- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 19 March 2018 19:40
- Hits: 5724
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Summary 16/03/2018
Close 1,811.76 Volume Bt76,036M
Change -4.32 P/E 18.65
%Change -0.24% P/BV 2.11
Market Summary 16/03/2018
Close 1,811.76 Volume Bt76,036M
Change -4.32 P/E 18.65
%Change -0.24% P/BV 2.11
หุ้นแนะนำพิเศษ
PTTEP (ราคาปิด 117 Bloomberg Consesus 124.75)
ผลบวกจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นสู่ 62.34$/bbl จากความเชื่อมั่นว่าซาอุดิอาระเบียจะเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันต่อไป นอกจากนี้ IEA ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกขึ้นในปีนี้เป็นปัจจัยหนุนต่อราคาน้ำมันในช่วงเดือนที่ผ่านมา
Bloomberg Consensus คาดผลประกอบการปี 61 อยู่ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท +71%YoY เนื่องจากคาดว่ากำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้น 2 KBD สู่ 302 KBD และราคาจำหน่ายก๊าซฯ ปรับตัวขึ้นจาก 5.6 $/mmbtu สู่ 6.2 $/mmbtu ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นนอกจากนี้ยังมีการปรับราคาจำหน่ายก๊าซฯ ในพม่าเพิ่มเติม ขณะที่ต้นทุนการผลิตคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ 30 $/bbl
ส่องหุ้น
BEAUTY แนวรับ 20.80 , 20.40 บาท แนวต้าน 21.20 บาท
ระดับราคาเริ่มดีดกลับขึ้นมาต่อเนื่องและปิดได้ในระดับสูงสุดของวัน โดยปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5, 10 และ 75 วันได้ ท่ามกลางวอลุ่มซื้อขายที่ลดลงเล็กน้อย หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 75 วันแถวๆ 20.80 บาทซะก่อน หรือเต็มที่ไม่หลุดเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 20.40 บาท ระดับราคามีโอกาสดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 25 วันที่ 21.20 บาทต่อไป
JMART แนวรับ 14.60 บาท แนวต้าน 15.30 , 16.10 บาท
ระดับราคาเริ่มดีดกลับขึ้นมาปิดได้ในระดับสูงสุดของวัน โดยปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันได้ ท่ามกลางวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มขึ้นพอสมควร หากวันนี้ระดับราคาอ่อนตัวกลับลงมาไม่หลุดปิดต่ำกว่า 14.60 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับผ่าน 15.30 บาท ก่อนผ่านขึ้นทำ New high เล็กๆ แถวๆ 16.10 บาทต่อไป
EE แนวรับ 0.64 บาท แนวต้าน 0.68 , 0.72 บาท
ระดับราคาเริ่มดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบสัปดาห์ได้อีกครั้ง หลังจากครั้งที่แล้วมีความพยายามกระตุกขึ้นมาเล็กน้อยพร้อมดีดกลับ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันที่ 0.64 บาทอีก ระดับราคาจึงจะมีลุ้นขึ้นต่อได้แถวๆ 0.68 บาท ก่อนผ่านขึ้นทดสอบ 0.72 บาทได้ต่อไป
Market View : เลือกเล่นรายกลุ่ม
หุ้นแนะนำพิเศษ : PTTEP
หุ้นมีข่าว : SYNEX TKS TBSP SQ U TRUE AMA ANAN TACC
Technical Insight : GFPT ICN
ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ยังคงเป็น Sideway ในกรอบใกล้เคียงกับวันทำการก่อนหน้าและปิดที่แดนลบ ท่ามกลางตลาดหุ้นในภูมิภาคที่เป็นบวกสลับลบ จากทั้งกังวลสงครามการค้าและการจับตาประชุม FED โดยรวม SET Index กดดันโดยกลุ่ม ENERG ส่วน COMUN และ PETRO มาชดเชย จึงปิดที่ 1,811.76 จุด (-4.32 จุด) Volume 7.6 หมื่นลบ.โดย Foreign Net -1,442.13 ลบ. TFEX Net +1,793 สัญญา ตราสารหนี้ +1,063.00 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+ดาวโจนส์ปิดบวกโดยได้ปัจจัยหนุนจากการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ.ที่ขยายตัวแข็งแกร่งสุดในรอบ 4 เดือน อย่างไรก็ตามตัวเลขสร้างบ้านสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในเดือนก.พ.
