WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DBSบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 
 
“Wait & See…รอผลประชุมเฟด”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
  ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศ : ตลาดรอดูผลประชุมเฟดวันที่ 21 มี.ค.61 โดยดูว่าเฟดมีมุมมองต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐและทิศทางอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้อย่างไร ซึ่งขณะนี้นักลงทุนในตลาดส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ (คือ เดือนมี.ค.,มิ.ย. และก.ย.) นอกจากนั้นความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐและความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าประเทศขนาดใหญ่ที่อาจจะกระทบประเทศเกิดใหม่ซึ่งรวมถึงไทย ก็กดดันและอาจทำให้ตลาดปรับขึ้นจำกัด แม้ว่าในช่วงปลายไตรมาสมีลุ้นกับ Window dressing ก็ตาม ให้กรอบดัชนีในช่วงนี้ไว้ที่ 1760-1830 จุด การเก็งกำไรตามรอบในหุ้น Big cap ก็เทรดไปตามกรอบดัชนีดังกล่าวและกรอบราคาของหุ้น
  หุ้น Update วันนี้ IVL – เรามีมุมมองที่เป็นบวกกับการเข้าซื้อกิจการและผลประกอบการปี 61 ของบริษัท โดยล่าสุด IVL ประกาศซื้อโรงงาน PET ที่ใหญ่สุดในบราซิล 100% คาดดีลแล้วเสร็จราว 2Q61 ราคาซื้อขายยังไม่ประกาศแต่มี Guidance ว่าอยู่ที่ EV/EBITDA ประมาณ 6-7 เท่า ซึ่งไม่ได้สูงมาก คาดดีลนี้ทำให้กำไรบริษัทเพิ่ม 1.5-2% ในปี 61 และเพิ่ม 4-5% ในปี 62 สำหรับ Core profit ปีนี้คาดว่าจะโต 18% (ยังไม่รวมดีลนี้) แนะนำซื้อ ให้ TP 65 บาท อิง P/E ปีนี้ที่ 17.5 เท่า
  SC - ฝ่ายวิจัยฯ DBSV คาดการณ์ว่ารายได้ปี 61 จะเป็นสถิติสูงสุดใหม่ คาดรายได้ปีนี้โต 35% เป็น 15.7 พันล้านบาท สำหรับ Backlog รอโอน ณ สิ้นปี 60 อยู่ที่ 4.84 พันล้านบาท (เป็นแนวราบ 39% ที่เหลือเป็นคอนโด) และจะเปิดขายโครงการใหม่ 17 โครงการปีนี้ (แนวราบ 15 โครงการ คอนโด 2 โครงการ) คาดกำไรสุทธิปี 61 จะเติบโตได้สูงที่ 58% และปี 62 ขยายตัวต่อ 8% นอกจากการเติบโตที่สูงแล้ว บริษัทยังมีความโดดเด่นเรื่องการจ่ายปันผลสูง คาดการณ์ Dividend Yield ปีนี้ประมาณ 5% แนะนำซื้อ ให้ TP 4.43 บาท...ในเชิงกลยุทธ์แนะนำ Switch จาก ANAN มายัง SC แทน
  วิเคราะห์เทคนิค : ภาพตลาดเป็นลบเล็กๆ การซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวก แนวต้าน 1810, (1820) จุด ต่ำกว่า 1795 จุดลดพอร์ตตามสำหรับหุ้นที่ราคามีโอกาสทำ New High ที่เข้ามาใหม่เป็น TOA, TRUE, TPAC, MEGA ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ AEONTS, TOP, AJ, KTB, MAJOR, VNT, MBK, PTTEP, TWPC, GFPT หุ้นที่หลุด List คือ MCOT, HANA และหุ้นที่แนะนำไปแล้วให้หาจังหวะ Take profit คือ BCH, WP
ปัจจัยต่างประเทศ
• สหรัฐ : อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับขึ้นก่อนการประชุมเฟด 21 มี.ค.61
  # ติดตามผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 20-21 มี.ค.นี้ ขณะที่ CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่านักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 86% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้
  # ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งขึ้นล่วงหน้าก่อนการประชุมเฟด โดย Dollar index ขยับขึ้นเป็น 90.3 จาก 89.7 ใน 3-4 วันทำการก่อน
  # อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US bond yield) ปรับขึ้นก่อนการประชุมเฟด ซึ่งเป็นไปในทางเดียวกับกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้....