- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 15 March 2018 18:09
- Hits: 3014
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ภาพตลาดและแนวโน้ม
Fear and/or Greed
วันนี้แนะเลือกเล่นหุ้นที่มีประเด็นหนุน เช่น FTSE rebalance เพิ่มหุ้น SCC TOP เข้า Large cap ส่วน ORI M BCPG เข้า Small cap มีผลพรุ่งนี้ (- ถอดหุ้น DCC TLGF ออกจาก Small cap) แม้ภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศจะ Consolidated แต่เชื่อว่า หุ้นรายตัว สามารถเลือกเล่นได้
ระยะสัปดาห์ หลังจากลงไปแล้วไม่หลุด 1,774 จุด คาดดัชนีฯจะรีบาวด์สั้น แต่หมดหวังขึ้นสร้างจุดสูงสุดใหม่ ในระยะเวลาอันสั้น. กลยุทธ์ แนะนำ กลับเข้าเลือกเล่นหุ้นรายตัว
What to watch
(*) กระแสข่าว ปธน. ทรัมป มีแผนที่จะออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน
(*) Tactical weekly port เราแนะปรับหุ้น TOA ออกจากพอร์ตระยะสัปดาห์ และเพิ่มน้ำหนักหุ้น SIMAT
หุ้นแนะนำวันนี้
SCC TOP ORI M BCPG เข้าคำนวณ FTSE รอบใหม่ มีผล 16 มีค.
COM7 ข่าว CEO DTAC ลาออก และ ความล่าช้าในการประมูลคลื่น 850-1800MHz ส่งผลบวกต่อ TRUE โดยตรง ในการเก็บส่วนแบ่งตลาดเพิ่ม และบวกกับ COM7 ในฐานะ ตัวแทนขาย ซิม ของ TRUE และบริหารร้าน TRUE Shop (แนะเล่นตัวตาม หลังจาก TRUE วิ่งแรง)
รายงานวันนี้
Thai Market Strategy : Local flows and moderate macro backdrop remain supportive
Valuation ตลาดหุ้นไทยปัจจุบันนับว่าไม่ถูก หากมองจาก SET's equity yield-gap เทียบกับ พันธบัตรรัฐบาลไทย 10 ปี อยู่ 0.33sd ต่ำกว่าต่าเฉลี่ย (หากไปถึง 0.7sd จะนับว่าแพง (ตลาด 2,000 จุด)) ในขณะที่หากเทียบกับ US Treasury 10 ปี ปัจจุบันนับว่าตลาดแพงแล้ว เราจึงมองว่าจะยังไม่เห็น fund flow ต่างชาติเข้ามาเร็วๆนี้ จนกว่าตลาดจะคลายความกังวลเรื่อง bond yield ปรับขึ้น ซึ่งจะทำให้ตลาดกลับมาไม่แพงอีกครั้ง ขณะนี้ตลาดจึงขึ้นอยู่กับเม็ดเงินของนักลงทุนและกองทุนประเทศเป็นส่วนใหญ่ กลุ่มอุตสาหกรรมที่เราชอบใน 1H18 ได้แก่กลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจมหาภาค เช่น ธนาคารและการเงิน, ค้าปลีก, สื่อ, ยานยนต์, รับเหมาฯ เป็นต้น
THG : Impressive growth outlook
คาดบริษัทจะมีกำไรที่น่าประทับใจตั้งแต่ 1Q18 ไปจนถึง 4Q18 โดยที่ตั้งแต่ไตรมาสแรกคาดกำไรจะโตทั้ง YoY และ QoQ เพราะรายได้ที่เติบโตดี และดอกเบี้ยจ่ายลดลง และเติบโตต่อเนื่องไปถึงปลายปีจากการรับรู้รายได้โครงการ Jin Wellbeing County และยังมีโครงการร่วมทุนในพม่า และการเปิด Thonburi Rehab Hospital ในช่วงปลายปีซึ่งจะหนุนการเติบโตในปีถัดๆไป ปัจจุบันราคาหุ้นต่ำกว่าราคา IPO เรามองว่าเป็นโอกาสดีในการเข้า ซื้อ ราคาเปาหมาย 46 บาท ปัจจุบันหุ้นเทรด PEG 2.4 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 2.7 เท่า
Media : BEC stays warm in two ladies arms