+น้ำมันดิบปิดพุ่งขึ้นหลังจากผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.ของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสูดในรอบ 14 ปี
+ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ยูโรโซนชะลอตัวลงสู่ระดับ 1.1% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี
+รัฐสภาญี่ปุ่นมีมติรับรอง "คุโรดะ" นั่งผู้ว่าการ BOJ ต่ออีกสมัย คาดเดินหน้านโยบายการเงินเชิงรุกต่อไป
+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 5.05 หมื่นล้านบาท ขณะที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นสู่ 31.23 บาท/USD
**20 – 21 มี.ค. กำหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ตลาดคาดที่ประชุมจะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ได้รับปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นต่างประเทศ และราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น และตัวเลขเงินเฟ้อยูโรโซนที่ชะลอตัวจึงไม่กดดัน ECB ในการเร่งลดมาตรการ QE โดยมีปัจจัยกดดันจากจาก Fund Flow ผันผวน ดังนั้น คาด SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,800-1,820 จุด
กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
- TOP M BCPG หุ้นที่ได้เข้าคำนวณ FTSE
- CPF GFPT TFG จีนรับรองมาตรฐานโรงงานผลิตไก่ไทย
- ERW ได้ประโยชน์จากการส่งเสริมท่องเที่ยวเมืองรองและนักท่องเที่ยวจีน
- หุ้นปันผลเด่น BAFS CRD FTE GLOW KKP NYT SIS SPRC TISCO QH PDI PL AIT TKS AP KIAT
- BEC เรตติ้งรวมปรับขึ้นยกแผงช่วง prime time ขายโฆษณาขยับเป็น 100% จากเดิม 85% อัตรานาทีละ 480,000 บาท
- หุ้นที่ควรหลีกเลี่ยง กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์จากค่าเงินบาทแข็งค่าสู่ 31.23 บาท/$ (ต้นปี 17 อยู่ที่ 34 บาท/$) และราคาทองแดงทรงตัวในระดับสูง 6,950 $/Ton(ต้นปี 17 อยู่ที่ 5,600 $/Ton)
หุ้นมีข่าว
SYNEX TKS TBSP Analyst meeting
(-) TKS และ TBSP อยู่ในอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ที่อุตสาหกรรมยังคงหดตัว ทางบริษัทจึงต้องปรับตัวโดยทำการพิมพ์แบบป้องกันการลอกเลียน อย่างไรก็ตามคู่ค้าได้พยายามลดการใช้คูปองและกระดาษลงและหันไปใช้ในรูปแบบ Eletronic Paper มากขึ้นเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า ทำให้บริษัทต้องขยายตลาดไปยังต่างประเทศเพิ่มขึ้นโดยเน้นที่ประเทศพม่าซึ่งยังคงมีการใช้คูปองและกระดาษอยู่ อย่างไรก็ตามราคาหุ้นถูกกดดันจากการประกาศเพิ่มทุนของ TKS (RO 6 หุ้นเดิม : 1หุ้นใหม่ที่ 10 บาท) เพื่อมาทำคำเสนอซื้อ TBSP ที่ 15.70 บาท
(-) SYNEX ปี 61 ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ 3.75 หมื่นล้านบาทเติบโตเพียง 15% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตย้อนหลัง 4 ปีที่ 7% (ราคาหุ้นซื้อขายที่ PE 10-15 เท่า) ขณะที่ปี 60 รายได้เติบโตมากถึง 50% ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปซื้อขายที่ PE 18-24 เท่า เราจึงมีความกังวลว่าการที่รายได้เติบโตช้าลงชะส่งผลให้ตลาดกลับมาซื้อขายที่ PE ในอดีตที่ 10-15 เท่า
