- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 04 September 2014 16:18
- Hits: 1957
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ “ New high ”
ความคาดหวังต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ (QE) ในการประชุม ECB วันที่ 4 ก.ย.นี้ ประกอบกับการเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคหลังจากดัชนีสามารถผ่าน 1,570 จุดขึ้นมาได้ ส่งผลให้ SET วานนี้พุ่งขึ้นทำ New high ในรอบปีเศษปิดที่ 1,583.27 จุด (+14.67 จุด) vol 5.1
หมื่นลบ.
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ปัญหาการเมืองในยูเครนมีสัญญาณบวกเพิ่มมากขึ้น หลังประธานาธิบดีของรัสเซียและยูเครนได้หารือกันถึงการหยุดยิง โดยประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินเสนอแผน 7 ประการเพื่อยุติการปะทะทางทหาร และมีแนวโน้มที่บรรลุการเจรจาของทั้งสองฝ่าย
(+) รายงาน Beige Book ระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐขยายตัวขึ้น ขณะที่แนวโน้มตลาดแรงงาน ค่าแรง และราคาผู้บริโภค ยังคงทรงตัว
(+) ราคาน้ำมันปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ
(+) การคาดหมายการทยอยยกเลิกกฎอัยการศึกในบางพื้น โดยจะพิจารณาจากจังหวัดที่ คสช.ยกเลิกมาตรการเคอร์ฟิวก่อนหน้า และจังหวะท่องเที่ยว
(+) Fund Flow ต่างชาติมี Net Buy มูลค่า 1,900 ล้านบาท พร้อมการแข็งค่าของเงินบาทที่ทะลุ 32 บาทต่อดอลลาร์ลงมาอีกครั้ง
(-) ระดับ Valuation ของดัชนีที่แพงขึ้น หลังการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีการซื้อขายที่ PER ที่ 16 และ 13.8 เท่าของปี 57 และ 58 ตามลำดับ และมี Dividend Yield ที่ 2.9% และ 3.3% จาก Concensus
(+/-) วันนี้ อัยการสูงสุดเตรียมแถลงข่าวสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าไปเกี่ยวข้อง
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
* ปัญหาการเมืองในยูเครน อิรัก และ บริเวณฉนวนกาซ่า
* การประชุม BOJ ในช่วงเช้าวันนี้ ต่อนโยบายเศรษฐกิจ
* การประชุม ECB ในวันพฤหัสบดีนี้ คาดหมายการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น อย่างการลดดอกเบี้ยและโครงการ QE
กลยุทธ์การลงทุน “เด้งต่อ สร้างโอกาสทำกำไร”
ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวโน้มผันผวนมากขึ้นในระยะสั้น หลังการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแรงของดัชนี สร้างโอกาสในการขายทำกำไรของ Trigger Fund และระดับ Valuation ที่เริ่มแพงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ปัจจัยบวกของการประชุม ECB ยังคงเป็นประเด็นบวกที่สำคัญจากการคาดหมายการดำเนินนโยบาย QE เช่นเดียวกับสหรัฐ พร้อมความเสี่ยงของการเมืองในยูเครนที่ลดลง เน้นหุ้นที่ได้รับผลดีจากนโยบายภาครัฐ ก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง ท่องเที่ยว และหุ้นกลุ่มธนาคารที่ได้รับผลดีจากเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัว
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
CPALL ราคาปิด 46.75 บาท ราคาพื้นฐาน 49 บาท
* คาดกำไรปี 2557 ที่ 1.1 หมื่นลบ. (+17%YoY) จากการขยายสาขาอีก 600 สาขาเป็น 9,000 สาขา และเป็น 10,000 สาขาในปี 2561 เน้นขยายร้านในพื้นที่ต่างจังหวัดเป็นสัดส่วน 60% และเพิ่มศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่
* ตั้งแต่ Q357 ต้นทุนการเงินจะปรับตัวลงจากการ refinance หนี้
* การเข้าซื้อ MAKRO เป็นการเสริมศักยภาพและกำไรในระยะยาว
CK ราคาปิด 28.00 บาท
* backlog สูงกว่า 1 แสนล้านบาท เช่น เขื่อนไซยะบุรี รถไฟฟ้าสายสีม่วง ทางด่วนศรีรัช ฯลฯ รองรับงานไปอีก 4 – 5 ปีข้างหน้า
* Q3/57 บุ๊คกำไรพิเศษราว 800 ลบ.จากการขายหุ้น BMCL หนุนให้คาดกำไรปี 2557 ที่ 1.2 พันลบ. และปันผลที่ 035 บาท/หุ้น
* ได้ผลดีจากคสช.อนุมัติโครงสร้างพื้นฐาน 2.4 ล้านล้านบาท
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