- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 14 March 2018 21:02
- Hits: 5528
บล.เอเชีย เวลท์ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
นักลงทุนกล้าขึ้น
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : หลังจากหุ้นพื้นฐานดีหลายตัวเริ่มรีบาวด์ขึ้น ทำให้นักลงทุนคลายความกังวล และกล้ากลับมาซื้อหุ้น ประกอบกับข่าวที่เป็นปัจจัยบวกเริ่มหนุนเข้ามา เราจึงแนะนำซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมีและไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ปัจจัยบวกต่อธุรกิจทีวีดิจิตอลที่ศาลปกครองสั่งให้ บจก.ไทยทีวีสามารถคืนช่องสถานีกับ กสทช.ได้คือเป็นบรรทัดฐานหนุนให้ BEC ซึ่งครอบครองช่องสถานีทีวีดิจิตอลถึง 3 ช่อง สามารถตัดสินใจคืนช่องที่ไม่ทำกำไรให้กับ กสทช.ได้ เป็นปัจจัยบวกทางจิตวิทยา แนะนำเข้าเก็งกำไร คาดการณ์กรอบดัชนี 1,800-1,820 จุด หุ้นแนะนำ BEC, EA, BGRIM
Stock Comment
BEC Pick of the day
EA (ปิด 48.00 บาท, N.R., IAA Consensus 57.80 บาท) ราคาหุ้น EA เริ่มปรับตัวลดลงหลังประกาศกำไรสุทธิปี 2560 ที่ 3,817 ล้านบาท (+17% YoY) แต่ถือว่าต่ำกว่าที่ตลาดคาด อย่างไรก็ตามราคาที่ปรับลงแรงทำให้หุ้น EA กลับมามี Upside ประมาณ 20.0% ประกอบกับตลาดคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิปี 2561 ยังขยายตัวได้ประมาณ 40% YoY เนื่องจากจะมีการรับรู้รายได้จากโครงการลมหนุมาน 126 MWเข้ามาเต็มปีครั้งแรก
BGRIM (ปิด 27.50 บาท, "ซื้อ", AWS Target 33.00 บาท) คาดรายได้มีแนวโน้มเติบโตดีตามกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น บริษัทเน้นปรับปรุงประสิทธิภาพและการทำ Refinance เพื่อลดต้นทุนทางการเงินและมี Upside Risk จากรโรงไฟฟ้า Solar Farm ในเวียดนามขนาด 400 MW คาดบริษัทมีกำไรสุทธิในปี 2561 เท่ากับ 2,833 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% YoY ราคาหุ้นที่ปรับลงมาเป็นโอกาสในการซื้อ
หุ้นเด่นวันนี้ : BEC (ปิด 13.20 บาทบาท; NR; NR)
เราแนะนำเก็งกำไรหุ้น BEC แต่ยังไม่ได้มี Consensus จากนักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน จึงเน้นราคาเป้าหมายทางเทคนิคไปก่อน แนวรับ11.90-12.90 บาท แนวต้าน 13.50-14.50 บาท
หลังจากที่ศาลปกครองตัดสิน บจก. ไทยทีวีมีสิทธิบอกเลิกสัญญา กับ กสทช. และคืนช่องทีวีดิจิตอลได้ เรามองว่าคำพิพากษาดังกล่าวเปิดทางให้ผู้ประกอบการธุรกิจทีวีดิจิตอลสามารถบอกเลิกสัญญาและคืนใบอนุญาตได้ คาดเป็นบวกต่อ BEC มากสุด เนื่องจากปัจจุบันถือสัญญาสัมปทานทีวีดิจิตอลไว้มากถึง 3 ช่อง มีต้นทุนสัญญาสัมปทานรวมกันทั้งสิ้นกว่า 6,000 ล้านบาท ในขณะที่ผู้ประกอบการรายอื่นมีต้นทุนราว 3,000 กว่าล้านบาทสำหรับช่อง HD และมากกว่า 1,500 ล้านบาท สำหรับช่อง SD โดยที่ BEC ยังไม่สามารถ Utilize ช่อง SD เพื่อสร้างรายได้ได้มากเท่าที่ควร เราแนะนำเก็งกำไรหุ้น BEC
ทางด้านปัจจัยพื้นฐาน BEC ประกาศกำไรสุทธิปี 2560 ต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ 61 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ค่าโฆษณาลดลงจากภาวะธุรกิจอ่อนแอมีการแข่งขันสูงประกอบกับมีช่วงไว้อาลัยในปี 2560 ขณะที่ BEC แบก Fixed Cost ไว้จำนวนมากและไม่สามารถปรับลดต้นทุนเหล่านั้นลงได้ในระยะสั้น โดยต้นทุนของ BEC ที่ประมูลใบอนุญาตทีวีดิจิตอล HD มูลค่า 3,530 ล้านบาท ช่อง SD มูลค่า 2,275 ล้านบาท และช่อง Family มูลค่า 666 ล้านบาท รวมทั้งสามช่อง มูลค่า 6,471 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หาก BEC คืนช่องทีวีดิจิตอลระบบ SD ออกไปได้ 1-2 ช่อง คาดว่าจะช่วยลดภาระต้นทุนได้มากและจะทำให้สถานการณ์บริษัทพลิกฟื้นขึ้นมาได้ แต่ทั้งนี้เป็นดุลพินิจของ BEC ที่บอกคืนช่องหรือเก็บไว้ต่อไป