ปัจจัยเสี่ยงต่อ SQ ดินทรุดตัว ใกล้เหมืองแม่เมาะ เป็นทางยาวเกือบ 1 กม. ทำถนนมีรอยแตกลึก คอสะพานขาด เสาไฟฟ้าโค่นกว่า 30 ต้น (ที่มา www.thairath.co.th)
ความเห็น จากการสอบถามไปยังบริษัทพอว่าเป็นพื้นที่ของ SQ ที่ใช้ในการทิ้งดินและเกิดเหตุดินทรุดตัว โดยเรามองเป็นผลลบต่อ SQ ที่อาจต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมสาธารูปโภคที่เสียหายซึ่งยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้
ANAN Analyst Meeting (ราคาปิด 4.26)
ประมาณการรายได้ปีนี้มีความเสี่ยงต่ำกว่าเป้าเดิมเนื่องจากความล่าช้าในการโอนโครงการแอชตัน-อโศก มูลค่ารวม 6,705 ล้านบาท มียอดจองแล้ว 98% เนื่องจากยังไม่ได้รับใบอนุญาตใช้อาคาร และบริษัทได้ส่งจดหมายแจ้งลูกค้าขอขยายระยะเวลาส่งมอบโครงการจากเดิม 26 มี.ค. 61 เป็นภายใน 26 มี.ค. 62 ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเป็นโครงการร่วมทุนที่ ANAN ถือหุ้น 51% ซึ่งจะกระทบยอดโอนตามสัดส่วนถือหุ้น ทำให้เป้ารายได้ของบริษัทลดลง 15% จากเดิม 2.2 หมื่นลบ.เหลือ 1.87 หมื่นลบ.
ความเห็น หากไม่สามารถโอนโครงการแอชตัน-อโศกได้จะกระทบรายได้ราว 15% ตามสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการร่วมทุน ทั้งนี้เป้ารายได้หลังตัดโครงการแอชตันออกเหลือ 1.87 หมื่นลบ.เติบโตราว 55% (เติบโต 83% หากรวมโครงการแอชตัน) ทั้งนี้ปีนี้มีแผนโอนโครงการรวม 9 โครงการ อย่างไรก็ดี คาดว่า Consensus จะปรับลดประมาณการรายได้และกำไรลดลงจากเดิม ทั้งนี้เดิม Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 61 อยู่ที่ราว 2,215 ลบ. เติบโต 67% แนะนำ wait & see
TACC analyst Meeting (ราคาปิด 4.70 Bloomberg Consensus 6.80)
กำไรปี 60 เท่ากับ 112 ลบ. + 10% โดยมีรายได้ 1,281 ลบ. +8.9% อัตรากำไรขั้นต้นปรับลงเหลือ 30.22% จาก30.35% ในปี 59 เนื่องจากใน 4Q60 โดนเก็บภาษีน้ำตาลทำให้มีคชจ.เพิ่มขึ้น ส่วนธุรกิจเครื่องดื่มในกัมพูชามีปัญหาสงครามราคา ทั้งนี้ คาด 1Q61 ยังโดนผลกระทบจากภาษีน้ำตาลต่อเนื่อง แต่คาดว่าสถานการณ์จะเริ่มดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังจากการปรับตัวในการปรับสูตรส่วนผสมเครื่องดื่มที่จะใช้น้ำตาลน้อยลง (มีผล เม.ย.) ส่วนธุรกิจเครื่องดื่มในกัมพูชาบริษัทปรับกลยุทธ์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นเพื่อเลี่ยงสงครามราคา สำหรับกลยุทธ์ในปี 3 ปีข้างหน้าบริษัทมีนโยบายปรับสัดส่วนรายได้กลุ่มสินค้าของบริษัทเองเพิ่มเป็น 35% : สัดส่วนสินค้า OEM สำหรับ 7-11 65% จากปัจจุบัน 12% ต่อ 88%
ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อผลประกอบการในครึ่งปีหลังของปีนี้ที่คาดว่าสถานการณ์น่าจะปรับดีขึ้น จากค่าภาษีน้ำตาลที่มีแนวโน้มลดลงหลังปรับสูตรใหม่ โดยยังต้องติดตามพัฒนาการในการเลี่ยงสงครามราคาในตลาดกัมพูชา ส่วนโอกาสในอนาคตอยู่ที่การได้รับลิขสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายตัวการ์ตูน Rilakkuma ที่จะเริ่มมีผลในเดือนเม.ย.
