- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 12 March 2018 16:26
- Hits: 1426
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวในระดับ ...กำลังพอดีๆ””
ตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งกว่าคาดของสหรัฐฯ ขณะที่ค่าจ้างแรงงาน (average hourly earnings) ชะลอตัวลง ถือเป็นส่วนผสมที่ดีที่ทำให้นักลงทุนมองบวกต่อเศรษฐกิจ และลดทอนความกังวลต่อเงินเฟ้อ สร้างจิตวิทยาบวกต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ส่งผลให้หุ้นสหรัฐฯปรับขึ้นยืนเหนือ 25,000 จุดได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา เรามองหุ้นโลกสัปดาห์นี้มีโอกาสเกิด technical rebound จากปัจจัยกดดันต่างๆที่บรรเทาลง อาทิ สงครามการค้าที่อาจรุนแรงน้อยกว่าคาดหลังทรัมป์เปิดโอกาสให้คู่ค้าสามารถเจรจาต่อรองเพื่อขอยกเว้นภาษีนำเข้าเหล็ก-อะลูมิเนียม, ความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลีที่มีสัญญาณคลี่คลายหลังเกาหลีเหนือเผยพร้อมเจรจาสหรัฐฯเพื่อยุติโครงการนิวเคลียร์ ขณะที่รอติดตามการประชุมนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC meeting) สัปดาห์หน้า ในวันที่ 21 มี.ค.นี้
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีโอกาสฟื้นตัวตามหุ้นโลก หุ้นกลุ่มพลังงานมีโอกาสฟื้นตัวช่วงสั้น แต่ระวังราคาน้ำมันอาจอ่อนตัวลงหลังความขัดแย้งระหว่างประเทศคลี่คลาย รวมถึงการเข้าจดทะเบียน (IPO) ของ Saudi Aramco มีแนวโน้มเลื่อนไปเป็นปี 2562 โดยภาพใหญ่ยังคงเป็นการแกว่งตัวออกข้าง (sideway trend) ในกรอบ 1760-1850 จนกว่าจะมีประเด็นบวกใหม่ โดยเราคาดการรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/61 ของกลุ่มธนาคารที่คาดจะปรับดีขึ้น และความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้งจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของตลาดต่อไป
Investment Theme // กลุ่มธนาคาร หุ้นที่เราชอบได้แก่ BBL, KBANK, KTB //การแพทย์ หุ้นพื้นฐานดีที่ Underperform & Under-owned ในช่วงที่ผ่านมา BDMS, BH, BCH, THG*// หุ้นที่ได้ประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับขึ้น TIP*, THREL* // กลุ่มเดินเรือ ค่าระวางเรือ (BDI) เริ่มขาขึ้นช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. ได้แก่ PSL TTA // กลุ่มพลังงาน top pick 3 อันดับ 1) BANPU, 2) PTTEP และ 3) IRPC, IVL, PTTGC
ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัว แนะนำเตรียมเงินสดราว 25-30% เพื่อเลือกซื้อรายตัวในจังหวะผันผวน นักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังและกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง รวมถึงตั้งจุดขายล็อคกำไร (trailing stop) ในหุ้นที่ถือครอง // หุ้นแนะนำ SCC, EASTW, MBK*
แนวรับ 1766 / แนวต้าน : 1787 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวในระดับ ...กำลังพอดีๆ””
ตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งกว่าคาดของสหรัฐฯ ขณะที่ค่าจ้างแรงงาน (average hourly earnings) ชะลอตัวลง ถือเป็นส่วนผสมที่ดีที่ทำให้นักลงทุนมองบวกต่อเศรษฐกิจ และลดทอนความกังวลต่อเงินเฟ้อ สร้างจิตวิทยาบวกต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ส่งผลให้หุ้นสหรัฐฯปรับขึ้นยืนเหนือ 25,000 จุดได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา เรามองหุ้นโลกสัปดาห์นี้มีโอกาสเกิด technical rebound จากปัจจัยกดดันต่างๆที่บรรเทาลง อาทิ สงครามการค้าที่อาจรุนแรงน้อยกว่าคาดหลังทรัมป์เปิดโอกาสให้คู่ค้าสามารถเจรจาต่อรองเพื่อขอยกเว้นภาษีนำเข้าเหล็ก-อะลูมิเนียม, ความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลีที่มีสัญญาณคลี่คลายหลังเกาหลีเหนือเผยพร้อมเจรจาสหรัฐฯเพื่อยุติโครงการนิวเคลียร์ ขณะที่รอติดตามการประชุมนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC meeting) สัปดาห์หน้า ในวันที่ 21 มี.ค.นี้
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีโอกาสฟื้นตัวตามหุ้นโลก หุ้นกลุ่มพลังงานมีโอกาสฟื้นตัวช่วงสั้น แต่ระวังราคาน้ำมันอาจอ่อนตัวลงหลังความขัดแย้งระหว่างประเทศคลี่คลาย รวมถึงการเข้าจดทะเบียน (IPO) ของ Saudi Aramco มีแนวโน้มเลื่อนไปเป็นปี 2562 โดยภาพใหญ่ยังคงเป็นการแกว่งตัวออกข้าง (sideway trend) ในกรอบ 1760-1850 จนกว่าจะมีประเด็นบวกใหม่ โดยเราคาดการรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/61 ของกลุ่มธนาคารที่คาดจะปรับดีขึ้น และความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้งจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของตลาดต่อไป