ตัวเลขเม็ดเงินโฆษณาเดือน ก.พ. โดยรวมยังคงปรับตัวลดลง 6% YoY (แต่เพิ่มขึ้น 4% MoM) อย่างไรก็ตามเม็ดเงินโฆษณาที่ใช้ไปในสื่อดิจิตอลทีวีและสื่อนอกบ้านยังคงปรับตัวได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องสวนทางกับอุตสาหกรรมโดยรวม ในด้านของเรตติ้งช่อง 3HD มีการเร่งตัวขึ้นโดดเด่นที่สุด +11% MoM จากกระแสของละครอย่างบุพเพสันนิวาส ตามมาด้วยช่อง ONE ที่ฟืนตัวจากละครล่าและเรือนเบญจพิษ สำหรับราคาหุ้นส่วนใหญ่ในกลุ่มทีวีที่ปรับตัวขึ้นวานนี้เรามองว่ามาจาก Sentiment เชิงบวก หลังศาลปกครองมีคำสั่งให้ Thai TV มีสิทธิ์ยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการดิจิตอลทีวีได้ แต่ในด้านผลกระทบที่จริงแล้วเราคาดจะมีผลต่อผู้ประกอบการที่มีใบอนุญาตหลายใบอย่าง BEC และ MCOT รวมถึงผู้ประกอบการที่มีปัญหาทางด้านการเงินที่ต้องการคืนใบอนุญาตมากกว่า อย่างไรก็ตามยังต้องรอผลสรุปคำตัดสินจากศาลปกครองสูงสุดและยังคงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
(+) KCE แจ้งตลาดแตกพาร์ 1 บาท เหลือ 0.50 บาท (ที่มา ตลท.)
(-) DTAC (+) TRUE COM7 ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาร์ส โอเคะ นอร์ลิ่ง แจ้งขอลาออก (ที่มา ตลท.) / ทั้งข่าวการดีเลย์ของการประมูลคลื่น 850MHz และ การลาออกของ CEO DTAC คาดเข้าทาง TRUE ในการกินส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น
(0) JMART ธปท.ยันไม่ผ่อนเกณฑ์สถาบันการเงินข้องเกี่ยวคริปโตเคอเรนซี แม้มีการยกร่างกม.สินทรัพย์ดิจิทัล / คลัง รีดภาษี ลงทุนเหรียญฯ 2 เด้ง ทั้ง VAT 7% บวก ภาษีหักที่จ่ายอีก 15% (ที่มา อินโฟเควสท์)
(*) KTB รองนายก สมคิด กำชับ KTB สนองรัฐฯ-อย่าห่วงกำไร (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ) / พาดหัวข่าวดูจะเป็นลบต่อ Sentiment ราคาหุ้น แต่ในรายละเอียดเชื่อว่าไม่ได้มีผลกระทบต่อ การเร่งปล่อยสินเชื่อภาครัฐฯ และ ส่วนต่างดอกเบี้ยรับมากนัก และจากสัญญาณที่ รองนายกระบุ เชื่อว่า กนง.จะมีโอกาสคงดอกเบี้ยไปยันสิ้นปี ตามที่ทีมเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงเทพ คาด เพราะ ต้องการให้เกิดการล็อกต้นทุนทางการเงินไว้ในระดับต่ำ เพื่อเร่งให้มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
(+) KTB พร้อมเรียกสินทรัพย์ AQ มาขายชำระหนี้หมื่นล้าน หลังศาลอนุมัติ ทำให้หนี้เสียพลิกกลับมามีกำไรใน 1Q18 เหตุได้ตั้งสำรองแล้ว (ที่มา ข่าวหุ้น ทันหุ้น)
(+) CK STEC รฟท.ดันโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบินเข้า ครม. 20 มี.ค.- เปิดประมูล เม.ย. เซ็นสัญญาราว พ.ย.-ธ.ค.61 (ที่มา ASPEN อินโฟเควสท์)
(+) CPF GFPT TFG สั่งตั้งอนุกรรมการศึกษาความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนใช้มาตรการกำหนด สัดส่วนนำเข้าข้าวสาลีต่อการซื้อข้าวโพดหรือไม่ หลังราคาข้าวโพดในประเทศ เกือบโลละ 10 บ. / คาดหากมีการเพิ่มสัดส่วนนำเข้าจากเดิม 2:1 คาดส่งผล ช่วยลดต้นทุน อาหารสัตว์ (ที่มา ไทยโพสต์)