TRUE (ราคาปิด 7.05 บาท Bloomberg Consensus 7.18 บาท) เดินหน้าโกยฐานลูกค้าองค์กร และ SME หลังล่าสุดเปิดตัวแพ็กเกจ "Business Buffet No Limit" ให้โทรฟรีในกลุ่มไม่จำกัด พร้อมเร่งขยายโครงข่ายไฟเบอร์อย่างต่อเนื่อง ทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และในพื้นที่ต่างจังหวัด
โอกาสในการเพิ่มฐานลูกค้าของ TRUE เริ่มเปิดกว้างมากขึ้นเนื่องจากผู้ประกอบการอันดับ 3 อย่าง DTAC ยังคงเผชิญกับความเสี่ยงด้านการมีใบอนุญาตคลื่นเพื่อประกอบการต่อเนื่องทั้ง คลื่น 2300 Mhz ที่ยังรอการตอบรับจากสำนักงานอัยการสูงสุด และคลื่น 900 - 1800 Mhz ที่ยังรอ กสทช.ชุดใหม่อีก 1 - 2 เดือน นอกจากนี้ TRUE ยังน่าจะได้รับกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน DIF ครั้งที่ 3 ซึ่งมีมูลค่ามากกว่าครั้งที่ 2 กว่า 2 - 3 เท่า และล่าสุดยังเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากการขยายระยะเวลาการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตงวดสุดท้าย (คสช.จะมีการพิจาณาวันที่ 27 มี.ค. 61) จึงแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร"
(+) U ธนารักษ์เตรียมเสนอโครงการหมอชิต-ร้อยชักสาม กว่า 2.7 หมื่นล้านเข้าครม.เร็วๆ นี้ ยูซิตี้ หรือ U ประกาศเดินหน้าโรงแรมหรู ร้อยชักสาม ริมเจ้าพระยา อายุสัมปทานเพิ่มเป็น 36 ปี จากเดิม 30 ปี ด้านบางกอกเทอมินอลพร้อมพัฒนาหมอชิต เนรมิตเป็นคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ (ที่มาข่าวหุ้น)
(+) IVL มาตามนัด ประกาศเข้าซื้อกิจการ “M&G Polimeros Brazil S.A.” ในบราซิล กำลังผลิต 5.5 แสนตัน/ปี เพื่อเสริมแกร่งธุรกิจ PET เหตุเป็นโรงงานใหญ่ที่สุดในบราซิล ฟาก “อาลก” ลั่นจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/61 (ที่มาข่าวหุ้น)
AMA (ราคาปิด 13.67 บาท ทยอยซื้อ ราคาเหมาะสม 17 บาท (หลัง XR))จากการประกาศจ่ายปันผลเป็น 1) เงินสดหุ้นละ 0.20 บาท และ 2) เป็นหุ้น 5 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ โดยเป็นผลให้เกิด Price Dilution Effect ซึ่งคาดว่าราคาหุ้นหลัง XR จะอยู่ที่ 13.5 บาท (อิงจากราคาปิดเมื่อวันศุกร์ที่ 16 มี.ค. 61) และจะมีราคาเหมาะสมใหม่อยู่ที่ 17 บาท (จากเดิมที่ 20.5 บาท)
PTTEP (ราคาปิด 117 Bloomberg Consesus 124.75)
ผลบวกจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นสู่ 62.34$/bbl จากความเชื่อมั่นว่าซาอุดิอาระเบียจะเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันต่อไป นอกจากนี้ IEA ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกขึ้นในปีนี้เป็นปัจจัยหนุนต่อราคาน้ำมันในช่วงเดือนที่ผ่านมา
