- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 26 February 2018 17:12
- Hits: 1577
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selections: >>ANAN, CPALL, PTT
Stock S R Comment
ANAN 4.90 5.60 คาดกำไรปี 2561 โต 96% YoY จากการหนุนของ JV
CPALL 80.00 88.00 กำไรทำ New High SSSG เป็นบวก คาดโตต่อในปี 2561 พร้อมปรับประมาณการขึ้น
PTT 521.00 555.00 โมเมนตัมของราคาน้ำมันดิบหนุน Upside Gain
ENERG should continue their outperformance
Factors: ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ได้แก่
1) การแถลงของนาย Jerome Powell ประธาน Fed คนใหม่ต่อสภา Congress เป็นครั้งแรก ซึ่งจะเป็นการชี้แจงต่อหน้าสส.ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์และสว.ในวันที่ 1 มีนาคม คาดโทนออกมาเป็นกลาง แต่หากถ้อยแถลงมีการโน้มเอียงไปในทิศทาง Hawkish/Dovish อย่างชัดเจน มีโอกาสทำให้ Bond yield สหรัฐฯปรับตัวขึ้น/ลงได้อย่างสำคัญ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการโยกย้ายเงินลงทุนทั่วโลกอีกครั้ง ทั้งนี้ ล่าสุด Bond yield 10 ปีของสหรัฐฯปรับตัวลงหลุดระดับค่าเฉลี่ย 10 วัน มองเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงต้นสัปดาห์นี้
2) การรายงานตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีนประจำเดือนกุมภาพันธ์ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ซึ่งล่าสุดตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 51.2 ใกล้เคียงกับเดือนก่อนที่ 51.3
3) การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของไทยประจำเดือนมกราคม โดยมีตัวเลขที่น่าสนใจต้องติดตามได้แก่ การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ดุลบัญชีเดินสะพัดและดุลการชำระเงิน และการเติบโตของปริมาณเงิน
Oil: สถิติสัปดาห์ล่าสุด (สิ้นสุด ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์) บ่งชี้ว่านักลงทุนประเภท Hedge funds มีการปิดสถานะ Long ในตลาดน้ำมันดิบล่วงหน้าเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน โดยคิดเป็นปริมาณ 22.9 ล้านบาร์เรล หรือมูลค่าราว 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มองเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากคาดว่าปัจจัยกดดันราคาน้ำมันดิบจะลดลงตามลำดับ คาดราคาน้ำมันดิบจะแกว่งตัวในกรอบ 60-70 เหรียญฯ/บาร์เรลในช่วง 1-3 เดือนข้างหน้าต่อไป มองเป็นปัจจัยประคับประคองกลุ่มพลังงานและ SET Index ที่สำคัญ
ENERG: กลุ่มพลังงานยังเป็นกลุ่มที่ปลอดภัยจากปัจจัยภายในประเทศด้วยเช่นกัน ภายหลังจากนักลงทุนเริ่มกังวลอีกครั้งว่าการเลือกตั้งจะถูกเลื่อนออกไปจากกำหนดการช่วงต้นปีหน้าอีกหรือไม่ หลังจากที่สนช.ลงมติปัดตกผลคัดเลือกกกต.ชุดใหม่ ซึ่งจากประเด็นความไม่แน่นอนทางการเมืองดังกล่าว คาดกลุ่มที่อิงกับปัจจัยภายนอก เช่น พลังงาน ปิโตรเคมี อาหาร อิเล็กทรอนิกส์ มีโอกาสปรับตัว Outperform กลุ่มที่อิงกับอุปสงค์ภายในประเทศ เช่น ธนาคาร ค้าปลีก ก่อสร้าง นิคมอุตสาหกรรม ที่อยู่อาศัย สื่อและสิ่งพิมพ์ ในระยะสั้น
กลยุทธ์การลงทุน: หาก SET Index มีการปรับตัว Rebound ขึ้นไปแถวบริเวณกรอบแนวต้านของเราที่ 1840-1850 จุดในสัปดาห์นี้ แนะนำเป็นจังหวะในการ Take profit ที่สำคัญ เนื่องจากระดับดังกล่าวยังคงเปราะบางในแง่ของ Valuation (Forward PE ปี 2019 ที่ 15 เท่า) โดยที่ EPS ของตลาดหุ้นไทยยังไม่มีสัญญาณถูกปรับขึ้นแม้แต่น้อย
แนวรับ 1795 แนวต้าน 1,821
บทวิเคราะห์วันนี้
ANAN (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 7.00 บาท) 4Q60 อ่อนแอ แต่ 2561 จะหนักแน่น
Today's Event
EGATIF XD 0.19 บาท
GGC XD 0.20 บาท
GPSC XD 0.80 บาท
GVREIT XD 0.2009 บาท
IRPC XD 0.29 บาท
LHHOTEL XD 0.253 บาท
LHPF XD 0.127 บาท