ตารางหุ้นจัดประชุมนักวิเคราะห์/ Opportunity day
15 มี.ค. BCH VGI / COL DRT BCP QTL COMAN SVI JKN
16 มี.ค. RJH / SC SELIC XO LOXLEY HTECH SANKO WHART
ภาพตลาดและแนวโน้ม
Fear and/or Greed
วันนี้แนะเลือกเล่นหุ้นที่มีประเด็นหนุน เช่น FTSE rebalance เพิ่มหุ้น SCC TOP เข้า Large cap ส่วน ORI M BCPG เข้า Small cap มีผลพรุ่งนี้ (- ถอดหุ้น DCC TLGF ออกจาก Small cap) แม้ภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศจะ Consolidated แต่เชื่อว่า หุ้นรายตัว สามารถเลือกเล่นได้
ระยะสัปดาห์ หลังจากลงไปแล้วไม่หลุด 1,774 จุด คาดดัชนีฯจะรีบาวด์สั้น แต่หมดหวังขึ้นสร้างจุดสูงสุดใหม่ ในระยะเวลาอันสั้น. กลยุทธ์ แนะนำ กลับเข้าเลือกเล่นหุ้นรายตัว
What to watch
(*) กระแสข่าว ปธน. ทรัมป มีแผนที่จะออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน
(*) Tactical weekly port เราแนะปรับหุ้น TOA ออกจากพอร์ตระยะสัปดาห์ และเพิ่มน้ำหนักหุ้น SIMAT
หุ้นแนะนำวันนี้
SCC TOP ORI M BCPG เข้าคำนวณ FTSE รอบใหม่ มีผล 16 มีค.
COM7 ข่าว CEO DTAC ลาออก และ ความล่าช้าในการประมูลคลื่น 850-1800MHz ส่งผลบวกต่อ TRUE โดยตรง ในการเก็บส่วนแบ่งตลาดเพิ่ม และบวกกับ COM7 ในฐานะ ตัวแทนขาย ซิม ของ TRUE และบริหารร้าน TRUE Shop (แนะเล่นตัวตาม หลังจาก TRUE วิ่งแรง)
รายงานวันนี้
Thai Market Strategy : Local flows and moderate macro backdrop remain supportive
Valuation ตลาดหุ้นไทยปัจจุบันนับว่าไม่ถูก หากมองจาก SET's equity yield-gap เทียบกับ พันธบัตรรัฐบาลไทย 10 ปี อยู่ 0.33sd ต่ำกว่าต่าเฉลี่ย (หากไปถึง 0.7sd จะนับว่าแพง (ตลาด 2,000 จุด)) ในขณะที่หากเทียบกับ US Treasury 10 ปี ปัจจุบันนับว่าตลาดแพงแล้ว เราจึงมองว่าจะยังไม่เห็น fund flow ต่างชาติเข้ามาเร็วๆนี้ จนกว่าตลาดจะคลายความกังวลเรื่อง bond yield ปรับขึ้น ซึ่งจะทำให้ตลาดกลับมาไม่แพงอีกครั้ง ขณะนี้ตลาดจึงขึ้นอยู่กับเม็ดเงินของนักลงทุนและกองทุนประเทศเป็นส่วนใหญ่ กลุ่มอุตสาหกรรมที่เราชอบใน 1H18 ได้แก่กลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจมหาภาค เช่น ธนาคารและการเงิน, ค้าปลีก, สื่อ, ยานยนต์, รับเหมาฯ เป็นต้น
THG : Impressive growth outlook
คาดบริษัทจะมีกำไรที่น่าประทับใจตั้งแต่ 1Q18 ไปจนถึง 4Q18 โดยที่ตั้งแต่ไตรมาสแรกคาดกำไรจะโตทั้ง YoY และ QoQ เพราะรายได้ที่เติบโตดี และดอกเบี้ยจ่ายลดลง และเติบโตต่อเนื่องไปถึงปลายปีจากการรับรู้รายได้โครงการ Jin Wellbeing County และยังมีโครงการร่วมทุนในพม่า และการเปิด Thonburi Rehab Hospital ในช่วงปลายปีซึ่งจะหนุนการเติบโตในปีถัดๆไป ปัจจุบันราคาหุ้นต่ำกว่าราคา IPO เรามองว่าเป็นโอกาสดีในการเข้า ซื้อ ราคาเปาหมาย 46 บาท ปัจจุบันหุ้นเทรด PEG 2.4 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 2.7 เท่า
Media : BEC stays warm in two ladies arms