Bloomberg Consensus คาดผลประกอบการปี 61 อยู่ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท +71%YoY เนื่องจากคาดว่ากำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้น 2 KBD สู่ 302 KBD และราคาจำหน่ายก๊าซฯ ปรับตัวขึ้นจาก 5.6 $/mmbtu สู่ 6.2 $/mmbtu ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นนอกจากนี้ยังมีการปรับราคาจำหน่ายก๊าซฯ ในพม่าเพิ่มเติม ขณะที่ต้นทุนการผลิตคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ 30 $/bbl
ส่องหุ้น
BEAUTY แนวรับ 20.80 , 20.40 บาท แนวต้าน 21.20 บาท
ระดับราคาเริ่มดีดกลับขึ้นมาต่อเนื่องและปิดได้ในระดับสูงสุดของวัน โดยปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5, 10 และ 75 วันได้ ท่ามกลางวอลุ่มซื้อขายที่ลดลงเล็กน้อย หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 75 วันแถวๆ 20.80 บาทซะก่อน หรือเต็มที่ไม่หลุดเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 20.40 บาท ระดับราคามีโอกาสดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 25 วันที่ 21.20 บาทต่อไป
JMART แนวรับ 14.60 บาท แนวต้าน 15.30 , 16.10 บาท
ระดับราคาเริ่มดีดกลับขึ้นมาปิดได้ในระดับสูงสุดของวัน โดยปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันได้ ท่ามกลางวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มขึ้นพอสมควร หากวันนี้ระดับราคาอ่อนตัวกลับลงมาไม่หลุดปิดต่ำกว่า 14.60 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับผ่าน 15.30 บาท ก่อนผ่านขึ้นทำ New high เล็กๆ แถวๆ 16.10 บาทต่อไป
EE แนวรับ 0.64 บาท แนวต้าน 0.68 , 0.72 บาท
ระดับราคาเริ่มดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบสัปดาห์ได้อีกครั้ง หลังจากครั้งที่แล้วมีความพยายามกระตุกขึ้นมาเล็กน้อยพร้อมดีดกลับ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันที่ 0.64 บาทอีก ระดับราคาจึงจะมีลุ้นขึ้นต่อได้แถวๆ 0.68 บาท ก่อนผ่านขึ้นทดสอบ 0.72 บาทได้ต่อไป
Market View : เลือกเล่นรายกลุ่ม
หุ้นแนะนำพิเศษ : PTTEP
หุ้นมีข่าว : SYNEX TKS TBSP SQ U TRUE AMA ANAN TACC
Technical Insight : GFPT ICN
ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ยังคงเป็น Sideway ในกรอบใกล้เคียงกับวันทำการก่อนหน้าและปิดที่แดนลบ ท่ามกลางตลาดหุ้นในภูมิภาคที่เป็นบวกสลับลบ จากทั้งกังวลสงครามการค้าและการจับตาประชุม FED โดยรวม SET Index กดดันโดยกลุ่ม ENERG ส่วน COMUN และ PETRO มาชดเชย จึงปิดที่ 1,811.76 จุด (-4.32 จุด) Volume 7.6 หมื่นลบ.โดย Foreign Net -1,442.13 ลบ. TFEX Net +1,793 สัญญา ตราสารหนี้ +1,063.00 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+ดาวโจนส์ปิดบวกโดยได้ปัจจัยหนุนจากการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ.ที่ขยายตัวแข็งแกร่งสุดในรอบ 4 เดือน อย่างไรก็ตามตัวเลขสร้างบ้านสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในเดือนก.พ.