สิ่งที่ควรระวัง คือ การอ่อนลงของ Yield หลังจบการประชุมภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : ดัชนีปิด -335.60 จุด
  # ดัชนี DJIA ปิด 24,610.91 จุด -335.60 จุด หรือ -1.35% ดัชนี S&P500 ปิด 2,712.92 จุด -39.09 จุด หรือ -1.42% และ ดัชนี Nasdaq ปิด 7,344.24 จุด -137.74 จุด หรือ -1.84% เนื่องจากการดิ่งลงอย่างหนักของหุ้นเฟซบุ๊กได้ฉุดหุ้นตัวอื่นๆ ในกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงด้วย โดยหุ้นเฟซบุ๊กทรุดตัวลงจากรายงานข่าวที่ว่า แคมบริดจ์ อนาลิติกา ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์การเมือง สามารถเข้าถึงข้อมูลโปรไฟล์ของผู้ใช้บริการเฟซบุ๊กจำนวน 50 ล้านคนโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความผันผวนทางการเมืองในสหรัฐ และการที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้ตามเวลสหรัฐ
ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาอ่อนลง 0.4%
  # สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 28 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 62.06 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 16 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 66.05 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในสหรัฐ ซึ่งรวมถึงรายงานที่ว่าแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้การร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นนิวยอร์กยังส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมันด้วยเช่นกันภาวะตลาดทองคำ : ราคาปรับขึ้น 0.4%
  # สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 5.5 ดอลลาร์ หรือ 0.42% ปิดที่ 1,317.8 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้การร่วงลงอย่างหนักของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวเด่นบจ.
+ SC (ราคาปิด 3.86 บาท) : คาดกำไรปี 61 เติบโตแข็งแกร่ง
  # ฝ่ายวิจัยฯ DBSV คาดการณ์ว่ารายได้ปี 61 จะเป็นสถิติสูงสุดใหม่ โดยตั้งเป้าหมายโต 47% เป็น 17 พันล้านบาท แต่ในประมาณการเราให้โต 35% เป็น 15.7 พันล้านบาท สำหรับ Backlog รอโอน ณ สิ้นปี 60 อยู่ที่ 4.84 พันล้านบาท (เป็นแนวราบ 39% ที่เหลือเป็นคอนโด)
  # บ้านแนวราบยังไปได้ดี ในปี 61 จะเปิดขายโครงการบ้านแนวราบ 15 โครงการ และคอนโด 2 โครงการ โดยจะเจาะลูกค้าระดับ Mass มากขึ้น (ผ่านแบรนด์ Pave และ Verve) และในปีนี้จะขยายไปในต่างจังหวัด ซึ่งอยู่ในเขต EEC คือ ฉะเชิงเทราเป็นครั้งแรก โดยจะเปิด 2 โครงการเป็นบ้านเดี่ยวที่บ้านโพและที่บางปะกง
  # แนะนำซื้อ โดยคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิปี 61 จะเติบโตได้สูงที่ 58% และปี 62 ขยายตัวต่อ 8% ซึ่งเป็นผลจากรายได้ที่ขยายตัวสูง และมี Economy of scale มากขึ้น นอกจากการเติบโตที่สูงแล้ว บริษัทยังมีความโดดเด่นเรื่องการจ่ายปันผลสูง คาดการณ์ Dividend Yield ปีนี้ประมาณ 5%
+ ลุ้น Window dressing ช่วงปลายเดือนมี.ค.เพื่อปิดงบฯ ไตรมาส 1/61
  # นักลงทุนมีความหวังว่าจะมีการทำราคาปิดสิ้นไตรมาส 1/61 (Window dressing) จากนักลงทุนสถาบันในช่วงสัปดาห์สุดท้าย โดยหุ้นที่อยู่ในข่ายที่จะทำราคาปิดมักเป็นหุ้นขนาดใหญ่ (Big cap) ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
OO6734

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!