ตัวเลขเม็ดเงินโฆษณาเดือน ก.พ. โดยรวมยังคงปรับตัวลดลง 6% YoY (แต่เพิ่มขึ้น 4% MoM) อย่างไรก็ตามเม็ดเงินโฆษณาที่ใช้ไปในสื่อดิจิตอลทีวีและสื่อนอกบ้านยังคงปรับตัวได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องสวนทางกับอุตสาหกรรมโดยรวม ในด้านของเรตติ้งช่อง 3HD มีการเร่งตัวขึ้นโดดเด่นที่สุด +11% MoM จากกระแสของละครอย่างบุพเพสันนิวาส ตามมาด้วยช่อง ONE ที่ฟืนตัวจากละครล่าและเรือนเบญจพิษ สำหรับราคาหุ้นส่วนใหญ่ในกลุ่มทีวีที่ปรับตัวขึ้นวานนี้เรามองว่ามาจาก Sentiment เชิงบวก หลังศาลปกครองมีคำสั่งให้ Thai TV มีสิทธิ์ยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการดิจิตอลทีวีได้ แต่ในด้านผลกระทบที่จริงแล้วเราคาดจะมีผลต่อผู้ประกอบการที่มีใบอนุญาตหลายใบอย่าง BEC และ MCOT รวมถึงผู้ประกอบการที่มีปัญหาทางด้านการเงินที่ต้องการคืนใบอนุญาตมากกว่า อย่างไรก็ตามยังต้องรอผลสรุปคำตัดสินจากศาลปกครองสูงสุดและยังคงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
(+) KCE แจ้งตลาดแตกพาร์ 1 บาท เหลือ 0.50 บาท (ที่มา ตลท.)
(-) DTAC (+) TRUE COM7 ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาร์ส โอเคะ นอร์ลิ่ง แจ้งขอลาออก (ที่มา ตลท.) / ทั้งข่าวการดีเลย์ของการประมูลคลื่น 850MHz และ การลาออกของ CEO DTAC คาดเข้าทาง TRUE ในการกินส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น
(0) JMART ธปท.ยันไม่ผ่อนเกณฑ์สถาบันการเงินข้องเกี่ยวคริปโตเคอเรนซี แม้มีการยกร่างกม.สินทรัพย์ดิจิทัล / คลัง รีดภาษี ลงทุนเหรียญฯ 2 เด้ง ทั้ง VAT 7% บวก ภาษีหักที่จ่ายอีก 15% (ที่มา อินโฟเควสท์)
(*) KTB รองนายก สมคิด กำชับ KTB สนองรัฐฯ-อย่าห่วงกำไร (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ) / พาดหัวข่าวดูจะเป็นลบต่อ Sentiment ราคาหุ้น แต่ในรายละเอียดเชื่อว่าไม่ได้มีผลกระทบต่อ การเร่งปล่อยสินเชื่อภาครัฐฯ และ ส่วนต่างดอกเบี้ยรับมากนัก และจากสัญญาณที่ รองนายกระบุ เชื่อว่า กนง.จะมีโอกาสคงดอกเบี้ยไปยันสิ้นปี ตามที่ทีมเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงเทพ คาด เพราะ ต้องการให้เกิดการล็อกต้นทุนทางการเงินไว้ในระดับต่ำ เพื่อเร่งให้มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
(+) KTB พร้อมเรียกสินทรัพย์ AQ มาขายชำระหนี้หมื่นล้าน หลังศาลอนุมัติ ทำให้หนี้เสียพลิกกลับมามีกำไรใน 1Q18 เหตุได้ตั้งสำรองแล้ว (ที่มา ข่าวหุ้น ทันหุ้น)
(+) CK STEC รฟท.ดันโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบินเข้า ครม. 20 มี.ค.- เปิดประมูล เม.ย. เซ็นสัญญาราว พ.ย.-ธ.ค.61 (ที่มา ASPEN อินโฟเควสท์)
(+) CPF GFPT TFG สั่งตั้งอนุกรรมการศึกษาความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนใช้มาตรการกำหนด สัดส่วนนำเข้าข้าวสาลีต่อการซื้อข้าวโพดหรือไม่ หลังราคาข้าวโพดในประเทศ เกือบโลละ 10 บ. / คาดหากมีการเพิ่มสัดส่วนนำเข้าจากเดิม 2:1 คาดส่งผล ช่วยลดต้นทุน อาหารสัตว์ (ที่มา ไทยโพสต์)