+น้ำมันดิบปิดพุ่งขึ้นหลังจากผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.ของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสูดในรอบ 14 ปี
+ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ยูโรโซนชะลอตัวลงสู่ระดับ 1.1% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี
+รัฐสภาญี่ปุ่นมีมติรับรอง "คุโรดะ" นั่งผู้ว่าการ BOJ ต่ออีกสมัย คาดเดินหน้านโยบายการเงินเชิงรุกต่อไป
+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 5.05 หมื่นล้านบาท ขณะที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นสู่ 31.23 บาท/USD
**20 – 21 มี.ค. กำหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ตลาดคาดที่ประชุมจะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ได้รับปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นต่างประเทศ และราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น และตัวเลขเงินเฟ้อยูโรโซนที่ชะลอตัวจึงไม่กดดัน ECB ในการเร่งลดมาตรการ QE โดยมีปัจจัยกดดันจากจาก Fund Flow ผันผวน ดังนั้น คาด SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,800-1,820 จุด
กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
- TOP M BCPG หุ้นที่ได้เข้าคำนวณ FTSE
- CPF GFPT TFG จีนรับรองมาตรฐานโรงงานผลิตไก่ไทย
- ERW ได้ประโยชน์จากการส่งเสริมท่องเที่ยวเมืองรองและนักท่องเที่ยวจีน
- หุ้นปันผลเด่น BAFS CRD FTE GLOW KKP NYT SIS SPRC TISCO QH PDI PL AIT TKS AP KIAT
- BEC เรตติ้งรวมปรับขึ้นยกแผงช่วง prime time ขายโฆษณาขยับเป็น 100% จากเดิม 85% อัตรานาทีละ 480,000 บาท
- หุ้นที่ควรหลีกเลี่ยง กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์จากค่าเงินบาทแข็งค่าสู่ 31.23 บาท/$ (ต้นปี 17 อยู่ที่ 34 บาท/$) และราคาทองแดงทรงตัวในระดับสูง 6,950 $/Ton(ต้นปี 17 อยู่ที่ 5,600 $/Ton)
หุ้นมีข่าว
SYNEX TKS TBSP Analyst meeting
(-) TKS และ TBSP อยู่ในอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ที่อุตสาหกรรมยังคงหดตัว ทางบริษัทจึงต้องปรับตัวโดยทำการพิมพ์แบบป้องกันการลอกเลียน อย่างไรก็ตามคู่ค้าได้พยายามลดการใช้คูปองและกระดาษลงและหันไปใช้ในรูปแบบ Eletronic Paper มากขึ้นเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า ทำให้บริษัทต้องขยายตลาดไปยังต่างประเทศเพิ่มขึ้นโดยเน้นที่ประเทศพม่าซึ่งยังคงมีการใช้คูปองและกระดาษอยู่ อย่างไรก็ตามราคาหุ้นถูกกดดันจากการประกาศเพิ่มทุนของ TKS (RO 6 หุ้นเดิม : 1หุ้นใหม่ที่ 10 บาท) เพื่อมาทำคำเสนอซื้อ TBSP ที่ 15.70 บาท
(-) SYNEX ปี 61 ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ 3.75 หมื่นล้านบาทเติบโตเพียง 15% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตย้อนหลัง 4 ปีที่ 7% (ราคาหุ้นซื้อขายที่ PE 10-15 เท่า) ขณะที่ปี 60 รายได้เติบโตมากถึง 50% ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปซื้อขายที่ PE 18-24 เท่า เราจึงมีความกังวลว่าการที่รายได้เติบโตช้าลงชะส่งผลให้ตลาดกลับมาซื้อขายที่ PE ในอดีตที่ 10-15 เท่า