Price Pattern ของ BEC แม้ว่าจะมีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาลง (Downtrend) จากการเกิดทั้ง Weekly & Monthly Sell Signal แต่ในระยะสั้น Price Pattern ของ BEC ยังมีความแข็งแกร่งจากการเกิด Daily Buy Signal เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ BEC มีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 13.30 บาท ซึ่งหากสามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือ 13.30 บาทได้สำเร็จ จะมีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 15.40 บาท ทั้งนี้ BEC มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 11.10 บาท (Resistance: 13.50, 13.80, 14.50; Support: 12.90, 12.60, 11.90)
ปัจจัยในประเทศ :
ครม. เห็นชอบในหลักการ พ.ร.ก. การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ได้แก่ 1) การกำกับดูแลธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งรวมถึงสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrencies) และการเสนอขายเหรียญในระยะเริ่มต้น (Initial Coin Offering) และ 2) การจัดเก็บภาษีที่เกิดจากการทำธุรกรรมดิจิทัล ซึ่งขณะนี้ร่างดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา คาดจะเสนอต่อที่ประชุม ครม. เพื่อขอความเห็นชอบขั้นสุดท้ายได้ในสัปดาห์หน้า (บางกอกโพสต์)
ศาลปกครองตัดสิน ไทยทีวีคืนช่องทีวีดิจิตัลได้ วันนี้ศาลปกครองกลางอ่านคำพิพากษาว่า กสทช.กระทำผิดสัญญาที่ได้ประกาศชี้ชวนไว้กับ บจก.ไทยทีวี จริง ซึ่ง บจก.ไทยทีวี โดยนางพันธุ์ทิพา ศกุนต์ ไชยกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทฯ ได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้การประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลของบริษัทไทยทีวี เป็นโมฆะทั้งหมด ดังนั้น บจก.ไทยทีวีจึงมีสิทธิบอกเลิกสัญญา กับ กสทช.ความเห็น: เรามองว่าคำพิพากษาดังกล่าวเปิดทางให้บริษัทต่างๆ ที่ทำธุรกิจทีวีดิจิตอลสามารถบอกเลิกสัญญาและคืนใบอนุญาตได้ ช่วยให้การแข่งขันในอุตสาหกรรมมีแนวโน้มลดลง คาดเป็นบวกต่อ WORK, MONO, BEC โดยเราเชื่อว่า BEC ที่จะเป็นผู้ได้รับประโยชน์มากสุด เนื่องจากปัจจุบันถือสัญญาสัมปทานทีวีดิจิตอลไว้มากถึง 6 ช่อง มีต้นทุนสัญญาสัมปทานรวมกันทั้งสิ้นกว่า 6,000 ล้านบาท ในขณะที่ผู้ประกอบการรายอื่นมีต้นทุนราว 3,000 กว่าล้านบาทสำหรับช่อง HD และมากกว่า 1,500 ล้านบาท สำหรับช่อง SD โดยที่ BEC ยังไม่สามารถ Utilized ช่อง SD เพื่อสร้างรายได้ได้มากเท่าที่ควร เราแนะนำเก็งกำไรธุรกิจทีวีดิจิตอล โดยเน้นไปที่หุ้น BEC
SCC ประกาศ บ.ย่อยชนะประกวดราคาซื้อหุ้น BMP จำนวน 29.5% ในตลาดหุ้นเวียดนาม มูลค่ารวม 3.2 พันล้านบาท คาดโอนหุ้นแล้วเสร็จ 20 มี.ค. 61 ส่งผลให้ บริษัทนวพลาสติกอุตสาหกรรม (สระบุรี) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SCC จะถือหุ้น BMP (Binh Minh Plastics) เพิ่มเป็นร้อยละ 49.9 จากปัจจุบันที่ถืออยู่ร้อยละ 20.4 (Mitihoon) ความเห็น: การซื้อหุ้นในธุรกิจพลาสติก PVC ในเวียดนามที่มีแนวโน้มเติบโตสูงคาดว่าส่งผลบวกต่อ SCC อย่างไรก็ตามโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ที่เวียดนาม มูลค่า 1.8 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการสำคัญตามกลยุทธ์ของ SCC ได้เลื่อนสรุปข้อตกลงทางการเงินไปเป็นกลางปี 2561 จากเดิมคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/61 ส่งผลให้แผนก่อสร้างโครงการดังกล่าวต้องล่าช้าออกไปอีก สร้างความไม่แน่นอนเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวมากขึ้น ทำให้ SCC ขาดปัจจัยสนับสนุนที่ชัดเจน คาดผลประกอบการมีแนวโน้มทรงตัวในระยะ 1-2 ปีนี้ คงคำแนะนำ "ถือ" ราคาเป้าหมาย 520 บาท
