- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 15 March 2018 18:12
- Hits: 2963
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“ระวังผันผวน…ซื้อ/ถือเหนือ 1800”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ORI (จากถือเป็นซื้อ)
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศ : SET Index เมื่อวานนี้ - บวกต่อเล็กน้อย ปิดตลาด +3.50 จุดที่ 1813.40 นักลงทุนต่างชาติ สถาบันในประเทศ และพอร์ตบล.ซื้อสุทธิ ส่วนรายย่อยขายสุทธิ ทั้งนี้ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นเพราะ US$ อ่อนจากความกังวลการเมืองในสหรัฐ ก็อาจเป็นหนึ่งในมูลเหตุจูงใจให้ต่างชาติกลับเข้ามาซื้อหุ้น รวมทั้งมีการซื้อคืนหุ้นที่ยืมไปชอร์ตก่อนหน้า (SBL) เพราะช่วงขึ้น XD เจ้าของหุ้นก็ต้องการเงินปันผล สำหรับวันนี้ – ตลาดกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน หลังปธน.ทรัมป์มีแผนออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศ, โทรคมนาคม และสินค้าเพื่อผู้บริโภคจากจีน วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ และยังกดดันให้จีนจัดทำแผนลดตัวเลขเกินดุลการค้า 1 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากเมื่อปี 60 จีนมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐ 3.752 แสนล้านดอลลาร์
กลยุทธ์ลงทุน - เลือกซื้อ/ถือเมื่อ SET เหนือ 1800 จุด ปัจจัยจับตา – การประชุมเฟด 20-21 มี.ค.นี้ ซึ่งโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยรอบนี้สูงกว่า 80% อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อเดือนก.พ.ที่เพิ่มน้อยลง (เดือนก.พ. CPI +0.2%MoM, PPI +0.2%MoM อ่อนลงจากเดือนม.ค.ที่ CPI +0.5%MoM, PPI +0.4%MoM) ทำให้ความกังวลเรื่องเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ผ่อนคลายลงในช่วงสั้น
หุ้น Update วันนี้เป็น GFPT – ปัจจัยแวดล้อมของธุรกิจดีขึ้นจาก 1. ทางการจีนรับรองให้ 7 บริษัทไก่ของไทยส่งออกไปจีนได้แล้ว ซึ่งรวมถึง CPF, GFPT, TFG โดยเริ่มส่งออกล็อตแรกเดือนมี.ค.นี้, 2. การส่งออกไปยุโรปคาดว่าจะดีขึ้นตั้งแต่ปลาย 2Q61, 3. ราคาข้าวโพดที่เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์เริ่มลดลงในเดือนมี.ค.61 ทาง DBS ให้ราคาพื้นฐาน GFPT ไว้ที่ 14.90 บาท ซึ่งมี Upside จากราคาปิดวานนี้ 8.8%
TISCO – จ่ายปันผลสูง สำหรับปี 60 ประกาศจ่ายปันผล 5 บาท/หุ้น ขึ้น XD 27 เม.ย.61 ณ ราคาหุ้น 88.50 บาทให้ Dividend yield สูงถึง 5.6%
วิเคราะห์เทคนิค : ภาพตลาดเป็นบวกเล็กๆ การซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวก แนวต้าน 1815-1820, 1830 จุด ต่ำกว่า 1800 จุดลดพอร์ตตาม สำหรับหุ้นที่ราคามีโอกาสทำ New High ที่เข้ามาใหม่เป็น TISCO, SAWAD, SCC, TOP, AJ, BLAND, MAKRO, MCOT ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ GOLD, THCOM, AEONTS, CPALL หุ้นที่หลุด List เป็น KTB และหุ้นที่แนะนำไปแล้วให้หาจังหวะ Take profit คือ VGI, HMPRO, GLAND, SOLAR, MEGA, PDI, IVL
ปัจจัยต่างประเทศ
• ยูโรโซน : การผลิตภาคอุตสาหกรรมอ่อนลง MoM ในเดือนม.ค. แต่ยังโต YoY
# สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า การผลิตในภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซน -1.0%MoM ในเดือน ม.ค. แต่ +2.7%YoY ซึ่งเป็นผลจากการทรุดตัวของภาคพลังงาน (ซึ่ง -6.6%MoM และ -10.4%YoY)
- สหรัฐ : วิตกสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน
# สื่อรายงานว่าประธานาธิบดีทรัมป์มีแผนที่จะออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศ,โทรคมนาคม และสินค้าเพื่อผู้บริโภคจากจีน วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อตอบโต้การทำการค้าที่ไม่เป็นธรรม รวมทั้งอาจมีการจำกัดการออกวีซ่าต่อชาวจีนที่ต้องการเดินทางเข้าสู่สหรัฐ
# นอกจากนั้นทรัมป์ยังกดดันให้จีนจัดทำแผนลดตัวเลขเกินดุลการค้า 1 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากเมื่อปี 2560 จีนมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐจำนวน 3.752 แสนล้านดอลลาร์
# รายงานล่าสุดของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า สหรัฐขาดดุลการค้าต่อจีนเพิ่มขึ้น 16.7% สู่ระดับ 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค.61 ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2558 สำหรับยอดส่งออกไปยังจีนในเดือนม.ค.61 นั้น ลดลง 28.1% ขณะที่นำเข้าเพิ่มขึ้น 2.9%
• สหรัฐ : เงินเฟ้อด้านต้นทุนชะลอตัวลงในเดือนก.พ.61
# ทางการสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) +0.2%MoM ในเดือนก.พ.ชะลอตัวลงจากเดือนม.ค.ที่ +0.4%MoM สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ.นั้น +0.2%MoM ลดลงจากเดือนม.ค.ที่ +0.5%MoM
# ยอดค้าปลีก -0.1%MoM ในเดือนก.พ. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะ +0.3%MoM และยังเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3
# CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐพบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 86% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 20-21 มี.ค.61
- ภาวะตลาดหุ้น : ดัชนีดาวโจนส์ร่วง 248.91 จุด...วิตกสงครามการค้าสหรัฐ-จีน
# ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐเตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศ, โทรคมนาคม และสินค้าเพื่อผู้บริโภคจากจีน ทำให้ดัชนี DJIA ปิด -248.91 จุด หรือ -1.00% ดัชนี S&P500 ปิด -15.83 จุด หรือ -0.57% และดัชนี Nasdaq ปิด -14.20 จุด หรือ -0.19%
# นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังกดดันให้จีนปรับลดยอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐลง 1 แสนล้านดอลลาร์
• ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาขยับขึ้นเล็กน้อย
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ หรือ +0.4% ปิดที่ 60.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ หรือ +0.4% ปิดที่ 64.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
# แม้ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล แต่สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 6.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 4.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล
• ภาวะตลาดทองคำ : ราคาอ่อนลง
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 1.50 ดอลลาร์ หรือ 0.11% ปิดที่ 1,325.60 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวเด่นบจ.
• ทางการไทยคุมเงินดิจิตอลใน 6 เดือนปิดช่องฟอกเงิน
# นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าภายในเดือนมี.ค.61จะเริ่มใช้กฎหมายการควบคุมการลงทุนในสกุลเงินดิจิตอล (คริปโตเคอเรนซี่) โดยจะใช้พ.ร.ก. ควบคุมการลงทุนผ่านการกำกับดูแลโดยก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพราะถือว่าเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ และมีกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ดูแลเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้มีความเสี่ยงที่จะมีผลกระทบกับความมั่นคงแต่ไม่ได้ห้ามและปิดกั้น แต่ต้องดูแลควบคุมไม่ให้มีความเสี่ยง
+ TISCO (ราคาปิด 88.50 บาท) : จ่ายปันผล 5 บาท/หุ้น ขึ้น XD 27 เม.ย.61
# ธนาคาร TISCO ประกาศจ่ายปันผลสำหรับปี 2560 เท่ากับ 5.0 บาท/หุ้น จะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 27 เม.ย.2561 นับว่าเป็นปันผลที่สูง โดยให้ Dividend yield มากถึง 5.6% (คิดจากราคาปิด 88.50 บาท)
# แนวโน้มธุรกิจปี 2561 ดีขึ้น โดยคาดว่าสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์น่าจะพลิกเป็นเติบโตได้เล็กน้อย หลังหดตัวต่อเนื่องมาหลายปี การตั้งสำรองค่าเผื่อฯ ไม่ได้กดดันมาก เพราะธนาคารมี Coverage ratio สิ้นปี 2560 สูงถึง 196% (สูงสุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทย) ขณะที่ NPL ratio ก็ลดลงมาที่ 2.3% ของสินเชื่อรวม ฝ่ายวิจัยฯ DBS คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิปี 61 ของ TISCO จะเติบโตแข็งแกร่งกว่า 20% และยังคงจ่ายปันผลสูงได้ต่อ
# แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 97 บาท มี Upside จากราคาปิดวานนี้ 9.6%
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
OO6526