ปัจจัยเสี่ยงต่อ SQ ดินทรุดตัว ใกล้เหมืองแม่เมาะ เป็นทางยาวเกือบ 1 กม. ทำถนนมีรอยแตกลึก คอสะพานขาด เสาไฟฟ้าโค่นกว่า 30 ต้น (ที่มา www.thairath.co.th)
ความเห็น จากการสอบถามไปยังบริษัทพอว่าเป็นพื้นที่ของ SQ ที่ใช้ในการทิ้งดินและเกิดเหตุดินทรุดตัว โดยเรามองเป็นผลลบต่อ SQ ที่อาจต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมสาธารูปโภคที่เสียหายซึ่งยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้
ANAN Analyst Meeting (ราคาปิด 4.26)
ประมาณการรายได้ปีนี้มีความเสี่ยงต่ำกว่าเป้าเดิมเนื่องจากความล่าช้าในการโอนโครงการแอชตัน-อโศก มูลค่ารวม 6,705 ล้านบาท มียอดจองแล้ว 98% เนื่องจากยังไม่ได้รับใบอนุญาตใช้อาคาร และบริษัทได้ส่งจดหมายแจ้งลูกค้าขอขยายระยะเวลาส่งมอบโครงการจากเดิม 26 มี.ค. 61 เป็นภายใน 26 มี.ค. 62 ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเป็นโครงการร่วมทุนที่ ANAN ถือหุ้น 51% ซึ่งจะกระทบยอดโอนตามสัดส่วนถือหุ้น ทำให้เป้ารายได้ของบริษัทลดลง 15% จากเดิม 2.2 หมื่นลบ.เหลือ 1.87 หมื่นลบ.
ความเห็น หากไม่สามารถโอนโครงการแอชตัน-อโศกได้จะกระทบรายได้ราว 15% ตามสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการร่วมทุน ทั้งนี้เป้ารายได้หลังตัดโครงการแอชตันออกเหลือ 1.87 หมื่นลบ.เติบโตราว 55% (เติบโต 83% หากรวมโครงการแอชตัน) ทั้งนี้ปีนี้มีแผนโอนโครงการรวม 9 โครงการ อย่างไรก็ดี คาดว่า Consensus จะปรับลดประมาณการรายได้และกำไรลดลงจากเดิม ทั้งนี้เดิม Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 61 อยู่ที่ราว 2,215 ลบ. เติบโต 67% แนะนำ wait & see
TACC analyst Meeting (ราคาปิด 4.70 Bloomberg Consensus 6.80)
กำไรปี 60 เท่ากับ 112 ลบ. + 10% โดยมีรายได้ 1,281 ลบ. +8.9% อัตรากำไรขั้นต้นปรับลงเหลือ 30.22% จาก30.35% ในปี 59 เนื่องจากใน 4Q60 โดนเก็บภาษีน้ำตาลทำให้มีคชจ.เพิ่มขึ้น ส่วนธุรกิจเครื่องดื่มในกัมพูชามีปัญหาสงครามราคา ทั้งนี้ คาด 1Q61 ยังโดนผลกระทบจากภาษีน้ำตาลต่อเนื่อง แต่คาดว่าสถานการณ์จะเริ่มดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังจากการปรับตัวในการปรับสูตรส่วนผสมเครื่องดื่มที่จะใช้น้ำตาลน้อยลง (มีผล เม.ย.) ส่วนธุรกิจเครื่องดื่มในกัมพูชาบริษัทปรับกลยุทธ์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นเพื่อเลี่ยงสงครามราคา สำหรับกลยุทธ์ในปี 3 ปีข้างหน้าบริษัทมีนโยบายปรับสัดส่วนรายได้กลุ่มสินค้าของบริษัทเองเพิ่มเป็น 35% : สัดส่วนสินค้า OEM สำหรับ 7-11 65% จากปัจจุบัน 12% ต่อ 88%
ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อผลประกอบการในครึ่งปีหลังของปีนี้ที่คาดว่าสถานการณ์น่าจะปรับดีขึ้น จากค่าภาษีน้ำตาลที่มีแนวโน้มลดลงหลังปรับสูตรใหม่ โดยยังต้องติดตามพัฒนาการในการเลี่ยงสงครามราคาในตลาดกัมพูชา ส่วนโอกาสในอนาคตอยู่ที่การได้รับลิขสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายตัวการ์ตูน Rilakkuma ที่จะเริ่มมีผลในเดือนเม.ย.
