Smart Pick
สะสม BANPU
  ราคาปิด 21.70 บาท
  ราคาเหมาะสม 32.00 บาท
          ราคาหุ้นยัง Laggard เมื่อเทียบกับราคาของบริษัทลูกในอินโดนีเซียคือ ITMG โดย YTD หุ้น BANPU +11.2% เทียบกับ ITMG +39.6%
          คาดราคาหุ้นจะ Outperform ตลาด หลังความเสี่ยงของคดีหงสาได้ถูกปลดล็อกแล้ว และภาวะอุปทานถ่านหินตึงตัวในจีนส่งผลให้มี Upside Risk โดย YTD ราคาถ่านหิน Newcastle เฉลี่ยอยู่ที่ US$105/ตัน เทียบกับค่าเฉลี่ยของ Consensus ที่ราว US$80-85/ตัน
เก็งกำไร TRUE
  ราคาปิด 6.70 บาท
  ราคาเหมาะสม 8.35 บาท
          คาดราคาหุ้นตอบรับเชิงบวก เนื่องจากมีโอกาสที่การประมูลคลื่น 850MHz และ 1800 MHz จะถูกเลื่อนไปเป็นปี 2562 และเป็นบวกโดยตรงต่อ TRUE เพราะมีคลื่นในมือ ณ ปัจจุบันมากที่สุดในอุตฯ
          ปัจจัยบวกรออยู่ใน 2Q61 คือการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน DIF และคาดว่าจะบันทึกกำไรพิเศษสูงถึง 2.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจะผลักดันให้ EBITDA ปี 2561 ทำระดับสูงสุดใหม่
เก็งกำไร SAPPE
  ราคาปิด 22.20 บาท
  ราคาเหมาะสม 34.50 บาท
          คงมุมมองเชิงบวกหลังเข้าประชุมกับผู้บริหารวานนี้ โดยคาดรายได้ปี 2561 เติบโต +12.5% YoY เป็น 3,025 ล้านบาท และคำสั่งซื้อจากจีนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
          Catalyst เชิงบวกคือ การออก Product ใหม่ภายใต้ชื่อ Beauti Jelly ได้แก่ Fiber 4000mg และ Collagen 1000mg จำหน่ายที่ 7-11 เริ่ม 5 เม.ย. คาดกำไรปกติปีนี้จะทำระดับสูงสุดใหม่เป็นปีที่ 2 เป็น 476 ล้านบาท +23.8% YoY
เก็งกำไร INTUCH
  ราคาปิด 58.75 บาท
  ราคาเหมาะสม 74.75 บาท
          ปัจจัยหนุนทางเทคนิค หลังปรับตัวผ่าน 58.50 บาทได้วานนี้ และคาดแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 60.00 และ 61.00 บาท และ Stop loss หากปรับตัวลงต่ำกว่า 57.75 บาท
          ราคายัง Laggard เมื่อเทียบกับราคาหุ้น ADVANC โดย YTD หุ้น INTUCH +4.4% เทียบกับ ADVANC +8.9% และขึ้น XD ปันผลหุ้นงละ 1.27 บาท วันที่ 9 เม.ย. คิดเป็น Dividend Yield 2.1%
Profit - Taking    :    N.A.
กลยุทธ์วันนี้
          วานนี้ SET INDEX ฟื้นตัวทางเทคนิคตามที่เราคาด ด้วยการกลับมาทดสอบ 1800 จุดอีกครั้ง นำโดยหุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap.) อย่าง PTT ซึ่งได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น และ SCC มี Sentiment เชิงบวกจากการได้รับคัดเลือกเข้าดัชนี FTSE Large Cap ในรอบนี้ ซึ่งมีผล ณ ราคาปิดวันศุกร์นี้ (16 มี.ค.)
          เราประเมินทิศทาง SET INDEX ในวันนี้ แกว่งตัวออกข้าง ด้วยกรอบการเคลื่อนไหว 1790-1810 จุด เชื่อว่า ตลาดหุ้นไทยจะกลับมามีทิศทางชัดเจนอีกครั้งในช่วงปลายเดือนนี้ เพื่อเก็งกำไรต่อแนวโน้มผลประกอบการ 1Q61 ของกลุ่มธนาคาร รวมถึง รอดูคาดการณ์เศรษฐกิจของเฟด ในการประชุม วันที่ 20-21 มี.ค.
