- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 09 March 2018 17:24
- Hits: 3341
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
รีบาวด์ก่อนผันผวนต่อ
KGI คาด SET วันศุกร์ฟื้นตัวได้บ้าง ก่อนผันผวนต่อ รอตัวเลขสำคัญจากฝั่งสหรัฐฯ ค่ำวันนี้ (วานนี้ดัชนีฯ ผันผวนแรงทั้งวัน ก่อนปิดลบเล็กน้อย แม้ สนช. เห็นชอบกฎหมายที่มา ส.ส. และ ส.ว.แล้ว) สำหรับปัจจัยภายนอกเมื่อคืนค่อนข้างดี ธีมหลักคือความเสี่ยงการเมืองสหรัฐฯ และด้านภูมิรัฐศาสตร์ลดลง ตามข่าว i) โดนัลด์ ทรัมป์ เซ็นคำสั่งเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก/อลูมิเนียมแล้ว แต่ยกเว้นประเทศแคนาดาและเม็กซิโก และเปิดช่องยกเว้นประเทศอื่นๆ ด้วย (น่าจะเป็นการเจรจากรณีๆ ไป) และ ii) เช้านี้เกาหลีใต้รายงานว่าเกาหลีเหนือยืนยันพร้อมหยุดทดลองนิวเคลียร์ และนัดเจรจากับโดนัลด์ ทรัมป์ ในเดือน พ.ค. นี้ ปัจจัยต่างๆ ดังกล่าวน่าจะทำให้จิตวิทยาหุ้นเอเชียดีขึ้น อย่างไรก็ดีคาดว่า SET รีบาวด์ได้จำกัด เนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลงต่อน่าจะกดดันราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานอยู่บ้าง และนักลงทุนส่วนหนึ่งยังชะลอเพื่อติดตามตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ก.พ. ในค่ำวันนี้ ข้อมูลสำคัญได้แก่ค่าจ้างแรงงาน ก.พ. ซึ่ง consensus คาด +0.2% MoM, +2.8% YoY (เทียบกับที่ปรับขึ้น 2.9% YoY ในเดือนก่อนหน้านี้) ทั้งนี้ฝ่ายวิจัย KGI ยังคงมุมมองว่าความเสี่ยงทางลงของการปรับฐานเดือนนี้อยู่ที่ 1,760-1,770 จุด (การประเมินด้วยวิธี earnings yield gap และด้วยวิธี current PE band ให้ผลที่ใกล้เคียงกันแถวๆ ระดับดังกล่าว)
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร KTB*, BANPU*, COM7*
KTB* (เป้าพื้นฐาน 19 บาท) 1) ประเมินแกว่งตัว Sideway up แนวรับ 19.7 บาท / แนวต้าน 20.5 บาท และถัดไปที่ 20.8 บาท (Stop loss 19.5 บาท) 2) ประเด็นข่าว ศาลฯพิพากษายกเลิกคำสั่งระงับขายที่ดิน AQ 4.3 พันไร่ เพื่อจ่ายหนี้คืนให้กับ KTB* เราประเมินเป็น Sentiment บวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงาน 3) Valuation ไม่แพงด้วย PBV 0.97 เท่า เทียบ ROE ปี 2561 - 62 ที่ 9 - 10% และปันผล 0.61 บาท/หุ้น Dividend yield 3.1% (ขึ้น XD วันที่ 7 พ.ค.)
BANPU* (เป้าพื้นฐาน 27.5 บาท) 1) ประเมินราคาหุ้นปรับลงหลังผลการตัดสินคดีหงสา เป็นผลจากการ Sell on fact มองเป็นโอกาสซื้อเก็งกำไร เนื่องจาก ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานหลักยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยคาดกำไรปกติปี 2561 โต +36% YoY จาก ปริมาณขายถ่านหินที่เพิ่มขึ้น +10% YoY และราคาขายที่คาดจะเพิ่มขึ้น +8.5% YoY 2) ประเมินแนวรับ 21.2 บาท / แนวต้าน 22.2 บาท (Stop loss 20.8 บาท)
COM7* (เป้า Consensus 20.2 บาท) 1) ประเมินราคาหุ้นพักฐานที่แนวรับหลังปรับขึ้นแรงตามคาดแล้ว เป็นโอกาสซื้อเก็งกำไร ประเมินแนวรับ 18.3 บาท / แนวต้าน 20 บาท (Trailing stop 17.5 บาท) 2) เราประเมินความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้ง (สนช ผ่านร่างกฏหมายฯ และคาดกรอบการเลือกตั้งไม่เกิน ก.พ.2562) จะทำให้ Sentiment เศรษฐกิจและการบริโภคในประเทศเป็นบวกต่อเนื่องได้ 3) ประเมินดีมานด์ สินค้าไอที ยังเติบโตรองรับยุคดิจิตอล และผู้ประกอบการหลักทยอยออกสินค้ารุ่นใหม่ๆ เช่น Samsung S9, และ iPhone เตรียมเปิดตัว iPhone SE2 เป็นต้น โดย Consensus ยังคาดกำไรปีนี้โต +22.2% YoY
หุ้นมีข่าว
(+PTTEP*) เมื่อวานนี้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช) ได้อนุมัติหลักเกณฑ์การประมูลโครงการบงกชและเอราวัณ และคาดว่าจะออก TOR ได้ในเดือนเมษายน (ข่าวหุ้น) comment: การประมูลที่กำลังจะมีขึ้นจะใช้รูปแบบใหม่ของสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) และจะแบ่งออกเป็น 2 สัญญาคือ เอราวัณ (G1/61) และบงกช (G2/61) โดยกำหนดเงื่อนไขเบื้องต้นสำหรับสัญญาการผลิตขั้นต่ำ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตสำหรับเอราวัณ และ 700 ล้านลูกบาศก์ฟุตสำหรับบงกช ซึ่งหลังจากที่กพช. ออก TOR ในเดือนเมษายนแล้ว คาดว่าจะเริ่มเปิดการประมูลได้ในเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน 2561 และประกาศรายชื่อผู้ชนะในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 เรามีมุมมองที่เป็นบวกต่อการประมูลโครงการเอราวัณและบงกชที่กำลังจะเกิดขึ้น เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ PTTEP ที่ราคาเป้าหมาย 113.00 บาท