ตารางหุ้นจัดประชุมนักวิเคราะห์/ Opportunity day
15 มี.ค. BCH VGI / COL DRT BCP QTL COMAN SVI JKN
16 มี.ค. RJH / SC SELIC XO LOXLEY HTECH SANKO WHART
หุ้นขึ้นเครื่องหมาย XD ในสัปดาห์นี้
15 มี.ค. AUCT (Bt0.16) FORTH (Bt0.25) TPIPL (Bt0.02) LALIN (Bt0.165) VIH (Bt0.12)
16 มี.ค D (Bt0.10) KCAR (Bt0.55) PYLON (Bt0.05) TNITY (Bt0.45) VNG (Bt0.30)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(0/-) กระแสข่าว ปธน. ทรัมป มีแผนที่จะออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน คิดเป็นวงเงินสูงถึง US$6 หมื่นล้าน โดยจะพุ่งเปาไปที่สินค้าในภาคเทคโนโลยีและการสื่อสาร
มาตรการเก็บภาษีดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากการสืบสวนด้านทรัพย์สินทางปัญญาตามมาตรา 301 ภายใต้กฎหมายการค้าฉบับปี พ.ศ. 2517 โดยการสืบสวนได้เริ่มขึ้นในเดือนส.ค.ปีที่แล้ว
รายงานยังระบุด้วยว่า แม้ว่ามาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าครั้งนี้จะพุ่งเปาไปที่สินค้าใสภาคเทคโนโลยีและการสื่อสารของจีน แต่ขอบเขตการเก็บภาษีอาจจะขยายวงออกไปอีก และอาจครอบคลุมสินค้ามากถึง 100 รายการ
นอกจากนี้ รายงานระบุว่า มาตรการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อโต้ตอบนโยบายการลงทุนของจีน ซึ่งบีบให้บริษัทสหรัฐเปิดเผยความลับด้านเทคโนโลยีกับจีน เพื่อแลกกับการเข้าไปทำธุรกิจในจีน (ที่มา อินโฟเควสท์)
นักวิเคราะห์ : วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
OO6525
15 มี.ค. AUCT (Bt0.16) FORTH (Bt0.25) TPIPL (Bt0.02) LALIN (Bt0.165) VIH (Bt0.12)
16 มี.ค D (Bt0.10) KCAR (Bt0.55) PYLON (Bt0.05) TNITY (Bt0.45) VNG (Bt0.30)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(0/-) กระแสข่าว ปธน. ทรัมป มีแผนที่จะออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน คิดเป็นวงเงินสูงถึง US$6 หมื่นล้าน โดยจะพุ่งเปาไปที่สินค้าในภาคเทคโนโลยีและการสื่อสาร
มาตรการเก็บภาษีดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากการสืบสวนด้านทรัพย์สินทางปัญญาตามมาตรา 301 ภายใต้กฎหมายการค้าฉบับปี พ.ศ. 2517 โดยการสืบสวนได้เริ่มขึ้นในเดือนส.ค.ปีที่แล้ว
รายงานยังระบุด้วยว่า แม้ว่ามาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าครั้งนี้จะพุ่งเปาไปที่สินค้าใสภาคเทคโนโลยีและการสื่อสารของจีน แต่ขอบเขตการเก็บภาษีอาจจะขยายวงออกไปอีก และอาจครอบคลุมสินค้ามากถึง 100 รายการ
นอกจากนี้ รายงานระบุว่า มาตรการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อโต้ตอบนโยบายการลงทุนของจีน ซึ่งบีบให้บริษัทสหรัฐเปิดเผยความลับด้านเทคโนโลยีกับจีน เพื่อแลกกับการเข้าไปทำธุรกิจในจีน (ที่มา อินโฟเควสท์)
นักวิเคราะห์ : วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
OO6525