          กลุ่มสื่อสาร โดยเฉพาะ Mobile Operators ราคาหุ้นเคลื่อนไหวโดดเด่นกว่าตลาดโดยรวม ประเด็นสำคัญของกลุ่มนี้คือ กรอบเวลาของการประมูลคลื่น ซึ่งเราประเมินว่า มีโอกาสสูงที่จะเลื่อนออกไปอย่างน้อย 1-2 ไตรมาส ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนผู้เล่นที่มีคลื่นความถี่ในมือพร้อม อย่าง TRUE และ ADVANC (ติดตามบทวิเคราะห์ Sector Update เช้านี้)
          กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ กลุ่ม Domestic Play ยังคงเป็นเป้าหมายในการสะสม เน้นกลุ่มค้าปลีก (BJC/ CPALL), สื่อสาร (ADVANC/ TRUE), ธนาคาร (KBANK/ TMB) เสริมด้วย การเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็ก (SMID Cap) ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว แต่ราคาหุ้นยังคง Underperform
HOT Topic
1. ต่างชาติซื้อสุทธิวันที่ 2 ติดต่อกัน หุ้นใดเป็นเป้าหมายในการเข้าซื้อรอบนี้?
 2. ติดตามบทวิเคราะห์กลุ่ม ICT ฉบับเต็มของเรา ประเด็นเลื่อนประมูลคลื่น 900MHz, 1800MHz ใครได้ประโยชน์สูงสุด
3. มุมมองหุ้น SAPPE หลังเข้าประชุมกับผู้บริหารวานนี้
4. หุ้น Laggard ในกลุ่มพลังงานตัวใดยังน่าสนใจ?
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
          วานนี้ SET INDEX ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อนแรงถึง 24.95 จุด (+1.41%) ปิดที่ 1800.32 จุด มูลค่าการซื้อขายลดลงเหลือ 6.4 หมื่นล้านบาท นำโดยหุ้นขนาดกลาง-ขนาดใหญ่ สะท้อนจากดัชนี SET50 +1.58% และ SET100 +1.52% ขณะที่ดัชนี sSET เพิ่มขึ้นเพียง 0.56% ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเล็กน้อยราว 632 ล้านบาท นับเป็นการซื้อสุทธิวันที่ 2 ติดต่อกันรวมราว 3.4 พันล้านบาท ขณะที่สถาบันในประเทศซื้อสุทธิหนาแน่นถึง 5.4 พันล้านบาท ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติและกลุ่มสถาบันในประเทศ+บัญชี บล. มีสถานะ Long สุทธิหนาแน่นถึง 5.8 พันสัญญา และ 4.4 พันสัญญา ตามลำดับ ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิสะสมเหลืออยู่ราว 2.6 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิสะสมราว 2.2 หมื่นสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเล็กน้อยเพียง 74 ล้านบาท ขณะที่ค่าเงินบาทยังทรงตัวอยู่ในระดับแข็งค่าที่ 31.28 บาท/USD
ปัจจัยสำคัญวันนี้
เลขาธิการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เตรียมเสนอให้สหรัฐฯ ลดภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมต่อสหภาพยุโรป
Bloomberg Economics ประเมินหากเกิดสงครามทางการค้า (Trade War) เต็มรูปแบบ ในกรณีเลวร้าย จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกมากถึง 4.7 แสนล้านเหรียญฯ หรือคิดเป็น 0.62% ของ GDP โลก
แผน IPO ของหุ้น Aramco มีโอกาสเลื่อนเวลาเป็นปี 2562 โดยบริษัทฯเปิดเผยว่า อยู่ในระหว่างการทบทวนรายเอียดในการนำหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์
AOT เผยมีแผนออก TOR สัมปทานดิวตี้ฟรี แบ่งเป็น 2 สัญญา โดยจะได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการภายใน 1-2 เดือนนี้ และคาดว่าจะเริ่มการประมูลในช่วงกลางปี 2561
ติดตามการประชุม ครม. คาดจะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.ก. กำกับดูแลเงินสกุลดิจิทัล (ICO) วันนี้
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ก.พ. คาดขยายตัว 2.2%YoY วันที่ 13 มี.ค.
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อ EU เดือน ก.พ. คาดขยายตัว 1.2%YoY วันที่ 16 มี.ค.
ติดตามการปรับน้ำหนักของดัชนี FTSE ณ ราคาปิดวันที่ 16 มี.ค.
         
Strategist Team
          Mayuree Chowvikran    Head of Research ,662-009-8050
          Padon Vannarat  Strategist ,662-009-8060
          Piyapat Patarapuvadol      Strategist ,662-009-8062
          Nutt Treepoonsuk     Strategist  , 662-009-8059
OO6369