Investment Theme // กลุ่มธนาคาร หุ้นที่เราชอบได้แก่ BBL, KBANK, KTB //การแพทย์ หุ้นพื้นฐานดีที่ Underperform & Under-owned ในช่วงที่ผ่านมา BDMS, BH, BCH, THG*// หุ้นที่ได้ประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับขึ้น TIP*, THREL* // กลุ่มเดินเรือ ค่าระวางเรือ (BDI) เริ่มขาขึ้นช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. ได้แก่ PSL TTA // กลุ่มพลังงาน top pick 3 อันดับ 1) BANPU, 2) PTTEP และ 3) IRPC, IVL, PTTGC
ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัว แนะนำเตรียมเงินสดราว 25-30% เพื่อเลือกซื้อรายตัวในจังหวะผันผวน นักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังและกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง รวมถึงตั้งจุดขายล็อคกำไร (trailing stop) ในหุ้นที่ถือครอง // หุ้นแนะนำ SCC, EASTW, MBK*
แนวรับ 1766 / แนวต้าน : 1787 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
ประเด็นการลงทุน
โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมันปรับขึ้นรับปัจจัยบวกจากความขัดอย้งในคาบสมุทรเกาหลีท่าส่งสัญญาณคลี่คลาย ประกอบกับจำนวนแท่นจขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯที่ปรับลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 7 สัปดาห์ // ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดที่ 1,201 จุด (+0.33%) // ถ่านหิน Newcastle ปิดที่ 99.4 เหรียญฯต่อตัน (-0.55%)
BOJ เดินหน้าผ่อนคลายการเงินต่อเนื่อง – BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% พร้อมเผยว่าอาจเพิ่มมาตรการผ่อนคลายทางการเงินหากมีความจำเป็น เพื่อให้ BOJ บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2%
ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯเพิ่มสูงกว่าคาด ขณะที่ตัวเลขค่าจ้างแรงงานชะลอตัว – สหรัฐเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.พ.เพิ่มขึ้น 313,000 ตำแหน่ง ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์และสูงสุดในรอบกว่า 1 ปีครึ่ง ขณะที่ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงชะลอลงกว่าคาด ลดทอนความกังวลการปรับขึ้นของเงินเฟ้อและอัตราผลตอบแทนพันธบัตร
IMF แนะไทยนำทุนสำรองฯมาหาผลประโยชน์เพิ่มเติม – IMF แนะไทยนำทุนสำรองระหว่างประเทศที่มีอยู่เป็นจำนวนมากมาใช้ให้เกิดประโยชน์หรือหาผลตอบแทนเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ธปท.ระบุอยู่ในช่วงศึกษาแนวทางเนื่องจากการนำทุนสำรองระหว่างประเทศออกมาใช้ประโยชน์ เป็นเรื่องอ่อนไหวสำหรับสังคมไทย จึงต้องศึกษาเรื่องนี้ให้รอบคอบ
ประเด็นติดตาม: 21 มี.ค. US – FOMC meeting, 28 มี.ค. TH – ประชุมนโยบายการเงิน (กนง.), 30 มี.ค. TH – ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมันปรับขึ้นรับปัจจัยบวกจากความขัดอย้งในคาบสมุทรเกาหลีท่าส่งสัญญาณคลี่คลาย ประกอบกับจำนวนแท่นจขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯที่ปรับลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 7 สัปดาห์ // ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดที่ 1,201 จุด (+0.33%) // ถ่านหิน Newcastle ปิดที่ 99.4 เหรียญฯต่อตัน (-0.55%)
BOJ เดินหน้าผ่อนคลายการเงินต่อเนื่อง – BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% พร้อมเผยว่าอาจเพิ่มมาตรการผ่อนคลายทางการเงินหากมีความจำเป็น เพื่อให้ BOJ บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2%
ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯเพิ่มสูงกว่าคาด ขณะที่ตัวเลขค่าจ้างแรงงานชะลอตัว – สหรัฐเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.พ.เพิ่มขึ้น 313,000 ตำแหน่ง ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์และสูงสุดในรอบกว่า 1 ปีครึ่ง ขณะที่ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงชะลอลงกว่าคาด ลดทอนความกังวลการปรับขึ้นของเงินเฟ้อและอัตราผลตอบแทนพันธบัตร
IMF แนะไทยนำทุนสำรองฯมาหาผลประโยชน์เพิ่มเติม – IMF แนะไทยนำทุนสำรองระหว่างประเทศที่มีอยู่เป็นจำนวนมากมาใช้ให้เกิดประโยชน์หรือหาผลตอบแทนเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ธปท.ระบุอยู่ในช่วงศึกษาแนวทางเนื่องจากการนำทุนสำรองระหว่างประเทศออกมาใช้ประโยชน์ เป็นเรื่องอ่อนไหวสำหรับสังคมไทย จึงต้องศึกษาเรื่องนี้ให้รอบคอบ
ประเด็นติดตาม: 21 มี.ค. US – FOMC meeting, 28 มี.ค. TH – ประชุมนโยบายการเงิน (กนง.), 30 มี.ค. TH – ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)
นักกลยุทธ์: กิจพณ ไพรไพศาลกิจ
Email: [email protected]
OO6309
นักกลยุทธ์: กิจพณ ไพรไพศาลกิจ
Email: [email protected]
OO6309