(-) การเมืองฉุดดัชนีเชื่อมั่นวูบ (โพสต์ทูเดย์) ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.พ. อยู่ที่ 79.3 ลดลงรอบ 7 เดือน กังวลการเมืองเลื่อนเลือกตั้ง นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจความ เชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยเดือน ก.พ. 2561 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอยู่ที่ 79.3 ลดลงจากเดือนก่อนที่ 80 ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบ 7 เดือน เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเมืองและปัจจัยการเมืองที่เลื่อนเลือกตั้งออกไป ทำให้ค่าดัชนีความคิดเห็นสถานการณ์การเมืองลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 มีผลกระทบเชิงลบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนและนักลงทุน
(+) SUPER* ออกหุ้นกู้ 3.6 หมื่นล. เปลี่ยนชื่อบริษัทให้สอดคล้องกับธุรกิจ (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) "จอมทรัพย์ โลจายะ" ลั่น "ซุปเปอร์บล๊อก" พร้อมใส่เกียร์เดินหน้าขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศเต็มเหนี่ยว ล่าสุดบอร์ดไฟเขียวออกหุ้นกู้วงเงินกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท เพื่อปรับโครงสร้างการเงินให้ สมดุลกับแผนรุกธุรกิจ ขณะที่สถาบันการเงินพร้อมหนุนเต็มที่เหตุมั่นใจในศักยภาพธุรกิจ หลังโชว์ผลงานทำสถิติสูงสุดใหม่ในปี 2560 กำไรสุทธิพุ่งจากปีที่ผ่านมา ส่วนปี 2561 ปักธงรายได้โตเกินร้อยละ 25 พร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่ไฉไล กว่าเดิม "ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น"
(+) หนุน EA* ลุยแบตเตอรี่แสนล. (กรุงเทพธุรกิจ) นายวศิน ไสยวรรณรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสูงสุด Corporate Banking กล่าวว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB* กล่าวว่า ในฐานะผู้ให้การสนับสนุนทางการเงินหลักแก่ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA* มาตลอดทุกโครงการกว่า 6 ปีที่ผ่านมา มั่นใจว่าพื้นฐานของ EA แข็งแกร่ง จึงพร้อมสนับสนุนแผนลงทุน ปี 2560 -2562 มูลค่ารวมประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท
(+) ASAP ปี 63 รายได้พุ่ง 4,500 ล้าน ลงทุน 3 ปีหมื่นล้าน ขยายฐานรถยนต์ในมือ (ข่าวหุ้น) ASAP ลั่นปี 2563 ฟันรายได้พุ่ง 4,500 ล้านบาท ตั้งงบลงทุน 3 ปี รวม 10,000 ล้านบาท ขานรับแผนขยายรถยนต์ให้เช่าสูงแตะ 20,000 คัน
(+) 'กรุงศรี' ฟันธงธุรกิจเอสเอ็มอีฟื้น (กรุงเทพธุรกิจ) คาดยอดปล่อยสินเชื่อปีนี้ โต 8% พอร์ตแตะ 1.85 แสนล้าน "กรุงศรี" เผยธุรกิจเอสเอ็มอี เริ่มฟื้น หนุนช่วง 2 เดือนยอดสินเชื่อ โตเข้าเป้า มั่นใจทั้งปีพอร์ตโต 8% แตะระดับ 1.85 แสนล้าน ลั่นคุม "เอ็นพีแอล" ไม่เกิน 4.2% ชูกลยุทธ์ผนึก "เอ็มยูเอฟจี" ขยายฐานลูกค้าใหม่ พร้อมลุยพัฒนา นวัตกรรมการเงินสู่ยุคสังคมไร้เงินสด
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
TOA (เป้าพื้นฐาน 40.5 บาท) ประเมินแนวรับ 34.25 บาท / แนวต้าน 37 บาท (Trailing stop 33.75 บาท)
SGP* (ยังไม่มีเป้า Consensus) ประเมินแนวรับ 28 บาท / แนวต้าน 29.75 บาท และถัดไปที่ 31.5 บาท (Trailing stop 27 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
GFPT* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 13.8 บาท จากที่ประชุมนักวิเคราะห์ ฝ่ายวิจัยฯ ยังมีมุมมองเป็นลบ โดยประเมินผลการดำเนินงานปีนี้ยังมีปัจจัยลบจากอัตรากำไรที่ยังต่ำ เพราะ i) อุปทานไก่ในประเทศยังสูง ii) ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับสูงขึ้น อย่างไรก็ดีแม้ภาพรวมจะยังไม่เด่น แต่ด้วย Valuation ที่ไม่แพง PBV เพียง 1.3 เท่า ฝ่ายวิจัยฯจึงแนะนำ "ถือ"
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- แนวต้าน 1780 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือต้าน 1780 จุดนั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1780-1796 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่าต้าน 1780 จุดนั้น อาจสะสมแรงกดลง -51 จุด กดดัชนีลงสู่แนวรับ 1729 จุด
แนวรับวันนี้: 1767/1755 แนวต้านวันนี้: 1786/1794
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล
66.2658.8888 ต่อ 8843
[email protected]
OO6247