดปัญหาคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารจะค่อยๆ ดีขึ้น และหากปัญหา NPL จบลงได้เราคาด KBANK จะเป็นธนาคารที่มีการเติบโตแบบยั่งยืนได้ดีที่สุด จากการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่ทำมาอย่างต่อเนื่องรวมถึงกลยุทธ์ customer centric ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ และสามารถเป็น main bank ของลูกค้าเกือบทุกกลุ่ม
Valuation : KBANK จะเป็นผู้นำกลุ่มฯที่มีแนวโน้มกำไรเด่น โดยมี PBV ปี 2018F ต่ำเพียง 1.45x (Mean 1.77x)
Catalyst : คาด GDP Growth 2018F จะเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย +3.7%-4% กระตุ้นการลงทุนรอบใหญ่ + ใกล้ผ่านจุดต่ำสุดของ NPL + เช้านี้ (ที่มา : ข่าวหุ้น) ระบุ KBANK เป็น 1 ในผู้ปล่อยกู้ให้ MINT ในกรณีที่เข้าซื้อโรงแรมในต่างประเทศสำเร็จ
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
Fundamental Investment Analyst on Capital Market and Technical
[email protected] 0-2287-6771
Yada Kampalanonwat : Analyst Registration No. 083785
Fundamental Investment Analyst on Securities
[email protected] 0-2287-6783
Assistant Strategist : Sirapada Punyavansi
OO6792