SGP ร่วมกฟผ.อินเตอร์ฯ จัดหาก๊าซ LNG ป้อนโรงไฟฟ้า SGP ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเบื้องต้น (MOU) กับบริษัท กฟผ.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เพื่อเป็นผู้จัดหาและจัดส่งก๊าซธรรมชาติเหลว (Liquefied Natural Gas-LNG) ป้อนให้กับโรงไฟฟ้าในไทย ตามแผนสำรองพลังงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) (INN news) ความเห็น: ช่วยให้รายได้ของ SGP มีโอกาสเติบโตในอนาคต เนื่องจากความต้องการใช้ยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะหากโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่และเทพาของ กฟผ.ปรับเลื่อนการพัฒนาเข้าระบบหรือยกเลิกโครงการอาจส่งผลให้ภาครัฐเปิดเสรีให้เอกชนนำเข้าก๊าซ LNG เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 5-7 ล้านตัน สำหรับธุรกิจก๊าซ LPG ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทนั้นพบว่ารายได้ของบริษัทมีแนวโน้มเติบโตดีตามความต้องการใช้ LPG ทั้งในประเทศจีนและประเทศที่อาเซียนที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามบริษัทมีการเก็บก๊าซ LPG ไว้ในคลังจำนวนมาก ทำให้ผลประกอบการของบริษัทมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของราคา LPG นับเป็นปัจจัยเสี่ยงที่นักลงทุนควรพิจารณาก่อนลงทุน
ตลาดต่างประเทศ :
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ : ปิดปรับตัวลงโดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มเทคโนโลยี รวมทั้งรายงานข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ประกาศปลดนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ หลังจากเกิดความขัดแย้งด้านนโยบายต่างประเทศหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่าง 2 ชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอย่างสหรัฐฯ และจีน หลังจากสื่อรายงานว่า ปธน.ทรัมป์มีแผนที่จะออกมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน โดยพุ่งเป้าไปที่สินค้าในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและการสื่อสาร ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ.ของสหรัฐชะลอตัวลง
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันดิบ : ปรับตัวลดลงปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) คาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ จะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือน เม.ย.จากการผลิตน้ำมันจาก shale oil เพิ่มขึ้น 131,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ 6.954 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
Thailand Research Department
Vajiralux Sanglerdsillapachai (No.17385) Tel: 0-2680-5077
Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Adisak Prombun (No.14543) Tel: 0-2680-5056
Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042
Nutchapol Cheevavichawalkul (No.46377) Tel: 0-2680-5094
OO6447