LHSC XD 0.144 บาท
LPN XD 0.35 บาท
QHHR XD 0.131 บาท
QHPF XD 0.144 บาท
RATCH XD 1.25 บาท
Stock S R Comment
ANAN 4.90 5.60 คาดกำไรปี 2561 โต 96% YoY จากการหนุนของ JV
CPALL 80.00 88.00 กำไรทำ New High SSSG เป็นบวก คาดโตต่อในปี 2561 พร้อมปรับประมาณการขึ้น
PTT 521.00 555.00 โมเมนตัมของราคาน้ำมันดิบหนุน Upside Gain
ENERG should continue their outperformance
Factors: ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ได้แก่
1) การแถลงของนาย Jerome Powell ประธาน Fed คนใหม่ต่อสภา Congress เป็นครั้งแรก ซึ่งจะเป็นการชี้แจงต่อหน้าสส.ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์และสว.ในวันที่ 1 มีนาคม คาดโทนออกมาเป็นกลาง แต่หากถ้อยแถลงมีการโน้มเอียงไปในทิศทาง Hawkish/Dovish อย่างชัดเจน มีโอกาสทำให้ Bond yield สหรัฐฯปรับตัวขึ้น/ลงได้อย่างสำคัญ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการโยกย้ายเงินลงทุนทั่วโลกอีกครั้ง ทั้งนี้ ล่าสุด Bond yield 10 ปีของสหรัฐฯปรับตัวลงหลุดระดับค่าเฉลี่ย 10 วัน มองเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงต้นสัปดาห์นี้
2) การรายงานตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีนประจำเดือนกุมภาพันธ์ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ซึ่งล่าสุดตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 51.2 ใกล้เคียงกับเดือนก่อนที่ 51.3
3) การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของไทยประจำเดือนมกราคม โดยมีตัวเลขที่น่าสนใจต้องติดตามได้แก่ การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ดุลบัญชีเดินสะพัดและดุลการชำระเงิน และการเติบโตของปริมาณเงิน
Oil: สถิติสัปดาห์ล่าสุด (สิ้นสุด ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์) บ่งชี้ว่านักลงทุนประเภท Hedge funds มีการปิดสถานะ Long ในตลาดน้ำมันดิบล่วงหน้าเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน โดยคิดเป็นปริมาณ 22.9 ล้านบาร์เรล หรือมูลค่าราว 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มองเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากคาดว่าปัจจัยกดดันราคาน้ำมันดิบจะลดลงตามลำดับ คาดราคาน้ำมันดิบจะแกว่งตัวในกรอบ 60-70 เหรียญฯ/บาร์เรลในช่วง 1-3 เดือนข้างหน้าต่อไป มองเป็นปัจจัยประคับประคองกลุ่มพลังงานและ SET Index ที่สำคัญ
ENERG: กลุ่มพลังงานยังเป็นกลุ่มที่ปลอดภัยจากปัจจัยภายในประเทศด้วยเช่นกัน ภายหลังจากนักลงทุนเริ่มกังวลอีกครั้งว่าการเลือกตั้งจะถูกเลื่อนออกไปจากกำหนดการช่วงต้นปีหน้าอีกหรือไม่ หลังจากที่สนช.ลงมติปัดตกผลคัดเลือกกกต.ชุดใหม่ ซึ่งจากประเด็นความไม่แน่นอนทางการเมืองดังกล่าว คาดกลุ่มที่อิงกับปัจจัยภายนอก เช่น พลังงาน ปิโตรเคมี อาหาร อิเล็กทรอนิกส์ มีโอกาสปรับตัว Outperform กลุ่มที่อิงกับอุปสงค์ภายในประเทศ เช่น ธนาคาร ค้าปลีก ก่อสร้าง นิคมอุตสาหกรรม ที่อยู่อาศัย สื่อและสิ่งพิมพ์ ในระยะสั้น
กลยุทธ์การลงทุน: หาก SET Index มีการปรับตัว Rebound ขึ้นไปแถวบริเวณกรอบแนวต้านของเราที่ 1840-1850 จุดในสัปดาห์นี้ แนะนำเป็นจังหวะในการ Take profit ที่สำคัญ เนื่องจากระดับดังกล่าวยังคงเปราะบางในแง่ของ Valuation (Forward PE ปี 2019 ที่ 15 เท่า) โดยที่ EPS ของตลาดหุ้นไทยยังไม่มีสัญญาณถูกปรับขึ้นแม้แต่น้อย
แนวรับ 1795 แนวต้าน 1,821
บทวิเคราะห์วันนี้
ANAN (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 7.00 บาท) 4Q60 อ่อนแอ แต่ 2561 จะหนักแน่น
Today's Event
EGATIF XD 0.19 บาท
GGC XD 0.20 บาท
GPSC XD 0.80 บาท
GVREIT XD 0.2009 บาท
IRPC XD 0.29 บาท
LHHOTEL XD 0.253 บาท
LHPF XD 0.127 บาท
LHSC XD 0.144 บาท
LPN XD 0.35 บาท
QHHR XD 0.131 บาท
QHPF XD 0.144 บาท
RATCH XD 1.25 บาท