TRUE (ราคาปิด 7.05 บาท Bloomberg Consensus 7.18 บาท) เดินหน้าโกยฐานลูกค้าองค์กร และ SME หลังล่าสุดเปิดตัวแพ็กเกจ "Business Buffet No Limit" ให้โทรฟรีในกลุ่มไม่จำกัด พร้อมเร่งขยายโครงข่ายไฟเบอร์อย่างต่อเนื่อง ทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และในพื้นที่ต่างจังหวัด
โอกาสในการเพิ่มฐานลูกค้าของ TRUE เริ่มเปิดกว้างมากขึ้นเนื่องจากผู้ประกอบการอันดับ 3 อย่าง DTAC ยังคงเผชิญกับความเสี่ยงด้านการมีใบอนุญาตคลื่นเพื่อประกอบการต่อเนื่องทั้ง คลื่น 2300 Mhz ที่ยังรอการตอบรับจากสำนักงานอัยการสูงสุด และคลื่น 900 - 1800 Mhz ที่ยังรอ กสทช.ชุดใหม่อีก 1 - 2 เดือน นอกจากนี้ TRUE ยังน่าจะได้รับกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน DIF ครั้งที่ 3 ซึ่งมีมูลค่ามากกว่าครั้งที่ 2 กว่า 2 - 3 เท่า และล่าสุดยังเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากการขยายระยะเวลาการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตงวดสุดท้าย (คสช.จะมีการพิจาณาวันที่ 27 มี.ค. 61) จึงแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร"
(+) U ธนารักษ์เตรียมเสนอโครงการหมอชิต-ร้อยชักสาม กว่า 2.7 หมื่นล้านเข้าครม.เร็วๆ นี้ ยูซิตี้ หรือ U ประกาศเดินหน้าโรงแรมหรู ร้อยชักสาม ริมเจ้าพระยา อายุสัมปทานเพิ่มเป็น 36 ปี จากเดิม 30 ปี ด้านบางกอกเทอมินอลพร้อมพัฒนาหมอชิต เนรมิตเป็นคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ (ที่มาข่าวหุ้น)
(+) IVL มาตามนัด ประกาศเข้าซื้อกิจการ “M&G Polimeros Brazil S.A.” ในบราซิล กำลังผลิต 5.5 แสนตัน/ปี เพื่อเสริมแกร่งธุรกิจ PET เหตุเป็นโรงงานใหญ่ที่สุดในบราซิล ฟาก “อาลก” ลั่นจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/61 (ที่มาข่าวหุ้น)
AMA (ราคาปิด 13.67 บาท ทยอยซื้อ ราคาเหมาะสม 17 บาท (หลัง XR))จากการประกาศจ่ายปันผลเป็น 1) เงินสดหุ้นละ 0.20 บาท และ 2) เป็นหุ้น 5 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ โดยเป็นผลให้เกิด Price Dilution Effect ซึ่งคาดว่าราคาหุ้นหลัง XR จะอยู่ที่ 13.5 บาท (อิงจากราคาปิดเมื่อวันศุกร์ที่ 16 มี.ค. 61) และจะมีราคาเหมาะสมใหม่อยู่ที่ 17 บาท (จากเดิมที่ 20.5 บาท)
นักวิเคราะห์ 02-672-5999 ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
วิลาสินี บุญมาสูงทรง ext.5937 ระพีพัฒน์ ด่านไพบูลย์
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ext.5936 สรรพกัณฑ์ ปัทมบริสุทธิ์
ธนวินท์ พิเชษฐศิริพร ext.5940 ทศพล วิไลประภากร
OO6660
วิลาสินี บุญมาสูงทรง ext.5937 ระพีพัฒน์ ด่านไพบูลย์
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ext.5936 สรรพกัณฑ์ ปัทมบริสุทธิ์
ธนวินท์ พิเชษฐศิริพร ext.5940 ทศพล วิไลประภากร
OO6660